วันนี้ วิริยะ มีเป้าหมาย และทิศทางที่ชัดเจน ว่า ในปีนี้บริษัทจึงให้ความสำคัญในการยกระดับมาตรฐานตัวแทนประกันวินาศภัย ภายใต้พันธกิจ “ยกระดับมาตรฐาน กระชับความสัมพันธ์ และเพิ่มเติมตัวแทนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วไทย” โดยการยกระดับมาตรฐานนั้น บริษัทฯ มุ่งเน้นให้ตัวแทนวิริยะประกันภัยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยอย่างรอบด้าน ทั้งเรื่องประกันภัยรถยนต์ และการประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ และหมายรวมไปถึงความตระหนักในจริยธรรมและจรรยาบรรณของวิชาชีพ นอกจากนี้ยังได้มีการพัฒนาสำนักงานตัวแทนประกันวินาศภัยที่มีอยู่กว่า 300 แห่งให้เป็นสำนักงานตัวแทนมาตรฐานที่มีภาพลักษณ์ทันสมัย พร้อมเทคโนโลยีสารสนเทศ เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายหนึ่งเดียวกับบริษัท เพื่อให้การจัดการงานด้านบริการและงานขายที่มีประสิทธิภาพ
“ใช่แต่บริษัทจะเข้าไปสนับสนุนทั้งด้านเทคโนโลยีและเพิ่มพูนความรู้ให้กับตัวแทนแล้ว บริษัทยังได้มีการกระชับความสัมพันธ์เพื่อตอกย้ำความเป็นครอบครัวเดียวกันในการส่งมอบการบริการดีๆ ให้กับผู้เอาประกันภัย รวมไปถึงการร่วมกันคืนกำไรให้กับสังคม โดยเฉพาะการเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนที่สำนักงานตัวแทนตั้งอยู่ อันเป็นการดำเนินการที่จะได้ร่วมกันสานต่อเจตนารมย์ของผู้ก่อตั้งบริษัทฯ คือคุณเล็ก วิริยะพันธ์ ที่ว่า “ทำธุรกิจเพื่อสังคมที่ดีกว่า ไม่ใช่เพื่อหวังประโยชน์ส่วนตน โดยไม่สนใจผลกระทบต่อสังคม ธุรกิจที่ดีต้องมีกำไร แต่ต้องมีขอบเขต มีคุณธรรมที่เกิดประโยชน์ และไม่เอารัดเอาเปรียบกัน”
นายดลเดช เปิดเผยต่อไปอีกว่า สำหรับการขยายตัวแทนให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วไทย นับเป็นย่างก้าวครั้งสำคัญที่สุดของบริษัทฯ เพราะถือเป็นการสร้างเมล็ดพันธ์ใหม่ตัวแทนวิริยะประกันภัย และเป็นต้นแบบของความเป็นมาตรฐานตัวแทนประกันวินาศภัยมืออาชีพที่แท้จริงในยุคดิจิทัล ซึ่งจะมีความแตกต่างไปจากมาตรฐานเดิมๆ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และที่สำคัญการเพิ่มตัวแทนใหม่มิได้มุ่งหวังในเรื่องของปริมาณของตัวแทนใหม่รวมไปถึงยอดขาย แต่บริษัทฯ มุ่งเน้นเติมเต็มในพื้นที่ที่ตัวแทนเก่ายังไม่สามารถบริการการประกันภัยได้อย่างใกล้ชิดและทั่วถึง โดยในระยะแรกบริษัทฯ จะเปิดรับสมัครในพื้นที่เป้าหมาย รวม 13 จังหวัดด้วยกันคือ ภาคเหนือ ได้แก่ ลำปาง, น่าน, พิจิตร และ อุตรดิตถ์ ภาคตะวันออกฉียงเหนือ ได้แก่ กาฬสินธ์, มหาสารคาม, และศรีษะเกษ ภาคตะวันออก ได้แก่ สระแก้ว และจันทบุรี ภาคกลางและภาคตะวันตก ได้แก่ กาญจนบุรี และภาคใต้ ได้แก่ ตรัง, ชุมพร และภูเก็ต
“โลกทุกวันนี้ ตัวแทนมักจะพูดว่า Online แล้ว หากเป็นในโลกของสื่อออนไลน์ อาจจะดูน่ากลัว แต่วิริยะประกันภัย คิดว่า ออนไลน์ เป็นเรื่องเล็กๆ เป็นเครื่องมือนำทางแค่นั้น แต่การปิดการขายเราเชื่อว่า ความสำคัญของคน ยังมีความมั่นใจในการติดต่อกับคนอยู่ และหากจะถามว่ามั่นใจอีกกี่ปี ผมว่าอีก 10 ปี วิริยะก็ยังคงมั่นใจ เรื่องการขายระหว่างคนกับคนอยู่ ออนไลน์เป็นเพียงเครื่องมือ จะเห็นว่า โลกในปัจจุบันนี้ ยังไม่มีใครสามารถปิดงานขายทางออนไลน์ได้ ไม่มีลูกค้ารายได้ซื้อประกันภัยได้ในช่องทางออนไลน์ เพราะเราเชื่อว่า คนยังต้องเจอกับคนอยู่ นี่คือคำตอบว่า โลกออนไลน์มันน่ากลัวสำหรับคนกลุ่มอื่น แต่วิริยะ กลับมาพัฒนาสนับสนุนตัวแทนให้แข็งแรง”
วิริยะพร้อมที่จะให้การสนับสนุน และพัฒนาศักยภาพตัวแทน นายหน้า เพียงแค่ มั่นใจในแบรนด์ของ วิริยะประกันภัย ผมกล้าพูดว่า แบรนด์ของวิริยะประกันภัย สามารถขายตัวเองได้ 50 % ความขยันและความเข้าใจในเนื้องานอีก 30% และอีก 20% คือแหล่งข้อมูลที่ตัวแทนต้องหา เพราะฉะนั้นผมตีค่าการขายของตัวแทนหากทำงานกับวิริยะ เขาแค่ มีความกระตือรือร้น และความตั้งใจ 30% โดยมีแบรนด์วิริยะเสริมอีก 50% และ ทางบริษัทจะเสริมข้อมูลให้กับตัวแทนอีก 20% ก็จะช่วยให้ตัวแทน นายหน้าสามารถมีเครื่องมือในการทำงานแบบครบองค์ประกอบเต็ม 100% นายดลเดช เล่า