บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด เปิดตัวอย่างเป็นทางการจากความร่วมมือของ 2 โบรกเกอร์ คือ บริษัท แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด และ บริษัท ฮาวเด้น อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ส จำกัด ด้วยการควบรวมกิจการ เพื่อก้าวสู่การเติบโตในรูปแบบของ Hybrids ด้วยการนำความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของทั้ง 2 บริษัท มาทำงานร่วมกัน เพื่อขยายตลาดให้เติบโตอย่างรวดเร็ว
แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ บริษัทนายหน้าประกันภัยที่เน้นการกลุ่มเป้าหมายลูกค้ารายย่อย และมีความเชี่ยวชาญการประกันภัยรถยต์ โดยเฉพาะรถยนต์ระดับไฮคลาส เป็นบริษัทในเครือบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ MGC เอเชีย ซึ่งเป็นบริษัทแม่ กลุ่มธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ผู้จำหน่ายรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู มินิ มอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด และรถยนต์ ฮอนด้า เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ แอสตันมาร์ติน มาเซราติ และเรือยอชท์ อะซิมุท เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยมีพอร์ตประกันภัยรถยนต์กว่า 94% โดยกว่า 80% เป็นกลุ่มลูกค้าจาก MGC และแมกซี่ มองว่า ความเชี่ยวชาญเรื่องตลาดประกันรถยต์เป็นข้อได้เปรียบของบริษัท
ในขณะที่ บริษัท ฮาวเด้น อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ส จำกัด หรือ Howden เป็นบริษัทนายหน้าประกันภัยอินเตอร์ ที่ผ่านการควบรวมกิจการในลักษณะใกล้เคียงกันมาก่อนหน้านี้ อยู่ในเครือ ไฮพีเรียน อินชัวรันส์ กรุ๊ป เน้นและมีความเชี่ยวชาญด้านการประกันภัยในองค์กรขนาดใหญ่ ประกันภัยทรัพย์สิน และประกันภัยธุรกิจเฉพาะที่ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเข้ามาดูแล มีเครือข่ายการบริการครอบคลุมพื้นที่ทั่วโลกมากกว่า 80 แห่ง และทีมทั่วโลกกว่า 10,000 คน โดยมีมูลค่าเบี้ยประกันภัยรวมกว่า 576,000 ล้านบาท
โดยทั้ง 2 บริษัท ได้ร่วมกันแถลงข่าวการร่วมมือทางธุรกิจ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการขยายธุรกิจสู่การเป็นนายหน้าประกันภัยอินเตอร์ในระดับท็อปเท็นของไทยโดยติดอันดับ 1 ใน 4 ภายใน 3 ปี ด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ตั้งเป้าไว้ 3,000 ล้านบาท มีรายได้ 394-400 ล้านบาท และจะนำความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและหา Capacity เพื่อเจาะลึกและขยายเป้าหมายกว้างขวางระดับสากลยิ่งขึ้น หวังที่จะแบ่งเค้กในอุตสาหกรรมประกันภัยในไทยที่มูลค่ากว่า 850,000 ล้านบาทต่อปี และที่สำคัญคือ เป็นการปรับตัวให้สอดรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพตลาดที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันและกำลังเปลี่ยนแปลงไปอีกในอนาคตซึ่งมีปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องและมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นทุกขณะ
การนำความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ของ 2 บริษัท ผสานเข้ากับความกว้างขวางบนเวทีโลกของ ฮาวเด้น ส่งผลให้ ฮาวเด้น แมกซี่ มีความมั่นใจในศักยภาพของตนเองเป็นอย่างยิ่ง ว่าจะสามารถให้บริการลูกค้าประเภทบุคคลหรือองค์กร ด้วยบริการประกันภัยครบวงจร ทั้งในไทยและระดับนานาชาติ โดยมีสินค้าและผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งลูกค้ารายย่อย และ ลูกค้าองค์กร รวมถึงมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษสำหรับการทำประกันภัยรถยนต์ ประกันทรัพย์สินและความรับผิดชอบ ต่อบุคคลภายนอก ประกันการขนส่ง ประด้านวิชาชีพและการเงิน การประกันอัญมณี และเครื่องประดับ ประกันชีวิต สุขภาพ อุบัติเหตุ สวัสดิการพนักงาน และบริการประกันภัยต่อทุกประเภท
โดยนายจิตวุฒิ ศศิบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด บอกว่า จากการร่วมทุนกันครั้งนี้ทำให้ ฮาวเด้น แมกซี่ ได้เป็นส่วนหนึ่งของ ฮาวเด้น โบรกกิ้ง กรุ๊ป นายหน้าประกันภัยที่ใหญ่สุดในโลก ไม่รวมสหรัฐอเมริกา ภายใต้ ไฮพีเรียน อินชัวรันส์ กรุ๊ป และกลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด โดยถือไลน์เซ็นทั้ง นายหน้าประกันวินาศภัย และ ประกันชีวิต โดยมีพันธมิตรกว่า 40 บริษัท โดยนอกเหนือจากการทำธุรกิจนายหน้าในประเทศไทยแล้ว ยังจะเป็นส่วนหนึ่งในการขยายตัวเข้าไปในการทำธุรกิจในกลุ่มเอเชียตะวันออกเชียงใต้ CLMV ด้วย แต่ต้องรอดูความชัดเจนของกฎหมายของแต่ละประเทศด้วย มองว่ามีหลายประเทศที่น่าสนใจในการเข้าไปร่วมดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนไทยที่ไปลงทุนอยู่ในประเทศนั้นๆ สำหรับสัดส่วนการถือหุ้นนั้น กลุ่ม MCG ถืออยู่ที่ 51% ส่วนฮาวเด้นมีสัดส่วนการถือหุ้น 49%
ด้าน มร.โก ชาย ฮวด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฮาวเด้น เอเชีย กล่าวว่า ทางธุรกิจในครั้งนี้ว่า การร่วมทุนกันในครั้งนี้ เป็นการขยายขอบเขตในการให้บริการและเป็นกลยุทธ์ที่ ฮาวเด้น เอเชีย ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ดังนั้น การร่วมมือทางธุรกิจของ ฮาวเด้น และ แมกซี่ จึงส่งผลให้ธุรกิจในไทยของ ฮาวเด้น ขยายตัวเพิ่มเป็น 2 เท่า ซึ่งผมมองว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนธุรกิจของเราในประเทศไทย ให้สามารถเติบโตสู่สากลได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น
ทั้งนี้บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด จะมีสนำนักงานใหญ่ หรือ สาขากรุงเทพฯ อยู่บนถนนลาดพร้าว ซึ่งเป็นสำนักงานเดิมของแมกซี่ และมีสาขาภูเก็ต โดยใช้สำนักงานของฮาวเด้นเดิมที่อยู่เพลินจิตใช้ เป็นสาขาเพลินจิตแทน
