กรุงเทพประกันภัยเผยปี 62 ตั้งเป้าโต 15% เบี้ยฯ รับรวม 20,000 ล้านบาท พร้อมเผยแผนงาน-ทิศทางการดำเนินงานเน้นขยายงานรถยนต์และพัฒนานวัตกรรมการบริการ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ รองรับทั้งด้านการรับประกันภัยและสินไหมทดแทน เพื่อบริการที่รวดเร็วตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าและคู่ค้าอย่างครบวงจร ประเดิมออกสินค้าใหม่ตัยวแรกของปีด้วย “ประกันโรคร้ายจากยุง” พร้อมจัดโปรโมชั่นเนื่องในโอกาสครบรอบ 72 ปี ของบริษัทฯ
ในงานแถลงข่าวประจำปีของบริษัท โดยมี นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ นายพนัส ธีรวนิชย์กุล กรรมและที่ปรึกษาด้านการขยายธุรกิจ และ นายอานนท์ วังวสุ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ร่วมแถลงข่าว โดย ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2562 ว่า บริษัทฯ ยังคงยึดหลักการสร้างดุลยภาพในการขยายงานควบคู่ไปกับการรักษามาตรฐานของผลประกอบการ ภายใต้กระบวนการบริหารจัดการความเสี่ยงภัยอย่างเข้มงวด โดยตั้งเป้าหมายในปี 2562 เติบโต 15% หรือมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 20,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ยังคงรักษาระดับกำไรจากการรับประกันภัยไว้ไม่ต่ำกว่า 10% และกำไรต่อหุ้นไม่ต่ำกว่า 15 บาท
โดยในปีนี้ ได้กำหนดทิศทางการดำเนินงานหลักๆ ได้แก่ การขยายงานด้านการประกันภัยรถยนต์เชิงรุก โดยตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 20% สัดส่วนเบี้ยประกันภัยรถยนต์เพิ่มเป็น 43% จากเดิมอยู่ที่ 41% ในปี 61 เนื่องจากแบรนด์กรุงเทพประกันภัยได้รับความเชื่อถือและเป็นที่ยอมรับทั้งจากลูกค้าและคู่ค้าว่ามีความมั่นคงและมีคุณภาพในการให้บริการสินไหมทดแทนในระดับที่ดี ตลอดจนมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มาให้บริการ ซึ่งสามารถอำนวยความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการเคลมสินไหมทดแทนได้เป็นอย่างดี จึงทำให้มีโอกาสในการเติบโตในการรับประกันภัยรถยนต์มากยิ่งขึ้น
ในปีนี้ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เน้นมากขึ้น เช่น Motor Pricing by Region ที่มี Loss Ratio เพียง 50% โดยจะมีการขยายงานอย่างต่อเนื่อง รถบรรทุก มีการขยายงานอย่างจริงจังตั้งแต่ปลายปี 2561 ผ่าน Package Truck We Insure โดยการปรับเบี้ยประกันภัยให้สามารถแข่งขันในตลาดได้มากขึ้นสำหรับรถบรรทุกขนาดตั้งแต่ 4-12 ตัน และขนาดมากกว่า 12 ตัน โดยปี 2561 เบี้ยประกันภัยรถบรรทุกมีทั้งสิ้น 1,059 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% ประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ ประกันภัยรถยนต์ประเภท 3 มีการปรับปรุงแพกเกจเพิ่มเติม นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษากรมธรรม์ประกันภัยรถบรรทุก logistics ผนวกกับประกัน Carriers’ liability
รวมทั้งยังจะมีการพัฒนาด้านบริการหลังการขายและบริการสินไหมทดแทนยานยนต์ให้ดียิ่งขึ้น โดยได้นำระบบ AI Motor Claims Contact Center มาเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะในการรับโทรศัพท์จากลูกค้า โดยระบบสามารถประเมินความต้องการของลูกค้าที่สนทนาด้วยน้ำเสียงเสมือนจริง รองรับการบริการได้หลากหลายช่องทาง เช่น การแจ้งอุบัติเหตุเพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปให้บริการ เคลม ณ จุดเกิดเหตุ หรือติดต่อสอบถามเรื่องอื่นๆ เช่น การจัดซ่อมรถ การทำประกันภัย โดยระบบจะทำโอนสายให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบดูแลลูกค้าต่อได้ทันที ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มในประมาณไตรมาสที่ 2
การให้บริการเคลมผ่านแอปพลิเคชัน Line โดยใช้ชื่อว่า @bkimotorclaims ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะเพิ่มความสะดวกและความรวดเร็วในการให้บริการรับแจ้งเคลม พร้อมทั้งตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิทัล โดยลูกค้าสามารถแจ้งเคลมประกันภัยรถยนต์ และติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินไหมทดแทนยานยนต์ได้ทันที ทั้งการส่งข้อความ ส่งรูปภาพรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย และแชร์ตำแหน่งที่อยู่ (Location) ซึ่งเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุได้
การนัดหมายนำรถเข้าซ่อม (Repairing Appointment Service) เมื่อลูกค้าแจ้งเปิดเคลมและประสงค์นำรถเข้าจัดซ่อมอู่ในสัญญา บริษัทฯ จะส่งอีเมลแจ้งเตือนให้อู่ซ่อมรถติดต่อลูกค้าในวันรุ่งขึ้น เพื่อนัดหมายคิวก่อนนำรถเข้าอู่และให้คำปรึกษาด้านงานซ่อม ซึ่งอู่สามารถวางแผนการซ่อมและจัดหาอะไหล่ไว้ได้ล่วงหน้า เพื่อความรวดเร็วในการจัดซ่อม และลดระยะเวลาในการจอดซ่อมนาน โดยอู่จะเสนอการให้บริการรับ-ส่งรถให้แก่ลูกค้าทราบด้วย ซึ่งเป็นบริการเสริมพิเศษสำหรับลูกค้าของบริษัทฯ
เมื่อลูกค้าแจ้งอุบัติเหตุผ่าน Call Center 1620 เจ้าหน้าที่จะทำการบันทึกสถานที่เกิดเหตุ ระบบจะนำข้อความสถานที่ที่ถูกบันทึกไปหาที่ตั้งค่าบน Google map แล้วระบุค่า Latitude/Longitude พร้อม Mark จุดเพื่อให้ทราบตำแหน่งของลูกค้าแล้วกำหนดเป็นศูนย์กลางขยายวงหาตำแหน่งของเจ้าหน้าที่ที่ใกล้ที่สุด เพื่อแจ้งให้ออกไปบริการลูกค้า และการรับแจ้งอุบัติเหตุผ่าน Application BKI iCare ภายใต้ Function การทำงาน Locate me
ในปีนี้ยังวางแผนการขยายงาน Non Motor โดยมุ่งขยายงานโครงการ Mega Projects ประกันภัยภาครัฐ และงานตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche market) เช่น ประกันภัย Engineering, Aviation, ประกันภัย D&O (Director & Officer Liability Insurance) ซึ่งมีฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่มและยังมีคู่แข่งขันน้อยราย
ด้านการพัฒนาด้านเทคโนโลยี ได้แก่ การนำ Robotic Process Automation ที่ใช้เทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาดในการทำงานของพนักงาน รวมทั้งลดต้นทุนในการดำเนินงานของบริษัทฯ เช่น งาน Travel Accident for Tour Operators and Guides Insurance Process, งาน Marine, IAR เป็นต้น
อีกทั้ง บริษัทฯ มีแผนงานที่จะลงทุนในด้านเทคโนโลยีที่จะยกระดับมาตรฐานการให้บริการ โดยกำลังศึกษาการปรับเปลี่ยนระบบรับประกันภัยหลักของบริษัทฯ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนา และออกแบบอย่างเป็นสากล เพื่อให้เข้ามาช่วยเสริมการทำงาน การบริหารจัดการข้อมูล เพิ่มประสิทธิภาพระบบการบริการประกันภัย และสามารถตอบโจทย์ความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้กับผู้เอาประกันภัยได้อย่างสูงสุด
การได้พัฒนาแอปพลิเคชัน Journeys by BKI ที่นำเทคโนโลยี AI มาใช้เรียนรู้กิจวัตรประจำวันและพฤติกรรมของผู้ใช้งานว่ามีกิจกรรมในแต่ละช่วงเวลาอย่างไร รวมถึงการประเมินความปลอดภัยในการขับขี่ยานยนต์ เพื่อนำไปจัดกลุ่มไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล (Segment) หลังจากนั้น แอปพลิเคชันจะให้คำแนะนำและข้อมูลข่าวสารต่างๆ แบบเฉพาะบุคคล (Personalized Content) ที่จะช่วยให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงด้านต่างๆ เน้นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานมากที่สุด รวมไปถึงการให้สิทธิประโยชน์พิเศษเพื่อใช้เป็นส่วนลดในร้านค้าและบริการต่างๆ ตลอดจนสิทธิพิเศษส่วนลดเบี้ยประกันภัยเฉพาะบุคคลจากกรุงเทพประกันภัย (Personalized Insurance Premium Discount) ที่เสนอให้พร้อมกับเสนอแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานแต่ละบุคคลอีกด้วย
สำหรับการพัฒนาด้านอื่นๆ ยังมีแผนเพิ่มจำนวน Risk Engineer และเพิ่มจำนวนตัวแทนใหม่ เพื่อรองรับการขยายงาน การเพิ่มอัตราการต่ออายุกรมธรรม์ 2% ซึ่งปีที่ผ่านมา Renewal Rate (Policy) อยู่ที่ 83.1% เพิ่มจากปี 60 ที่ 81.7% จะขยายงานลูกค้ารายย่อยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 61 เบี้ยประกันภัยรับจากลูกค้ารายย่อยเติบโต 8.1% คิดเป็นสัดส่วนเบี้ยประกันภัย 48.7% ของเบี้ยประกันภัยรับตรง จะมีการขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 3 สาขาที่จังหวัดสมุทรสาคร สุพรรณบุรี และลำปาง ซึ่งยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเพิ่มการลงทุนในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม ด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อเนื่องกับการนำระบบ CRM มาใช้ในการให้บริการลูกค้าและคู่ค้าอย่างเต็มที่ มีการจัดทำแผนเยี่ยมเยียนลูกค้า คู่ค้า การต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย การจัดแคมเปญการขายเป็นต้น
เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวกรมธรรม์ใหม่ คือ “ประกันภัยโรคร้ายจากยุง” เนื่องจากเห็นว่าในปัจจุบันมีผู้ที่เจ็บป่วยและเสียชีวิตจากโรคที่เกิดยุงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บริษัทฯ จึงได้คิดค้นกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้คุ้มครองการเจ็บป่วยจาก 5 โรคร้ายที่เกิดจากยุง ได้แก่ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา โรคไข้สมองอักเสบเจอี โรคไข้ปวดข้อยุงลายหรือชิคุนกุนยา และโรคไข้จับสั่นหรือโรคไข้ป่า โดยกรณีที่ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล จะได้รับผลประโยชน์ทันทีเป็นเงินชดเชยรายได้ รายวันสูงสุด 1,500 บาท ตั้งแต่วันแรกที่นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล สูงสุดไม่เกิน 30 วัน และกรณีนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลไม่น้อยกว่า 3 วันติดต่อกันจะได้รับเงินชดเชยปลอบขวัญ ตั้งแต่ 10,000 บาท สูงสุดถึง 50,000 บาท โดยมีเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 99 บาท/ปี 199 บาท/ปี และ 299 บาท/ปี รวม 3 แผนความคุ้มครองที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย โดยรับประกันภัยแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 70 ปี และสามารถต่ออายุกรมธรรม์ได้จนถึง 100 ปี และบริษัทฯ ได้จัดโปรโมชันพิเศษตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2562 เฉพาะผู้ที่ทำประกันภัยโรคร้ายจากยุงแผนที่ 1 จาก 99 บาท เหลือเพียง 72 บาท/ปี เนื่องในโอกาสครบรอบ 72 ปี ของบริษัทฯ สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ 0 2285 8888