หน้าแรก Featured BKI ปลื้มเบี้ยครึ่งปีแรกเติบโต 19% คาดสิ้นปี 62 บรรลุเป้า 2 หมื่นล้าน พร้อมเปิดตัวประกันภัย 3 โรคกวนใจ

BKI ปลื้มเบี้ยครึ่งปีแรกเติบโต 19% คาดสิ้นปี 62 บรรลุเป้า 2 หมื่นล้าน พร้อมเปิดตัวประกันภัย 3 โรคกวนใจ

0
BKI ปลื้มเบี้ยครึ่งปีแรกเติบโต 19% คาดสิ้นปี 62 บรรลุเป้า 2 หมื่นล้าน พร้อมเปิดตัวประกันภัย 3 โรคกวนใจ

            กรุงเทพประกันภัยเผยผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกมีเบี้ยประกันภัยรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 19 คาดสิ้นปี 62 บรรลุเป้าหมาย 20,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน โดยเน้นการรับประกันภัยอย่างมีคุณภาพและควบคุมความเสี่ยงอย่างเข้มงวด พร้อมกับการลงทุนพัฒนาด้านเทคโนโลยีเสริมบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าและคู่ค้า

          ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI  เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 นี้ คาดการณ์ว่าธุรกิจประกันวินาศภัยจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบหลายประการ อาทิ การส่งออกที่ชะลอตัวจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก  ยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่เริ่มโตติดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 30 เดือน โดยเท่ากับ -2.1% ในเดือนมิถุนายน (ที่มา:Toyota Motor Thailand: ยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่สะสมเดือน ม.ค.- มิ.ย. 2562 ขยายตัวได้ 7.1%)  รวมถึงผลจากการกำหนดเพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV Ratio) ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่เข้มงวดขึ้นและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้หดตัว 36.9% (ที่มา: BAM)

         ในขณะเดียวกันแผนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมของภาครัฐโครงการใหม่ๆ มีแนวโน้มที่จะเลื่อนออกไป ปัญหาด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัว ราคาสินค้าเกษตรหลักยังตกต่ำต่อเนื่อง เช่น อ้อย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน อีกทั้งปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลต่อพื้นที่เกษตรกรรมเป็นบริเวณกว้าง เป็นต้น

        สำหรับด้านปัจจัยบวกที่มี อาทิ มาตรการภาครัฐด้านการควบคุมราคายาและค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดค่าสินไหมทดแทนของประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลลงได้ อีกทั้งโอกาสในการขยายตลาดด้วยกรมธรรม์ประกันภัยรูปแบบใหม่ภายใต้นโยบายของภาครัฐ เช่น ประกันเหมืองแร่ ประกันลำไย ประกันเรือประมง  เป็นต้น

         ทั้งนี้ หากมองถึงการแข่งขันของบริษัทประกันวินาศภัยในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 นี้ ด้านการประกันภัยทรัพย์สินยังคงมีแนวโน้มการแข่งขันสูง เนื่องจากเป็นไปตามภาวะตลาดประกันภัยทรัพย์สินทั่วไปและในช่วงปีหลังๆ ไม่มีมหันตภัยรุนแรง ส่งผลให้อัตราเบี้ยประกันภัยต่อในตลาดโลกมีแนวโน้มคงที่หรือลดลงในช่วงเวลาที่เหลือของปี ส่วนตลาดลูกค้ารายย่อยนั้นคาดว่ากลยุทธ์การตลาดที่เด่นชัด คือ การแสวงหาพันธมิตรใหม่เพื่อจำหน่ายประกันภัยให้กับฐานลูกค้าของพันธมิตรผ่านช่องทางออนไลน์หรือแอปพลิเคชัน อาทิ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ สถาบันการเงิน และผู้ให้บริการรับส่งสินค้า เป็นต้น นอกจากนี้ จะได้เห็นกรมธรรม์ประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองเฉพาะเจาะจงตรงตามความต้องการและพฤติกรรมของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ทำให้มีค่าเบี้ยประกันภัยที่ถูกลง ซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทประกันภัยต่างๆ เริ่มเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าให้อยู่ในรูปแบบ Big Data และจัดทำ Data Analytics เพื่อคัดเลือกกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำหรือมีศักยภาพในการขยายตลาด

        สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวด 6 เดือนของปี 2562 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 9,707.2 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.1 มีกำไรสุทธิจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแล้ว 510.7 ล้านบาท รายได้สุทธิจากการลงทุน 870.9 ล้านบาท และมีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 1,381.6 ล้านบาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้วบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,258.2 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา และมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน  11.82 บาท

          โดยแนวทางการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 นี้ บริษัทฯ จะเน้นการรับประกันภัยอย่างมีคุณภาพ เพื่อรักษาผลกำไรจากการรับประกันภัย โดยการพิจารณารับประกันภัยอย่างระมัดระวัง และมีการควบคุมความเสี่ยงภัยที่เข้มงวดมากขึ้น ได้แก่ การพัฒนาระบบข้อมูลและ Business Intelligence ให้พนักงานเข้าถึงสถิติข้อมูลผลการรับประกันภัยของกรมธรรม์แต่ละประเภทได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว สามารถจำแนกได้ถึงระดับคู่ค้าหรือลูกค้าแต่ละราย เพื่อให้พนักงานมีข้อมูลประกอบการพิจารณารับประกันภัยใหม่หรือต่ออายุกรมธรรม์อย่างครบถ้วน สามารถเสนออัตราเบี้ยประกันภัยได้อย่างเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงภัย

         มีการวิเคราะห์พอร์ตงาน  ผลิตภัณฑ์และแพกเกจที่ผลการรับประกันภัยมีแนวโน้มที่ไม่ดี โดยพิจารณาหาคุณลักษณะหรือปัจจัยของลูกค้าหรือทรัพย์สินที่ทำประกันภัยให้มีความสัมพันธ์กับระดับความเสี่ยง เพื่อปรับขึ้นค่าเบี้ยประกันภัยเฉพาะ Segment ที่มีความเสี่ยงสูงให้เหมาะสม แทนการปรับขึ้นเบี้ยประกันภัยแบบเหมารวมทั้งพอร์ต ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการขยายงานกับ Segment ที่มีความเสี่ยงต่ำไปด้วย  รวมทั้งให้ความสำคัญกับการจัดทำ Risk Survey ก่อนการพิจารณารับประกันภัยอย่างเคร่งครัด โดยบริษัทฯ ได้เพิ่มอัตรากำลัง Risk Engineer เพื่อรองรับนโยบายนี้ตั้งแต่ช่วงต้นปี รวมทั้งให้คำแนะนำกับธุรกิจของลูกค้าเพื่อร่วมกันป้องกันความเสี่ยงภัยที่อาจเกิดขึ้นได้

         นอกจากนี้ เพื่อให้บริษัทฯ บรรลุเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมในปี 2562 ที่ 20,000 ล้านบาทนั้น บริษัทฯ มีแนวทางด้านการขยายเบี้ยประกันภัย ได้แก่ มีการ ขยายงานประกันภัยในต่างจังหวัด โดยจะจัดตั้งสาขาใหม่ อีก 3 สาขาที่จังหวัดสมุทรสาคร สุพรรณบุรี และลำปาง ภายในไตรมาส 4 นี้ รวมทั้งการพิจารณาความเป็นไปได้ในการขยายสาขาหรือสำนักงานตัวแทนในต่างประเทศ  การให้ความสำคัญกับการสร้าง Engagement กับลูกค้าและคู่ค้าอย่างต่อเนื่อง โดยนำระบบ CRM มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ เช่น จัดทำแผนเยี่ยมเยียนลูกค้า คู่ค้า งานต่ออายุ การจัดแคมเปญการขาย ตลอดจนการสร้างทัศนคติและอบรมพัฒนาให้พนักงานทำหน้าที่เป็น Risk Consultant หรือ Business Partner กับลูกค้าและคู่ค้ามากกว่าการเป็นเพียง Insurer ทั้งนี้ ช่วงครึ่งปีแรกนี้บริษัทฯ มีอัตราการต่ออายุของกรมธรรม์อยู่ในระดับสูงถึง 83%

          มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องและพัฒนาการให้บริการทั้งด้านรับประกันภัยและสินไหมทดแทนเพื่อสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าในยุคดิจิตอล โดยนำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการให้บริการลูกค้าที่โทรเข้ามาแจ้งอุบัติเหตุและทำเคลมรถยนต์ทางโทรศัพท์  โดยการนำ Robot มาช่วยเพิ่ม Productivity ในการทำงานด้านรับประกันภัยเพื่อให้บริการที่รวดเร็วขึ้น และล่าสุดบริษัทฯ อยู่ในช่วงพัฒนาปรับเปลี่ยน Core Business System (CBS) เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต

อีกทั้งมีการออกผลิตภัณฑ์ Package ใหม่ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม  มีความคุ้มครองและระดับราคาที่เหมาะสมกับลูกค้าเป้าหมาย โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัย 3 โรคกวนใจ ที่คุ้มครองโรคไข้หวัดใหญ่ มือเท้าปาก และโรคร้ายจากยุง เป็นการพัฒนากรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพใหม่ คุ้มครอง 3 กลุ่มโรคที่สามารถเกิดขึ้นกับทุกคนทุกช่วงวัย ให้ความคุ้มครองกรณีเป็นผู้ป่วยในจากการเจ็บป่วยจากโรค ได้แก่ 1.โรคไข้หวัดใหญ่  2.โรคมือ เท้า ปาก และ 3.โรคติดต่อที่มียุงเป็นพาหะ ได้แก่ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา โรคไข้สมองอักเสบ เจ อี โรคไข้ปวดข้อยุงลายหรือโรคชิคุนกุนยา และโรคไข้มาลาเรียหรือโรคไข้จับสั่น โดยมีความคุ้มครองและเบี้ยประกันภัย ดังนี้(รายละเอียดในตาราง)

           ประกันภัย 3 โรคกวนใจ ให้ความคุ้มครองแก่ผู้เอาประกันภัย อายุตั้งแต่ 0 – 70 ปี และต่ออายุกรมธรรม์ได้จนถึงอายุ 100 ปี รวมถึงผู้เอาประกันภัยสามารถทำประกันภัยได้สูงสุด 2 ฉบับ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่กรุงเทพประกันภัยได้ที่โทร. 0 2285 8888 หรือสาขากรุงเทพประกันภัยทั่วทุกภูมิภาค หรือ BKI Care Station จุดบริการประกันภัยในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Thailand Insurance News

Thailand Insurance News

พูดคุย และ ดูแลด้วยมิตรภาพ

I will be back soon

Thailand Insurance News
สวัสดีค่ะ 👋
ต้องการสอบถาม ข้อมูลด้านไหนดีคะ
Messenger