“gettgo” พร้อมโตต่อเนื่องหลัง เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง มีมติลงทุนเพิ่มอีก 200 ลบ.

0
102

       “gettgo” เป็นเว็บไซต์เปรียบเทียบประกันออนไลน์ ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จำกัด หนึ่งในลูกของ บริษัท เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 61 จากความตั้งใจที่ต้องการสร้างแพลตฟอร์มการให้บริการเปรียบเทียบและขายสินค้าประกันภัยชนิดต่างๆ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล ที่มีความต้องการเปรียบเทียบข้อมูลสินค้าผลิตภัณฑ์ประกันภัยชนิดต่างๆ ด้วยตัวเอง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ

        gettgo จึงต้องการเป็นหนึ่งในช่องทางที่ช่วยสร้างประสบการณ์ด้านการเปรียบเทียบและซื้อประกันออนไลน์ที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว สื่อสารกับลูกค้าด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย และจะคัดสรรข้อมูลที่จำเป็นให้ผู้ใช้บริการจนกระทั่งถึงขั้นตอนของการตัดสินใจซื้อประกัน โดยจะแนะนำและตัดความคุ้มครองที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าจริงๆ ซึ่งในปัจจุบันมีประกันประเภทต่างๆ จำหน่ายในรูปแบบออนไลน์ทั้ง ประกันรถยนต์ ประกันเดินทาง ประกันที่อยู่อาศัย รวมถึงประกันโควิด-19 โดยล่าสุดได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและประกันชีวิต เพื่อตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง โดยเริ่มขายไปเมื่อช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา

        ทั้งนี้ นายสาระ ล่ำซำ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติลงทุนเพิ่ม 200 ล้านบาท ใน บริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จำกัด บริษัทในเครือ ซึ่งให้บริการธุรกิจนายหน้าประกันภัยภายใต้ชื่อ “gettgo” เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดประกันออนไลน์ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

       ด้าน นายธนัท จักรวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย โบรกเกอร์ จำกัด ผู้ให้บริการ “gettgo” กล่าวว่า จุดประสงค์หลักจากการได้รับเงินลงทุนเพิ่มครั้งนี้ เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มให้ได้รับความนิยมมากขึ้น ทั้งนี้ไม่ใช่แค่การเป็นแพลตฟอร์มการซื้อประกันเท่านั้น แต่รวมไปถึง การพัฒนาระบบการขายประกันและช่องทางการเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินอีกด้วยโดยตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปี จะแตะเป้าหมายเบี้ยประกันภัยที่ 1,000 ล้านบาท

       สำหรับผลงานตลอดปี 2563 ที่ผ่านมา gettgo ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มเปรียบเทียบประกันสุขภาพและประกันชีวิตออนไลน์แบบตามใจสั่งที่ตอบโจทย์ทุกความง่ายในยุคที่อะไร ๆ ก็ต้องมีการ “personalized” หรือมีการเสนอสินค้าแบบเจาะใจและตรงใจผู้บริโภค นับเป็นแพลตฟอร์มประกันสุขภาพออนไลน์ที่เข้ามาพลิกโฉมวงการสุขภาพให้สามารถเปรียบเทียบประกันสุขภาพได้ตามวัตถุประสงค์ของตัวเอง หากใครสนใจสามารถเข้าใช้งานได้แล้ววันนี้อย่างเต็มรูปแบบที่ http://gettgo.com/health-insurance

      นอกจากนี้ นายธนัท ยังได้เปิดแผนสำหรับอนาคตในอีก 3 ปีข้างหน้าเพื่อบรรลุเป้ายอดเบี้ยประกันภัยที่ 1,000 ล้านบาท ได้แก่

      1. ปรับเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่และจำนวนพาร์ทเนอร์บริษัทประกันภัยบนแพลตฟอร์มประกันสุขภาพและประกันชีวิต เพื่อก้าวสู่แพลตฟอร์มที่มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมที่สุดในตลาดโดยปัจจุบัน gettgo มีพาร์ทเนอร์อยู่ 7 บริษัท ได้แก่ เมืองไทยประกันชีวิต เมืองไทยประกันภัย เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ซิกน่าประกันภัย ฟอลคอนประกันภัย แมนูไลฟ์ ประกันชีวิต เอ็ทน่า และในปี 2564 นี้ gettgo ตั้งเป้าหมายที่จะหาคู่ค้าที่เป็นบริษัทประกันชีวิตและประกันสุขภาพชั้นนำเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์อีกด้วย

       2. นำร่องพัฒนาแพลตฟอร์มประกันสุขภาพและประกันชีวิตให้มีความฉลาดมากขึ้น โดยใช้ Aggregator Data ในการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้าที่มีความต้องการและมีโปรไฟล์ที่แตกต่างกันได้ อีกทั้ง gettgo ยังมุ่งเป้าเป็นแพลตฟอร์มแห่งแรกที่มีข้อมูลความสนใจของลูกค้าทั้งตลาดที่มาช่วยให้ระบบค้นหาประกันสุขภาพฉลาดมากยิ่งขึ้นและสร้างประสบการณ์ในการค้นหาประกันแบบใหม่ที่ทั้งง่าย เร็ว และดีที่สุด อีกด้วย

       3. gettgo เตรียมเปิดตัวอีกหนึ่งแพลตฟอร์มขายประกันออนไลน์สำหรับนายหน้าประกันวินาศภัยเพื่อเข้ามาเป็นทั้งเครื่องมือและกำลังเสริมสำคัญที่คอยให้ความช่วยเหลือและอยู่เคียงข้างนายหน้าทุกคนในการเปลี่ยนผ่านการขายประกันวินาศภัยจากยุคออฟไลน์สู่โลกออนไลน์ และยังช่วยสร้างฐานรายได้ที่มั่นคงขึ้นต่อไป

       นายธนัท กล่าวต่อไปว่า 3 ปีที่ผ่านมาของ gettgo เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในทุก ๆ มิติซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีผู้ใช้งานเว็บไซต์เพิ่มขึ้นจากเพียงหลักหมื่นในตอนเริ่มต้น มาเป็นหลักล้าน    ภายในเวลาไม่นาน ทำให้ทุกวันนี้ เรายังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ที่จะไม่หยุดพัฒนาแพลตฟอร์มเปรียบเทียบประกันออนไลน์ที่ใช้งานง่ายและสะดวกสำหรับทั้งการซื้อและขายประกันให้กับคนไทย

        “จากในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา เราเห็นได้ว่าคนไทยไม่เพียงให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังใส่ใจกับการลดความเสี่ยงด้านสุขภาพผ่านการซื้อประกันสุขภาพควบคู่กันไปด้วย ด้านคุณธนัท ได้กล่าวเสริมว่า “เมื่อผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพไปพร้อม ๆ กับการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งของโลกออนไลน์ สถานการณ์แบบนี้จึงเหมาะสมที่สุดกับการลงทุนในด้านการพัฒนาแพลตฟอร์มเปรียบเทียบประกันสุขภาพและประกันชีวิตออนไลน์ จึงถือได้ว่า gettgo เป็นเครื่องมือชั้นดีที่พร้อมเข้ามาตอบโจทย์ในยุคที่ไม่ว่าใครก็อยากเปรียบเทียบ สิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง”เขากล่าว

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่