บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด คว้ารางวัลบริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนหุ้นในประเทศ (Best Fund House Winner : Best Domestic Equity House) จากการประกาศผลรางวัล Morningstar Awards 2022 บทพิสูจน์ความสำเร็จของการทำงานอย่างมืออาชีพ ในการทุ่มเทแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ ภายใต้แนวคิดที่ชัดเจนและน่าสนใจ จนสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้อย่างโดดเด่น
นางสาวภาวิณี องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยความสำเร็จของ บลจ.ทิสโก้ว่า ความทุ่มเทในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเชิงลึก เพื่อกำหนดกลยุทธ์การลงทุนที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาว ผ่านการใช้ความเชี่ยวชาญในการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมถึงการบริหารจัดการกองทุนอย่างเป็นธรรมภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยเฉพาะการลงทุนในปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการลงทุนให้ทันการณ์ บลจ.ทิสโก้ จึงพัฒนาเครื่องชี้วัดต่างๆ และสร้างแบบจำลองด้านการลงทุน เพื่อให้การตัดสินใจแม่นยำและรวดเร็วขึ้น ประสานกับความสามารถของทีมผู้จัดการลงทุน จึงทำให้การคัดเลือกตราสารและกำหนดกลยุทธ์การลงทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
“ในยุคที่การลงทุนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากการนำเครื่องมือและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยแล้ว การบริหารจัดการกองทุนอย่างเป็นธรรมยิ่งช่วยให้การลงทุนมีความยั่งยืน โดย บลจ.ทิสโก้ ได้กำหนดแนวทางการลงทุนเพื่อความยั่งยืนในทุกกระบวนการลงทุน ซึ่งครอบคลุมองค์ประกอบทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG : Environment, Social, Governance) ตั้งแต่การคัดเลือกหลักทรัพย์เพื่อลงทุน การติดตามตราสารลงทุน รวมถึงการประเมินและปรับมุมมองการลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัย ESG อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ”
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้ แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID 19 ยังมีในระดับสูง แต่เศรษฐกิจฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน จากนโยบายการเปิดประเทศของภาครัฐ ขณะที่ประชานชนเริ่มคุ้นชินและปรับตัวกับสถานการณ์ได้ดีขึ้น ส่งผลเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในปี 2565 จึงมุ่งเน้นการจัดสรรกองทุนที่ได้รับประโยชน์จากปัจจัยดังกล่าว ขณะเดียวกันก็เพิ่มความระมัดระวังและติดตามสถานการณ์จากต่างประเทศระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและราคาสินค้าโภคภัณฑ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงที่เหลือของปี
“ในปีนี้การลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกมีความเสี่ยงสูงขึ้น จากปัจจัยทั้งด้านเศรษฐกิจโลกและการเมืองระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประกอบกับความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น จึงคาดว่าในปีนี้ตลาดหุ้นไทยยังจะสามารถสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจเมื่อเทียบกับการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ ขณะที่นักลงทุนเองก็จะต้องปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ เพื่อสร้างผลตอบแทนการลงทุนจากความท้าทายในปีนี้” นางสาวภาวิณี กล่าวสรุป
