LINE BK ยกระดับบริการสินเชื่อ ลดความเสี่ยงหนี้เสีย ใช้ Big Data และ AI เจาะลึกความต้องการลูกค้า

0
297

การพิจารณาสินเชื่อสำหรับกลุ่มอาชีพอิสระ พ่อค้าแม่ค้า หรือคนไม่มีรายได้ประจำ อาจมีเงื่อนไขการพิจารณาที่ซับซ้อนกว่าผู้ที่มีรายได้ประจำ ทำให้คนที่มีประวัติทางการเงินไม่เพียงพอ หรือมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่สถาบันการเงินทั่วไปกำหนดมักถูกปฏิเสธการให้สินเชื่อจากผู้ให้บริการในระบบ การเข้ามาของ Social Banking รายแรกอย่าง LINE BK จึงเป็นอีกหนึ่งทางออกในการเข้าถึงสินเชื่อของคนกลุ่มนี้  

Big Data และ AI จุดพลิกเกมตลาดสินเชื่อของ LINE BK

ธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด เปิดเผยว่า LINE BK ก้าวเข้ามาสู่ตลาดการเงินดิจิทัลด้วยแนวคิด “เรื่องเงินง่ายใน LINE คุณ” โดยมีเป้าหมายให้คนไทยเข้าถึงเรื่องการเงินได้ง่ายขึ้น บนความร่วมมือของสองบริษัทใหญ่อย่าง ธนาคารกสิกรไทย ที่มีฐานลูกค้ากว่า 20 ล้านราย และ LINE แอปแชทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดด้วยฐานผู้ใช้กว่า 53 ล้านราย นำไปสู่การพัฒนาบริการที่ตรงใจลูกค้า และแก้ Pain Pointเรื่องข้อมูลสำหรับพิจารณาสินเชื่อให้กับกลุ่มคนที่ทำอาชีพอิสระ โดยนำ Big Data และระบบ AI เข้ามาสร้างบริการทางการเงินที่แตกต่าง

โดยทั่วไปธนาคารจะใช้ข้อมูลพื้นฐาน อาทิ ข้อมูลรายได้ที่ยืนยันด้วยสลิปเงินเดือน การตรวจสอบประวัติทางการเงิน และประวัติเครดิต เพื่อใช้ในการประเมินความเสี่ยงและพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ แต่สำหรับ Social Banking อย่าง LINE BK เลือกใช้ข้อมูลทางเลือกจากโซเชียลมีเดียอย่าง LINE เข้ามาเป็นหนึ่งในเกณฑ์ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงเพิ่มเติม ด้วยโมเดล LINE Score ที่รวบรวมรูปแบบการใช้งาน LINE และ LINE Ecosystem ของลูกค้า ประเมินระดับความเสี่ยง

“โมเดล LINE Score จะนำข้อมูลต่างๆมาใช้ประเมินระดับความเสี่ยง เช่น ช่วงเวลาการใช้งาน ประเภทของข่าวสารที่สนใจ หรือประเภทของการใช้บริการ ซึ่งทำให้ LINE BK เข้าใจลูกค้าในมิติที่ลึกซึ้ง ซึ่งเป็นประโยชน์ในการประกอบการพิจารณา  สามารถปล่อยสินเชื่อได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการสินเชื่อและมีคุณภาพ ลดโอกาสการเกิดหนี้เสีย  และยังนำข้อมูลไปปรับปรุงบริการอื่น ๆ เพื่อให้ตรงใจลูกค้าได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย”

ในด้านการรักษาความปลอดภัย LINE BK มีขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ใช้อย่างเป็นระบบแบบหลายชั้น รวมถึงการเข้ารหัสความปลอดภัยของโครงสร้างระบบเครือข่ายและบริการ (Network and Application Encryption) และการปกป้องข้อมูลด้วยการเข้ารหัสฐานข้อมูลในรูปแบบเฉพาะ (Database Encryption) เพื่อให้ผู้ใช้บริการ LINE BK มั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลด้วยมาตรการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด

นอกจากข้อมูลฝั่ง LINE แล้ว การพิจารณาผลสินเชื่อยังอาศัยข้อมูลพื้นฐานด้านการเงินจากกสิกรไทย โดยลูกค้าที่สมัครขอสินเชื่อและเป็นลูกค้าที่มีบัญชีกับทางกสิกรไทย บริษัทฯสามารถดึงข้อมูลรายได้ ข้อมูลรายการเดินบัญชีมาประกอบการพิจารณาสินเชื่อได้อย่างรวดเร็ว ลูกค้าจึงทราบผลพิจารณาอนุมัติที่รวดเร็วภายในไม่กี่นาที และไม่จำเป็นต้องส่งเอกสารเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตามโมเดลวิเคราะห์ความเสี่ยง จะมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาตามพฤติกรรมผู้ใช้งานที่เปลี่ยนไป โดยความอัจฉริยะของโมเดลจะมีความแม่นยำมากขึ้น เมื่อได้เรียนรู้จากการได้ปล่อยสินเชื่อจริงให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ยังมีการใช้ข้อมูลจากการจับมือกับพันธมิตรหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ และล่าสุดจับมือกับศรีสวัสดิ์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าเมื่อใช้งานกับผู้ให้บริการอื่น ๆ  รวมทั้งยังมีแผนที่จะพาร์ทเนอร์กับกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าในมิติอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต

สู่การให้บริการทางการเงินในโลกดิจิทัล

นายธนา กล่าวถึงเป้าหมายในอนาคตว่า  LINE BK โฟกัสด้านการให้บริการทางเงินที่นำเทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์มาใช้เพื่อพัฒนาบริการเดิมให้มีประสิทธิภาพ และสร้างบริการที่ตอบโจทย์การใช้งานที่ง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยเตรียมอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยตอบโจทย์การใช้งาน เพื่อตอบรับเทรนด์ของโลกการเงินแห่งอนาคต ที่บริการธุรกรรมทางการเงินจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันอย่างใกล้ชิด

“บริการสินเชื่อ LINE BK มีเป้าหมายในการพัฒนาตัวโมเดล LINE Score ให้สามารถประเมินพฤติกรรมความเสี่ยงของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ทำให้คนที่ต้องการสินเชื่อและเป็นกลุ่มคนที่มีคุณภาพสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น ถือว่า win – win ทั้งสองฝ่าย เพื่อช่วยให้ระบบเศรษฐกิจเดินหน้าและลดปัญหาหนี้นอกระบบได้ในระยะยาว” นายธนากล่าวสรุป