ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ตอกย้ำเส้นทางความสำเร็จสู่ “การธนาคารเพื่อความยั่งยืน” เดินตามกรอบ B+ESG ผสานธุรกิจและความยั่งยืนเป็นเนื้อเดียวกัน ชูธงทุกกลยุทธ์และแนวทางดำเนินธุรกิจอยู่บนพื้นฐานของการสร้างการเติบโตและความยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ชุมชนและสังคม พร้อมสนับสนุนให้ปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและกติกาใหม่ของโลก ด้วยองค์ความรู้และโซลูชันที่ตอบโจทย์
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ttb ขับเคลื่อนองค์กรเพื่อสร้างชีวิตทางการเงินที่ดี (Financial Well-being) ให้กับคนไทย โดยนำแนวทางการธนาคารเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Banking) เป็นรากฐานในการวางกลยุทธ์และทำมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยั่งยืนไปในทุกกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) ควบคู่ไปกับการดูแลบรรษัทภิบาลที่ดี ซึ่งนอกจากการทำธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับ ESG แล้ว ยังเพิ่ม B หรือ Business Sustainability เพราะเชื่อว่าธุรกิจและความยั่งยืนไม่สามารถแยกออกจากกันได้
การดำเนินธุรกิจของ ttb ได้สร้างชีวิตทางการเงินที่ดี โดยมี Financial Well-being Solutions ช่วยให้ลูกค้าบุคคลสามารถเดินหน้าต่อไปได้แม้ยามมีวิกฤต อาทิ บัญชี all free ที่มอบฟรีประกันอุบัติเหตุและชีวิตา ส่งเสริมให้ลูกค้าที่เป็นหนี้ลดภาระดอกเบี้ยสูงผ่านการรวบหนี้ (Debt Consolidation) และได้ทยอยเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ๆ บนแอป ttb touch ที่จะช่วยสนับสนุนให้กลุ่มพนักงานเงินเดือนและคนมีรถจัดการเรื่องสำคัญของชีวิตได้อย่างครบวงจร
สำหรับลูกค้าธุรกิจ แพลตฟอร์มออนไลน์ “รถโดนใจ” ได้รวบรวมรถมือสองคุณภาพดีมาไว้ให้ลูกค้าเลือก สามารถจัดไฟแนนซ์รถยนต์กับ ttb DRIVE ครบจบในที่เดียว เป็นส่วนหนึ่งภายใต้ Ecosystem สำหรับคนมีรถ ช่วยสนับสนุนให้ลูกค้ากลุ่มเต็นท์รถมือสองก้าวทันกระแสดิจิทัล และปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจไปสู่ช่องทางออนไลน์อันเป็นช่องทางหลักที่ผู้บริโภคในปัจจุบัน ปัจจุบันมีดีลเลอร์มาร่วมเป็นพันธมิตรกับรถโดนใจแล้วราว 900 ราย
นอกจากนี้ ธนาคารได้ให้องค์ความรู้ลูกค้าธุรกิจผ่านการจัดอบรมหลักสูตร LEAN for Sustainable Growth by ttb โดยนำหัวข้อ ESG เข้าเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร โดยตลอด 10 ปีที่ผ่านมามีบริษัทเข้าร่วมกว่า 1,700 แห่ง อีกทั้งจัดทำศูนย์กลางความรู้เชิงลึก ภายใต้ finbiz by ttb บน website ซึ่งมีผู้เข้าชมกว่า 1 แสนคนต่อปี รวมทั้งจัดงานสัมมนาให้ความรู้ในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ โดยมีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเข้าร่วมงานกว่า 700 บริษัท
นายปิติ กล่าวถึงบทบาทการขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Sustainability) ttb เป็นธนาคารแห่งแรกที่ออกหุ้นกู้เพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนทางทะเล มูลค่ารวมมากกว่า 7,000 ล้านบาท เพื่อนำเงินทุนไปสนับสนุนลูกค้าธุรกิจผ่านสินเชื่อสีเขียวและสีฟ้า และปล่อยสินเชื่อสีเขียวไปแล้วมากกว่า 13,000 ล้านบาท ในปี 2565 และตั้งเป้าจะปล่อยเพิ่มอีกมากกว่า 9,000 ล้านบาทภายในปี 2566 โดยปัจจุบันธนาคารเป็นผู้นำตลาดด้านการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ EV ราว 6,500 ล้านบาท
ขณะที่ “ความยั่งยืนด้านสังคม” หรือ Social Sustainability มีโครงการปันบุญเป็นพื้นที่ช่วยมูลนิธิและองค์กรสาธารณกุศลให้สามารถเข้าถึงฐานผู้บริจาคได้มากขึ้น ผ่านการรับบริจาคเงินบนโลกออนไลน์ สอดคล้องกับ Digital Lifestyle และยังช่วยให้มูลนิธิบริหารจัดการทางการเงินได้อย่างครบวงจร ทั้งด้านการรับบริจาคและงานเอกสารต่าง ๆ เป็นผลงานที่ถูกขับเคลื่อนภายใต้แกน Business และ Social ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งปัจจุบันมีมูลนิธิที่ร่วมอยู่บนปันบุญมากกว่า 270 แห่ง ระดมเงินบริจาคไปแล้วมากกว่า 400 ล้านบาท
นอกจากนี้ ด้าน Corporate Social Responsibility (CSR) ttb มุ่งส่งเสริมความยั่งยืนด้านสังคมให้กับเยาวชนและชุมชน ด้วยโครงการไฟ-ฟ้า จุดประกายเยาวชนและชุมชนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน โดยมีศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า 5 แห่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีเด็กเข้าร่วมโครงการมากกว่า 10,000 ราย และยังมีโครงการที่พนักงาน ttb ทั่วประเทศเป็นอาสาสมัครเข้าไปช่วยจุดประกายชุมชนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น มากกว่า 200 โครงการ
สำหรับ Corporate Governance & Business Ethics หรือบรรษัทภิบาลและจริยธรรมทางธุรกิจ ttb ให้ความสำคัญมาก โดยมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและทีมงานที่มีความรู้ ความสามารถ ผลักดันให้มีนโยบายที่ถูกต้องและเป็นธรรมต่อผู้มีส่วนได้เสีย ทำให้ธนาคารได้รับรางวัล “การเงินที่เป็นธรรม” จาก Fair Finance Thailand คว้าอันดับหนึ่งด้วยคะแนนสูงสุดในกลุ่มธนาคารไทยด้าน ESG 4 ปีซ้อน และได้รับการจัดอันดับที่ดีที่สุดด้าน ESG ในกลุ่มสถาบันการเงินในประเทศไทย และเป็นอันดับสองในระดับเอเชียสำหรับกลุ่ม (Mid/Small Cap) และกลุ่มประเทศเอเชีย (ไม่รวมจีนและญี่ปุ่น) จาก Institutional Investor’s 2023 Asia (ex-Japan) Executive Team จากการโหวตของนักวิเคราะห์
“เพราะเราเชื่อว่าธุรกิจ และ ESG เป็นเรื่องที่ต้องขับเคลื่อนไปด้วยกัน เราไม่เพียงมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็นธนาคารเพื่อความยั่งยืน แต่ยังมุ่งขยายขอบเขตและความยั่งยืนให้เกิดกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง และนี่คืออีกหนึ่ง Mission หรือ หน้าที่ของธนาคารที่ให้การสนับสนุนลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ และสังคมของเราให้สามารถดำเนินชีวิตและธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป” นายปิติ กล่าวสรุป
