บลจ.วรรณ ชู กลยุทธ์ Active Asset Allocation ผ่านกองทุน ONE-ULTRAPLUS เน้นลงทุนสินทรัพย์ที่หลากหลาย เพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นต่างประเทศ พร้อมรับสิทธิความคุ้มครองประกันชีวิตและประกันสุขภาพจาก เมืองไทยประกันชีวิต และสิทธิลดหย่อนภาษีผ่านกองทุน ONE-ULTRAPLUS-ASSF เปิดเสนอขายระหว่างวันที่ 6-19 ธ.ค. นี้
กองทุน ONE-ULTRAPLUS-RA และ ONE-ULTRAPLUS-ASSF เป็นความร่วมมือครั้งแรกของ บลจ.วรรณ และ เมืองไทยประกันชีวิต โดยเคจีไอ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ (ประเทศไทย) บริษัทในเครือของ บมจ.หลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) บริษัทแม่ของวรรณ เป็นผู้คัดเลือกบริษัทประกันชีวิตที่ดีให้แก่บลจ.วรรณ และเป็นกองทุนแรกของประเทศไทยที่ยกระดับนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ นำประกันชีวิตและประกันสุขภาพผนวกากับการลงทุนผ่านกองทุนรวม พร้อมเพิ่มมูลค่าการลงทุนด้วยสิทธิลดหย่อนทางภาษี
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า ได้เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิด วรรณ อัลตร้า อินคัม พลัสฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดไม่จ่ายเงินปันผล สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (ONE-ULTRAPLUS-RA) และ กองทุนเปิดวรรณ อัลตร้า อินคัม พลัส ฟันด์ หน่วยลงทุนชนิดเพื่อการออม แบบไม่จ่ายเงินปันผล (ONE-ULTRAPLUS-ASSF) ระหว่างวันที่ 6-19 ธันวาคม ซึ่งมีนโยบายลงทุนในตราสารทุน ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารหนี้ และ/หรือเงินฝาก ทั้งในประเทศหรือ/และต่างประเทศ โดยผู้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนทั้ง 2 กองทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ตามเงื่อนไขกรมธรรม์ของบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) ซึ่งสิทธิการคุ้มครองจะขึ้นอยู่กับจำนวนหน่วยของผู้ถือหน่วยลงทุน
กองทุน ONE-ULTRAPLUS-RA และ ONE-ULTRAPLUS-ASSF บริหารพอร์ตที่มีสัดส่วนการลงทุนที่มีความยืดหยุ่น 0-100% โดยจะบริหารเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งสถิติย้อนหลัง 3 ปี พบว่าพอร์ตการลงทุนที่มีสินทรัพย์ทางเลือกสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 8-9% ต่อปี ดังนั้น ONE-ULTRAPLUS เน้นกระจายการลงทุนตราสารทุน ตราสารหนี้และสินทรัพย์ทางเลือก โดยเฉพาะหุ้นต่างประเทศ 60% หุ้นในประเทศ 10% ตราสารหนี้ไทย 20% และสินทรัพย์ทางเลือก 10% โดยมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 6-8%ต่อปี
ทั้งนี้ ONE-ULTRAPLUS มีความโดดเด่นที่แตกต่างจากกองทุนอื่นในประเทศไทย คือ มีการจดทะเบียนกองทุนเป็นประเภท Super Saving Fund (SSF) เพิ่มเติม คือ ONE-ULTRAPLUS-ASSF เพื่อรับสิทธิลดหย่อนทางภาษี ซึ่งผู้ลงทุนที่ลงทุนในกองทุน ONE-ULTRAPLUS-ASSF จะได้รับสิทธิประโยชน์ถึง 3 ข้อ ได้แก่
ข้อแรก เปิดโอกาสรับผลตอบแทนตามเป้าหมายเฉลี่ย
ข้อ 2. ผู้ลงทุนที่ถือครองหน่วยลงทุนตั้งแต่ 4,500 หน่วยขึ้นไป รับความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประกันชีวิตและสิทธิประโยชน์ประกันสุขภาพ ภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์ของบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โดย บลจ.วรรณ เป็นผู้รับภาระค่าเบี้ยประกันภัยทั้งหมด
ข้อ 3. สิทธิลดหย่อนทางภาษีตามหลักเกณฑ์ กองทุนลดหย่อนภาษี SSF
“บลจ.วรรณ เชื่อมั่นว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนในยุคนี้ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสร้างหลักประกัน ภายใต้แนวคิดเงินก้อนเดียว คือ ชีวิต สุขภาพ ความมั่งคั่ง ถือเป็นการสร้างความแตกต่างของอุตสาหกรรมกองทุนรวมและเพิ่มมูลค่าการลงทุนที่ดี” นายพจน์กล่าว
นายพุฒิพัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานประกันกลุ่ม บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความคุ้มครองจากเมืองไทยประกันชีวิตที่มอบให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนภายใต้กองทุน ONE-ULTRAPLUS ครอบคลุมการประกันชีวิตและความคุ้มครองสุขภาพ โดยแบ่งออกเป็น 5 แผน ประกอบด้วย
แผนที่ 1 สำหรับหน่วยลงทุนตั้งแต่ 4,500 หน่วยแต่ไม่ถึง 45,000 หน่วย
แผนที่ 2 หน่วยลงทุนตั้งแต่ 45,000 หน่วย แต่ไม่ถึง 145,000 หน่วย
แผนที่ 3 หน่วยลงทุนตั้งแต่ 145,000 หน่วย แต่ไม่ถึง 450,000 หน่วย
แผนที่ 4 หน่วยลงทุนตั้งแต่ 450,000 หน่วย แต่ไม่ถึง 900,000 หน่วย
แผนที่ 5 หน่วยลงทุนตั้งแต่ 900,000 หน่วยขึ้นไป
โดยให้ความคุ้มครองทั้งกรณีการเสียชีวิต และการรักษาแบบผู้ป่วยใน (IPD) ทั้งค่าห้องผู้ป่วยปกติ ค่าห้องผู้ป่วยหนัก (I.C.U.) ค่าแพทย์ ค่าตรวจ ค่ารักษาพยาบาลอุบัติเหตุฉุกเฉิน เป็นต้น รวมทั้งการรักษาแบบผู้ป่วยนอก (OPD) (ยกเว้นแผนที่ 1.) โดยผู้มีสิทธิได้รับความคุ้มครองจะต้องเป็นบุคคลธรรมดา อายุระหว่าง 15-75 ปี มีสุขภาพแข็งแรง โดยความคุ้มครองจะเริ่มต้นทุกวันที่ 1 ของแต่ละไตรมาส หรือ 1 มกราคม หรือ 1 เมษายน หรือ 1 กรกฎาคม หรือ 1 ตุลาคมของทุกปี ระยะเวลาความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่ม (กรมธรรม์มีผลบังคับ 1 ปี ตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2567 เงื่อนไขเป็นไปตามแผนความคุ้มครองที่ บลจ.วรรณ และ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิตกำหนด)
ทั้งนี้เมืองไทยประกันชีวิต ได้เตรียมนวัตกรรมการบริการและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น
MTL Click Application ที่รวบรวมทุกบริการของเมืองไทยประกันชีวิต ให้เป็นเรื่องง่าย ทั้งการเช็กกรมธรรม์เพื่อดูผลประโยชน์และความคุ้มครอง การปรึกษาหมอออนไลน์ การยื่นเคลมหรือติดตามผลการเคลมสินไหม
บริการ MTL Health Buddy ที่ดูแลครบเครื่องเรื่องสุขภาพ ผู้ช่วยด้านสุขภาพครบวงจร ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์อายุรกรรมผู้เชี่ยวชาญ แพทย์เฉพาะทาง ค้นหาแพทย์ที่เหมาะกับโรค การทำนัดหมายติดต่อเข้ารับการรักษา ผ่านเครือข่ายโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการครอบคลุมทั่วประเทศ โทร. 0 2290 2424 กด 3
MTL Fit Application ตัวช่วยด้านการออกกำลังกายที่ทำให้รู้จักสุขภาพของตัวเองดียิ่งขึ้น ด้วยการคำนวณ Health Score และกิจกรรม Weekly Goal เช่น การนับก้าวเดิน การนับจำนวนนาทีที่ออกกำลังกาย รวมถึง Challenge ต่างๆ เพื่อเพิ่มความสนุกและได้ประโยชน์จากการออกกำลังกาย พร้อมรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมจากการออกกำลังกายสอดรับกับเทรนด์สุขภาพในปัจจุบันอีกด้วย
คำเตือน :
– ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
– ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และควรศึกษาข้อมูลสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม ดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน
– กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ จึงมีความเสี่ยงด้านการเมือง เศรษฐกิจสังคม ภาวะตลาด สภาพคล่อง อัตราแลกเปลี่ยน กฎหมาย และ/หรือข้อจำกัดของประเทศที่กองทุนเข้าไปลงทุน ซึ่งอาจจะส่งผลต่อมูลค่าหน่วยลงทุน และ/หรือสภาพคล่องของกองทุน
– ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
หมายเหตุ :
– เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
– การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ บมจ.เมืองไทยประกนชีวิต
– บริการ MTL Health Buddy บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต เป็นเพียงผู้แนะนำการบริการให้กับลูกค้าเท่านั้น/การบริการนี้สำหรับคำแนะนำให้การรักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยที่ไม่ฉุกเฉิน หรือไม่เร่งด่วน เท่านั้น /เงื่อนไขเป็นไปตามที่ บมจ.เมืองไทยประกันชวิต และโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการกำหนด
– ระยะเวลาของความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่ม ในโครงการนี้จะมีผลตลอดระยะเวลาถือครองหน่วยลงทุนตามเงื่อนไขกองทุนที่ บลจ.วรรณ กำหนด