ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ผลักดันดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน เดินหน้าสร้าง Data-driven Culture ปักธงก้าวสู่ธนาคารที่โดดเด่นในเรื่องการใช้ข้อมูล (Data) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการดำเนินธุรกิจ จับมือพันธมิตร databricks ผู้นำด้าน Data Intelligence Platform ระดับโลก เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและสร้างสรรค์โซลูชันทางการเงิน ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในระดับเฉพาะบุคคล (Segment of One) พร้อมยกระดับความปลอดภัยป้องกันทางการเงินจากบัญชีม้า สร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทย
นายนริศ สถาผลเดชา ประธานกลุ่ม งาน Data และ Analytics ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า การนำ Data มาวิเคราะห์ เพื่อทราบพฤติกรรมและความต้องการที่แท้จริง ช่วยให้ธนาคารตอบสนองความต้องการลูกค้า โดยการยกระดับการบริการและสร้างประสบการณ์ทางการเงิน ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละบุคคลอย่างเฉพาะเจาะจงผ่าน Personalized AI Engine พร้อมทั้งลดความเสี่ยงจากการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยเฉพาะการโอนเงินเข้าบัญชีที่น่าสงสัยว่าอาจเป็น “มิจฉาชีพ” รวมไปถึงยกระดับความปลอดภัยแบบเฉพาะบุคคล ด้วยระบบแจ้งเตือนบนหน้าแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้ง ttb touch
มอบประสบการณ์ทางการเงินระดับเฉพาะบุคคลด้วย Segment of One
บริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ลูกค้าในระดับเฉพาะบุคคล บนแอป ttb touch ด้วยแนวคิด Humanized Digital Banking พิจารณาจากพฤติกรรมการใช้จ่าย ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของลูกค้าแต่ละคน ทำให้ธนาคารสามารถนำเสนอบริการที่ตรงใจลูกค้าในเวลาที่เหมาะสม รวมไปถึงการแจ้งเตือน และแนะนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ผ่าน Personalized Message มากกว่า 4 ล้านราย ผ่าน 18 ล้านข้อความต่อวัน ส่งผลให้ยอด Digital Sales ผ่านการทำ Personalized Card เติบโตถึง 2 เท่า และสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าอย่างเห็นได้ชัด
AI ป้องกันการทุจริต ยกระดับความปลอดภัยให้ลูกค้าผ่าน “4V”
ทีทีบีได้พัฒนาระบบ AI เพื่อป้องกันการทุจริตทางการเงิน โดยนำ “4V” ได้แก่ Volume, Variety, Velocity และ Veracity มาใช้ในการตรวจจับรูปแบบธุรกรรมที่มีความเสี่ยง ทำให้ธนาคารสามารถลดอัตราบัญชีม้าเกิดใหม่ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ และยังมีการแจ้งเตือนลูกค้าแอป ttb touch เพื่อยกระดับความปลอดภัยในระดับเฉพาะบุคคล โดยธนาคารได้วิเคราะห์ข้อมูลและส่ง Personalized Card แจ้งเตือนไปยังลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่มีความเสี่ยง ซึ่งพบว่ามีลูกค้าให้การตอบรับและเข้าไปปิดฟังก์ชันการใช้จ่ายร้านค้าออนไลน์และการใช้จ่ายโฆษณาบนบัตรเครดิตที่ไม่ได้ใช้งานถึง 43,000 ราย อีกทั้งปรับลดวงเงินการทำธุรกรรมที่ลูกค้าตั้งค่าวงเงินไว้เกินความจำเป็นไปกว่า 25,000 ราย
ขับเคลื่อนด้วย Gen AI และ databricks
ทีทีบีนำเทคโนโลยีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) และ Generative AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการของพนักงานในช่องทาง ttb contact center ทำให้ตอบคำถามลูกค้าได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้นกว่าเท่าตัว พร้อมทั้งยกระดับขีดความสามารถด้าน Data and AI โดยใช้แพลตฟอร์มสุดล้ำอย่าง databricks ที่ Gartner ได้จัดลำดับให้เป็นผู้นำด้าน Data and AI ในการประมวลผลข้อมูล ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน อาทิ ความรวดเร็วในการใช้และประมวลผลข้อมูลที่ให้ความสามารถในการใช้ประโยชน์ได้เรียลไทม์ และรองรับปริมาณการประมวลผลข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ ตลอดจนเจาะลึกเชิงเทคนิคทำให้ส่ง Personalized Message หาลูกค้าได้จำนวนมาก ถูกจังหวะ ถูกเวลา เรียลไทม์ และครอบคลุมยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ธนาคารสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ
“ทีทีบีมุ่งขับเคลื่อนกลยุทธ์ Transform องค์กรในทุกมิติ โดยนำ Data และ AI มาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าเพื่อมอบประสบการณ์ทางการเงินเฉพาะบุคคล วิเคราะห์บัญชีที่มีความเสี่ยงจะเป็นบัญชีม้าเพื่อแจ้งเตือนภัยทางการเงินของลูกค้าให้มีความปลอดภัย ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจทางการเงินได้อย่างมีข้อมูลที่ครบถ้วน ซึ่งการใช้เทคโนโลยีนี้ทำให้ลูกค้าของเราสามารถมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ และเสริมสร้างอนาคตทางการเงินที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง” นายนริศ กล่าวสรุป
