ธนาคารกรุงเทพ คว้า 7 รางวัลยอดเยี่ยมด้านตราสารหนี้

0
14

ธนาคารกรุงเทพ คว้า 7 รางวัลยอดเยี่ยมด้านตราสารหนี้ จากสมาคมตราสารหนี้ไทย     นำโดยรางวัลใหญ่ Best Bond House และ Top Underwriter พ่วงด้วย 3 รางวัลโดดเด่นด้านตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และความยั่งยืน ชี้เทรนด์ตลาดปี 2568 สนใจหุ้นกู้อายุระยะสั้นกว่าปีที่ผ่านมา เลี่ยงอุตสาหกรรมเสี่ยง พร้อมเดินหน้าการเป็น Sustainability Bond House 

นายประเสริฐ ดีจงกิจ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการฝ่ายทุนธนกิจ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารได้รับรางวัลตราสารหนี้ยอดเยี่ยม จากงานมอบรางวัลตราสารหนี้ยอดเยี่ยมแห่งปี 2567 (ThaiBMA Best Bond Awards 2024) ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA Awards) โดยปีนี้ธนาคารได้รับทั้งสิ้น 7 รางวัล ประกอบด้วย

  1. รางวัล Best Bond House รางวัลยอดเยี่ยมสำหรับสถาบันการเงินที่มีความเป็นเลิศในการทำธุรกรรมตราสารหนี้ทั้งในตลาดแรกและตลาดรองตลอดจนมีบทบาทโดดเด่นในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้
  2. รางวัล Top Underwriter  รางวัลที่มอบให้แก่สถาบันผู้จัดจำหน่ายตราสารหนี้ ที่มีมูลค่ารวมของการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ภาคเอกชนระยะยาวสูงที่สุด
  3. รางวัล Best Primary Market Contributor รางวัลที่มอบให้แก่สถาบันการเงินผู้ค้าตราสารหนี้ที่มีสัดส่วนการได้รับจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลสูงสุดในตลาดแรกผ่านการเข้าร่วมประมูลพันธบัตรรัฐบาลรุ่นที่ออกโดยกระทรวงการคลังในปี งบประมาณ 2567
  4. รางวัล Best Secondary Market Contributor รางวัลที่มอบให้แก่สถาบันการเงินผู้ค้าตราสารหนี้ที่มีสัดส่วนการได้รับจัดสรรพันธบัตรรัฐบาลสูงสุดในตลาดรอง โดยคิดจากมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลรุ่นที่ออกโดยกระทรวงการคลังใน ปีงบประมาณ 2567 
  5. รางวัล Most Innovative Deal รางวัลที่มอบให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้และผู้จัดจำหน่าย ที่ส่งเสริมความยั่งยืนและมีความโดดเด่นในการระดมทุนอย่างสร้างสรรค์สามารถเป็นต้นแบบให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้รายอื่น ได้แก่ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2567 ชุดที่ 1 และ ครั้งที่ 1/2567 ชุดที่ 2 
  6. รางวัล Government Sector ESG Bond of the Year รางวัลที่มอบให้แก่ตราสารหนี้ภาครัฐและผู้จัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลภายใต้กรอบการระดมทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และความยั่งยืนของกระทรวงการคลัง ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1 
  7. รางวัล Deal of the Year รางวัลที่มอบให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้และผู้จัดจำหน่าย ในธุรกิจตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีความโดดเด่นที่สุดในทุกๆด้าน ได้แก่ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1/2567 ชุดที่ 1 – ชุดที่ 5

“ ปีนี้ธนาคารได้รับรางวัล Best Bond House รางวัลสูงสุดที่ประเมินผลจากความเป็นเลิศในหลากหลายมิติ ทั้งการทำธุรกรรมตราสารหนี้ทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง รวมถึงการมีบทบาทโดดเด่นในการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ และรางวัล Top Underwriter ที่มีมูลค่ารวมการจัดจำหน่ายหุ้นกู้เอกชนระยะยาวสูงที่สุดในปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงความมั่นใจของทั้งผู้ออกตราสารหนี้ และผู้ลงทุนที่มีต่อธนาคารในฐานะ “ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค” ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านธุรกิจการเงิน รวมถึงมีความความมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน”

นอกจากนี้ ยังมี 3 รางวัลที่มาจากผลงานความโดดเด่นด้านการออกตราสารหนี้เพื่อระดมทุนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และความยั่งยืน โดยหนึ่งในนั้นคือรางวัล Government Sector ESG Bond of the Year ที่ธนาคารได้รับจากการจัดจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลภายใต้กรอบการระดมทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม สังคม และความยั่งยืนของกระทรวงการคลัง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของธนาคารเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยครอบคลุมทั้งมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

ทั้งนี้ตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนชุดใหม่ที่จะออกเสนอขายในปี 2568 คาดว่ามูลค่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่มีแนวโน้มอายุเฉลี่ยสั้นลง และส่วนใหญ่จะเป็นการออกตราสารหนี้เพื่อรีไฟแนนซ์ชุดเดิมหรือชำระคืนเงินกู้ มากกว่าจะนำไปลงทุนในโครงการใหม่ๆ ตามสภาวะการลงทุนภาคเอกชนที่มีทิศทางชะลอตัวในช่วงเวลาที่ผ่านมา

สำหรับผู้ลงทุน มีแนวโน้มต้องการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยผู้ลงทุนสถาบัน มักจะลงทุนในตราสารหนี้เรตติ้ง A ขึ้นไป หากเป็นกองทุนตราสารหนี้ จะสนใจลงทุนแบบ Zero Coupon Bond ที่อายุไม่เกิน 3 ปี ซึ่งตอบโจทย์เรื่องการบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่า และมีสภาพคล่องในตลาดรองสูงกว่า ขณะที่ผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา จะนิยมตราสารหนี้อายุ 2-4 ปี  อันดับความน่าเชื่อถือ BBB ขึ้นไป แต่ยังคงระมัดระวังการลงทุนในบางอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

 “แม้นักลงทุนจะหันมาสนใจลงทุนในตราสารหนี้เพื่อกระจายความเสี่ยง แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการคัดเลือกตราสารหนี้มากขึ้น ซึ่งธนาคารคัดสรรกลุ่มตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมแก่ลูกค้า โดยยังคงนโยบายการเป็น Sustainability Bond House ที่เน้นจุดแข็ง 5 ด้าน คือ Trust สร้างความไว้วางใจทั้งกับผู้ออกตราสารหนี้และผู้ลงทุน Service ให้บริการมากกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง Market Development ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ พัฒนาตลาดตราสารหนี้ Product Development สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมโดยเฉพาะด้าน ESG และ People Development สร้างบุคลากรที่มีคุณภาพคู่คุณธรรม มีความเชี่ยวชาญ เพื่อหาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม” นายประเสริฐกล่าว