กลุ่มบริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด (LHMH) เปิดตัว “โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี” (Grande Centre Point Lumphini) ตอกย้ำผู้นำธุรกิจโรงแรมแบรนด์ไทย พร้อมมอบประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาสให้นักเดินทางทั่วโลก ด้วยการออกแบบที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับธรรมชาติใจกลางเมือง พร้อมเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
คุณสุวรรณา พุทธประสาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด กล่าวว่า ในโอกาสครอบรอบ 17 ปีของกลุ่มโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ได้เปิดตัว โรงแรมระดับ Prestige Collection แห่งแรกของแบรนด์ “แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี” ที่หรูหราระดับเวิลด์คลาส สะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการโรงแรมในประเทศไทยให้ทัดเทียมระดับสากล
“ตลอด 17 ปี เราเติบโตจากสาขาแรกที่ราชดำริ สู่เครือโรงแรมหรูในทำเลสำคัญของกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวสำคัญอย่างพัทยา ปีนี้เป็นปีพิเศษ เพราะเรากำลังก้าวไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัว แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ Prestige Collection แห่งแรกของแบรนด์ที่สะท้อนถึงความหรูหราระดับเวิลด์คลาส พร้อมกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟตลอดปี 2568”
สำหรับผลประกอบการปี 2567 เติบโตเกินกว่าที่คาดการณ์ โดยโรงแรมในเครือแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ทั้ง 7 แห่งในกรุงเทพฯ และพัทยา มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงกว่า 85% โดยสาขาที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สเปซ พัทยา, แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา และ แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เทอร์มินอล 21
และการเปิดตัว แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี ด้วยแนวโน้มการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จึงคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของรายได้กลุ่มโรงแรมในปี 2568 จะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน
คุณกิตติ วรบรรพต กรรมการผู้จัดการบริษัทแอล เอช เอ็ม เอช โฮเทล จำกัด (LHMH) เปิดเผยว่า หลังจากโครงการแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท ยังเตรียมเปิดต่อเนื่องอีก 3 โครงการ เพิ่มห้องพักจากเดิมกว่า 1,300 ห้อง ตั้งอยู่ในโครงการในทำเลที่มีประสบการณ์อันยาวนานและทำเลใหม่เพื่อตอบกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้น พร้อมแนวคิดใหม่ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจสำหรับผู้เข้าพัก
● แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพ Grande Centre Point Prestige Bangkok เปิดปลายปี 2568
โรงแรมในกลุ่ม Prestige collection แห่งที่สองของแบรนด์ 509 ห้อง บนทำเลราชดำริซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าเพนนินซูล่าพลาซ่าเดิม อัดแน่นด้วย Facilities อย่างสระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้ายาว 50 เมตร, สปา, ร้านอาหารหลากหลาย, ห้องประชุมสำหรับงานจัดเลี้ยงระดับพรีเมียม การออกแบบห้องพักเลือกกลิ่นอายไทยสบาย ได้ความสงบและหรูหราในโทนสีขาว-ทอง
● แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ โวยาจ พัทยา Grande Centre Point Voyage Pattaya เปิดปลายปี 2569
ต่อยอดความสำเร็จจากโรงแรมที่เปิดก่อนหน้าทั้งสองแห่งที่พัทยา โครงการนี้สร้างบนพื้นที่กว่า 22 ไร่ สวนสวยขนาดใหญ่ภายใต้ Concept “Time Traveler” เดินทางผ่านมิติของเวลาโลกตะวันตกสู่จุดศูนย์รวมยุโรป ณ จุดเดียวกับวิว Skywalk เหนือสวนน้ำ เครื่องเล่นหลากหลาย ห้องพักขนาดใหญ่ทั้ง 494 ห้องที่สามารถมองวิวได้ทุกห้อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่มาสร้างความบันเทิงแก่ผู้เข้าพัก ห้องประชุมที่รองรับลูกค้าได้ทุกฟังก์ชัน และร้านอาหารในโรงแรมหลากหลายรูปแบบ
● แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ไชน่าทาวน์ กรุงเทพ Grande Centre Point Chinatown Bangkok เปิดกลางปี 2571
บนทำเลทองย่านเยาวราชซึ่งเปี่ยมด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรม 4 ด้านกับโรงแรมที่มีห้องพัก 351 ห้อง พร้อมพื้นที่สีเขียวล้อมรอบตัวตึก ร้านค้าระดับพรีเมียม 20 แบรนด์ภายในบรรยากาศที่สุดคลาสสิก ที่ออกแบบดีไซน์ในรูปแบบจีนร่วมสมัย ศาลา สถาปัตยกรรมรายละเอียดในทุกซอกมุมใหญ่ของตัวโรงแรม คาดหมายให้เป็น Landmark แห่งใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวและเสริมให้ย่านเยาวราชมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น
คุณเมสินี แก้วราตรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร LHMH กล่าวว่า “แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี” เป็นโรงแรมแรกภายใต้แนวคิด ‘Tier Prestige Collection’ ที่ยกระดับแบรนด์สู่ตลาดโรงแรมหรูระดับเวิลด์คลาส” ซึ่งการพัฒนา Tier Prestige Collection เกิดจากการศึกษาตลาดเชิงลึก และความต้องการของนักเดินทางระดับพรีเมียม ซึ่งพบว่า นักท่องเที่ยวในปัจจุบันและอนาคต ต้องการประสบการณ์การพักผ่อนที่เหนือระดับ ภายใต้แบรนด์ไทยที่มีมาตรฐานเทียบเท่าโรงแรมระดับโลก
โดยบริษัทฯ ได้พัฒนาศักยภาพของพนักงาน ระบบการจัดการโรงแรม มาตรฐานบริการ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารและยกระดับมาตรฐานบริการให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวระดับเวิลด์คลาส กลยุทธ์การตลาดและขยายฐานลูกค้าของเครือจึงมุ่งเน้น เจาะกลุ่มนักเดินทางระดับพรีเมียม, นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมขยายตลาด การประชุมสัมมนา อีเวนต์ และจัดเลี้ยง
ด้วยกลยุทธ์ Customer Centric พัฒนาบริการโดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ใช้ Loyalty Program เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและดึงดูดลูกค้าใหม่ ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ควบคู่ไปกับ สร้างพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขยายการรับรู้แบรนด์ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์และกิจกรรมพิเศษ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ลูกค้าจดจำและกลับมาใช้บริการซ้ำ โดยLHMH เดินหน้าขยายธุรกิจและเสริมแกร่งแบรนด์แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโรงแรมหรูของไทยและระดับโลก
คุณสายฝน พลพรพิสิฐ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี กล่าวถึงจุดเด่นของโรงแรมว่า เป็นโครงการ Mixed-Use ที่มีทั้งโรงแรมระดับ 5 ดาว และพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่รองรับทั้งนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจ ที่อยู่บนทำเลใจกลางเมือง ใกล้สวนลุมพินี เชื่อมต่อกับย่านธุรกิจและศูนย์การค้าใหญ่ ที่พร้อมมอบประสบการณ์การพักผ่อนเหนือระดับด้วย Sky Pool, Gravity Fit Club, Let’s Relax Spa & Onsen, Tiny Tree Kids Club และห้องอาหารนานาชาติ ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้เข้าพัก
โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี มุ่งเน้นไปที่นักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ นักธุรกิจ และนักเดินทางที่มองหาที่พักที่หรูหรา มีห้องประชุมจัดเลี้ยง สัมมนา บริการครบวงจร และอยู่ในทำเลที่เดินทางสะดวก โดยคาดการณ์ว่าสัดส่วนลูกค้าจะเป็น นักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 70% และลูกค้าคนไทย 30%
สำหรับโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ลุมพินี (Grande Centre Point Lumphini) เป็นส่วนหนึ่งของ “Prestige Tier” ภายใต้แบรนด์แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ที่ไซน์เหนือระดับและการบริการที่ประณีต ห้องพักและห้องสวีทสุดหรู 512 ห้อง ที่โดดเด่นด้วยความเงียบสงบ กว้างขวาง หรูหรา พร้อมหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน เปิดรับแสงธรรมชาติและมอบวิวอันงดงามของสวนลุมพินี สวนเบญจกิติ และแม่น้ำเจ้าพระยา ทุกห้องพักเพียบพร้อยด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมและเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมประสบการณ์รับประทานอาหารระดับไฮเอนด์ ในห้องอาหารนานาชาติ ห้องอาหารรูฟทอป ห้องอาหารจีน และคาเฟ่ พร้อมการผ่อนคลายและดูแลสุขภาพในระดับเวิลด์คลาส รวมถึงห้องประชุมจัดเลี้ยงและสัมมนาขนาดใหญ่สุดล้ำสมัย
พร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 เมษายน 2568