กรุงเทพประกันภัย ตั้งเป้าจ่ายสินไหม เหตุแผ่นดินไหว จบภายในสิงหาคมนี้ ลดความเดือดร้อน สร้างความเชื่อนมั่น

0
269

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน กรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่เกิดขึ้น ไม่ได้สร้างความเสียหายมาก เหมือนกับเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2554  เพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นความเสียหายอยู่ประมาณ 400,000 กว่าล้านบาท แต่ก็ยังน้อยกว่าเหตุการณ์สึนามิ ที่เสียหายกว่ามาก เหตุการณ์แผ่นดินไหวเกิดขึ้นที่ประเทศพม่า เพียงแต่เกิดตึก สตง.ถล่ม ในประเทศไทย  ทำให้ดูเหมือนเกิดความเสียหายมาก เพราะประเทศไทยไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้

ทั้งที่ความเสียหายโดยภาพรวม โดยภาพรวมอุตสาหกรรมประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่ 18 จังหวัด จนถึงปัจจุบันคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 18,000 – 20,000 ล้านบาท และธุรกิจประกันภัยมีจำนวนการรับแจ้งเคลมสินไหมทดแทนรวมทั้งสิ้นกว่า 120,000 เคลม ส่วนใหญ่เป็นเคลมรายย่อยๆ  ที่มีการทำประกันภัย โดยบริษัทประกันภัย รายใหญ่ อย่าง ชับบ์สามัคคีประกันภัย  กรุงเทพประกันภัย ทิพยประกันภัย เมืองไทยประกันภัย  แอกซ่าประกันภัย อลิอันซ์ประกันภัย ส่วนที่เหลือกระจายไปอยู่กับบริษัทประกันภัยรายอื่นๆ ไม่มากนัก

โดยความเสียหาย ในส่วนของประกันภัย จะเป็นกลุ่ม ที่อยู่อาศัย  อาคาร คอนโดมิเนี่ยม ที่ตั้งอยู่ในแนวแผ่นดินไหว ความเสียหายที่เกิดขึ้น จะเป็นลักษณะ รอยแตกร้าว ฝ้าหล่น  และมีอาคารมีรอยทรุด ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นอาคารที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับพม่า อย่างเชียงใหม่ เชียงราย และจังหวัดในภาคเหนือเป็นส่วนใหญ่  สำหรับในพื้นที่กรุงเทพความเสียส่วนใหญ่ จะเป็นบ้านอยู่อาศัย คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน และที่หนักคือ ตึก สตง.

ในส่วนของการเคลมนั้นหากมีการยื่นขอรับสินไหมทดแทน หากเอกสารครบถ้วนตามเงื่อนไขกรมธรรม์ ก็จะสามารถจ่ายสินไหมได้ภายใน  7-10 วันทำการ ตามหลักการทั่วไป  สำหรับในส่วนของกรุงเทพประกันภัย มีเคลมจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2568 บริษัทฯ มีการสำรองค่าสินไหมทดแทน (Loss Reserve) ราว 3,000 ล้านบาท จากการแจ้งเคลมเหตุแผ่นดินไหวจำนวนทั้งสิ้นกว่า 19,000 เคลม  ซึ่งประเภทประกันภัยที่มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนมากที่สุดคือประกันอัคคีภัยบ้านอยู่อาศัยและห้องชุด ส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อย คิดเป็นสัดส่วน 87% ของจำนวนเคลมทั้งหมด

แต่เนื่องจากมีการเเจ้งเคลมเข้ามาเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลให้กระบวนการดำเนินงานพิจารณาค่าสินไหมทดแทนเกิดความล่าช้า จากการส่งเอกสารประกอบการเคลมไม่ครบถ้วน ขั้นตอนการประสานงานกับนิติบุคคลของอาคารชุด การเข้าสำรวจและประเมินความเสียหายภายในห้องพัก ตลอดจนเจ้าหน้าที่จากบริษัทสำรวจภัยที่ไม่เพียงพอกับปริมาณเคลม รวมถึงการประเมินราคาค่าซ่อมความเสียหายจากผู้รับเหมาบางแห่งที่สูงกว่าราคาค่าซ่อมแซมตามมาตรฐาน จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการประเมิน ตรวจสอบ และพิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการปรับขั้นตอนการบริหารจัดการเคลมร่วมกับการระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานภายในให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เพื่อเร่งดำเนินการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ลูกค้าโดยเร็ว โดยคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถจ่ายเคลมให้แก่ผู้เอาประกันภัยได้เกือบทั้งหมดภายในเดือนสิงหาคม 2568

นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่มีเหตุการณ์แผ่นดินไหว สั่นนานขนาดนี้ เมื่อเกิดความเสียหาย ผู้เอาประกันภัย ยังไม่ได้มีประสบการณ์ในการแจ้งเคลมลักษณะนี้  ว่าจะต้องแจ้งอย่างไร ก็ได้แต่เล่าถึงลักษณะ ภาพประกอบ ประกอบกับภาพถ่ายที่ส่งมาไม่ค่อยชัดเจน ทำให้ไม่สามารถประเมินความเสียหายเบื้องต้นได้ยาก ต้องให้ลูกค้าติดต่อผู้รับเหมามืออาชีพ เพื่อให้เข้าไปร่วมประเมิน และได้รู้ละเอียด  ว่าความเสียหายมีตรงไหนบ้าง บริษัทประกันภัยจะได้พิจารณาสินไหมได้ง่ายและครบถ้วน ปรากฏว่าเคลมมีจำนวนมาก ทำให้ผู้รับเหมามีจำนวนไม่พอ 

ขณะเดียวกันบางรายให้ผู้รับเหมาไปประเมิน  สมมติว่า รอยร้าว บริษัทประกันประเมิน 5,000 บาท แต่ผู้รับเหมาประเมินค่าซ่อมมา 20,000  บาท คือ ณ วันนี้ทั้งระบบประกันภัย เจอสภาพเดียวกันหมด และหากลูกค้าอยากซ่อม แต่บริษัทประกันภัยต้องขอเจรจา เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสมที่สุด จึงทำให้การเคลมค่อนข้างล่าช้า นี่คือสาเหตุ

หากเป็นอาคารคอนโดมิเนียม มีความซับซ้อนของการประเมินความเสียหายมากกว่าบ้านอยู่อาศัยที่มีความเสียหายน้อยกว่า คอนโดมิเนียม และอาคารสูง  เพราะการประเมินความเสียหายในแต่ละชั้น แต่ละช่วงความสูงก็แตกต่างกันอีก  บางตึก ความเสียหายระหว่างชั้นตรงกลางเสียหายหนัก กว่า ล่างลงมา หรือสูงขึ้นไป ในขณะเดียวบางพื้นที่ส่วนที่อยู่สูง มีความเสียหายมากกว่า  ไม่มีความเหมือนกันในแต่ละพื้นที่ ไม่มีมาตรฐานกลางเลย

พร้อมกันนี้ ในส่วนของการรับประกันภัยคอนโดมิเนียม จะมีการทำประกันภัยในฝั่งนิติบุคคล คุ้มครองทรัพย์สินของตึกที่เป็นส่วนกลาง กรมธรรม์หลักที่คุ้มครองอาคารสูง มีเงื่อนไขแตกต่าง บางแห่งมีการขยายความคุ้มครองถึงลูกห้อง   แต่บางอาคารกรมธรรม์ไม่ได้ขยายความคุ้มครอง ถึงลูกห้อง ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ฉบับกลางที่มีคนซื้อไว้ และหากขยาย มีการกำหนดวงเงินความคุ้มครองในแต่ละห้อง ในแต่ละกรมธรรม์ไม่เท่ากันอีก บางกรมธรรม์มีการขยายความคุ้มครองไปถึงลูกห้องของอาคารชุด ห้องละไม่เกิน 20,000 บาง บางกรมธรรม์ ห้องละไม่เกิน 50,000 บาท  บางกรมธรรม์ไม่เกิน 100,000 บาท  หรือมากกว่านั้น มีความแตกต่างแต่ละอาคาร

นอกจากนี้ลูกห้องแต่ละรายยังมีการทำประกันภัย กับบริษัทประกันภัยไม่เหมือนกันอีกในแต่ละตึก เพราะแต่ละคนก็จะกู้เงินจากธนาคารไม่เหมือนกันอีก  และยังมีจำนวนไม่น้อยอีก ที่ตึกหนึ่งนิติอาคารชุด มีการทำประกันภัยโดยการแบ่งส่วนการรับทำประกันภัยไว้กับ 2 – 3 บริษัทประกันภัย เป็นการทำประกันภัยร่วมของตึกแต่ละตึกอีก

เมื่อเป็นเช่นนี้ พอเกิดความเสียหาย ผู้รับประกันภัยที่เป็นรับประกันภัยในสัดส่วนมากสุด จะใช้  Loss adjuster หรือ ผู้ประเมินวินาศภัย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ เป็นผู้ดำเนินการ ส่งผลให้ขั้นตอนสะดวกขึ้น เพราะแต่ละอาคารจะมีจำนวนห้องมากเป็นหลักร้อย แน่นอนว่าต้องใช้ระยะเวลาเป็นเดือนกว่าจะเสร็จ ไม่ใช่ว่าบริษัทประกันภัยไม่อยากจ่ายเคลม แต่ทุกอย่างใช้เวลาหมด

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอน กระบวนการในการพิจารณา ในกรณีนี้ มีความซับซ้อนมาก ประกอบกับจำนวนเคสก็มีจำนวนมากเช่นกัน นับเป็นความหนักใจในการจ่ายเคลมไม่ใช่ว่าไม่พร้อมจ่าย บริษัทประกันภัยพร้อมมาก สำหรับในส่วนของกรุงเทพประกันภัย พยายามที่จะบริหารจัดการเพื่อดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุด  ในการเจรจา และเพื่อให้ย่นระยะเวลา จึงใช้วิธีการพิจารณาจากความเป็นไปได้ที่เหมาะสมในกาจ่ายสินไหม มากบ้างน้อยบ้าง อลุ่มอร่วย และทำการจ่ายออกไปก่อน เพื่อให้สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้า เสร็จแล้วในการเจรจากันระหว่างบริษัทประกันภัยด้วยกัน ค่อยมาคุยกันทีหลังได้ โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้เร่งรัดกระบวนการพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนอย่างต่อเนื่องให้เร็วที่สุด และสามารถดำเนินการจ่ายเคลมไปแล้วกว่า 40%  คิดเป็นจำนวน ประมาณ 9,000 เคลม คิดเป็นจำนวนเงินสินไหม 1,000 กว่าล้านบาท ของจำนวนเคลมทั้งหมด โดยคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถจ่ายเคลมให้แก่ผู้เอาประกันภัยได้เกือบทั้งหมดภายในเดือนสิงหาคม 2568 ยกเว้นลูกค้าที่ไม่ยื่นเคลม หรือยื่นรายละเอียดใดๆ

ทั้งนี้ในส่วนของสินไหมที่ได้มีการจ่ายเคลมไปนั้น ได้มีการระบุค่าใช้จ่ายในระบบบัญชี รอบไตรมาสแรกแล้วรวมอยู่ในจำนวนสินไหมที่ประเมินไว้  3,000 ล้านบาท แล้วตามสัญญาประกันภัยต่อ ซึ่งในจำนวนสินไหมที่ระบุไว้นั้น ได้รวมถึงค่าสินไหมในส่วนของ ตึก สตง.ไปแล้วด้วย ทั้งที่เรื่องของตึก สตง.ยังไม่ได้สรุปเรื่องความรับผิดที่บริษัทประกันภัยต้องรับผิดชอบตามกรมธรรม์ ซึ่งเรื่องนี้ต้องรอการสอบสวนให้เรียบร้อยก่อน เพราะในส่วนของตึก สตง.กรุงเทพประกันภัยรับผิดชอบในสัดส่วน 25%  โดยตึก สตง.มีการประเมินความเสียหายอยู่ที่ 1,061 ล้านบาท ตามมูลค่าความเสียหาย ณ วันที่ตึก ถล่มตามระยะเวลาก่อสร้างที่เป็นจริงแต่ มีส่วนที่ สตง.ร่วมรับผิดชอบส่วนแรกอยู่ 20%  เหลือส่วนที่สามารถเคลมจากระบบประกันภัยประมาณ 800 กว่าล้านบาท คิดเป็นส่วนของกรุงเทพประกันภัย ที่รับผิดชอบประมาณ 250 ล้านบาท โดยเราตั้งเผื่อไว้แล้ว ซึ่งตอนนี้กระทรวงการคลังพยายามเร่งเรื่องคดี

อย่างไรก็ตาม กรุงเทพประกันภัยมุ่งมั่นดำเนินการในทุกขั้นตอนด้วยความรอบคอบและโปร่งใส เพื่อดูแลลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด พร้อมยืนหยัดด้วยความมั่นคงทางการเงิน ด้วยเงินทุน กองทุน และสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง โดยขอยืนยันว่าจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัทฯ เนื่องจากมีการจัดสรรประกันภัยต่อ (Reinsurance) ครอบคลุมมากกว่า 95% ของความเสียหายทั้งหมด และยังคงสามารถรักษาอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินในระดับสูงได้อย่างต่อเนื่อง