BTNC พลิกโฉมองค์กรสู่ Green Industry ชู Fabric Zero Waste ยกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่น

0
44

บริษัท บูติคนิวซิตี้ หรือ BTNC  ผู้ออกแบบและจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นเครือสหพัฒน์ ขับเคลื่อนธุรกิจบนเส้นทางความยั่งยืน ด้วยวิสัยทัศน์ “THE FUTURE OF SUSTAINABLE FASHION” ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ Green Industry ผนึกพันธมิตรสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน นำทรัพยากรส่วนเกินมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผ่านโครงการ A’MAZE Green Society จุดประกายให้ร่วมกันดูแลสิ่งแวดล้อม สังคมและชุมชน ตลอดจนมีธรรมาภิบาลที่ดี เพื่อโลกยั่งยืน  

คุณประวรา เอครพานิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บูติคนิวซิตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บูติคนิวซิตี้มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจตามกรอบ ESG เน้นการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “THE FUTURE OF SUSTAINABLE FASHION” พร้อมทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่การเป็น Green Industry ผ่านโครงการ A’MAZE Green Society  โดยจับมือพันธมิตร อาทิ โรงพยาบาลพญาไท Q-CON และ SC Grand สร้างการเปลี่ยนแปลงสู่ความยั่งยืนตั้งแต่จุดเริ่มต้น ด้วยกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและนำทรัพยากรส่วนเกินมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้ง Upcycle และ Recycle ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายลดขยะเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมเป็นศูนย์ ด้วยระบบ Zero Waste Process และพร้อมเปิดรับพันธมิตรรายใหม่ ร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงนำพาประเทศไทยสู่ Net Zero  

“บูติคนิวซิตี้ ส่งเสริมการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนในรูปแบบ Sustainability Fashion มุ่งสู่แฟชั่นที่ยั่งยืนทุกรายละเอียดในการทำงาน ตั้งแต่เลือกวัตถุดิบ การใช้เครื่องจักร รูปแบบการตัดเย็บ การย้อม การพิมพ์ที่ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะและมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณขยะจากขั้นตอนการผลิต พร้อมทั้งควบคุมต้นทุน เพื่อสร้างมาตรฐานที่ดีในรูปแบบ Timeless Design สวยงามและใช้ได้ยาวนาน สะท้อนจุดยืนว่าไม่มีลักษณะเป็น fast fashion ที่ทำให้ fashion is waste กับโลกใบนี้”

“เราตั้งใจที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ในการพัฒนาบริษัทอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของประเทศและระดับนานาชาติ ซึ่งเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาสากลที่ทุกคนควรมีส่วนร่วมมือกันแก้ไข แม้เพียงแค่เล็กน้อย แต่ก็จะช่วยเพิ่มความยั่งยืนให้โลกได้อย่างมหาศาล บูติคนิวซิตี้จึงมุ่งมั่นที่จะยกระดับแฟชั่น ผ่านโครงการความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจและสังคม” คุณประวรา กล่าวย้ำ 

สำหรับแผนการตลาดในครึ่งหลังปี 2567 ยังคงเดินหน้าสร้างสังคมแห่งการรับฟัง เข้าใจ และเรียนรู้ระหว่างคนในแต่ละเจเนอเรชั่น พร้อมเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆที่ลดเวลาในการทำงาน และสร้างผลงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เช่น ช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ การนำข้อมูล (Data) ที่จัดเก็บอย่างเป็นระบบจำนวนมาก มาปรับปรุงให้มีความเป็นปัจจุบัน เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจ หรือแนวทางแก้ปัญหา ช่วยเพิ่มความรวดเร็ว แม่นยำ   

สำหรับผลิตภัณฑ์ด้าน ESG อย่างแท้จริง จะมีการทำ Collection เป็นสัดส่วนอย่างน้อย 30% ที่สอดคล้องกับแนวคิดนี้ เช่น  

-RE-LOOP Collection โดยการใช้ผ้า Recycle ที่ร่วมมือกับ SC grand นำผ้า 5% ที่เหลือจากการผลิตในรอบแรกมาสร้างเป็นผ้าผืนใหม่ที่สวยงามและมีเอกลักษณ์  

-การขยายผลจากการ Upcycle เสื้อเหงาสีขาวของบริษัทด้วยการทำ Organic Indigo  พร้อมที่จะสร้างเป็น โครงการ Your Own Organic Indigo โดยรับเสื้อผ้าสีขาวของลูกค้ามาเติมชีวิตใหม่โดยการมัดย้อมครามร่วมกับชุมชนย้อมครามจังหวัดสกลนคร  

-การเลือกผ้าพิมพ์สวยๆ ที่พิมพ์ด้วยเทคนิคพิเศษ ลดการใช้ปริมาณความร้อนในการพิมพ์ แต่ได้ผ้าที่สวยทน และ สวยนิสัยดี  ทั้งหมดคาดว่าจะเป็นสัดส่วนไม่น้อยกว่า 30% ของคอลเลคชั่นที่จะเกิดขึ้น  และจะเพื่มขึ้นเรื่อยๆ สำหรับผ้าที่เหลือนำมาพัฒนาใหม่ เป็นคอลเลกชันต่อไป  

อีกทั้ง ยังส่งเสริมเรื่องของความเท่าเทียมดั่งเช่น GSP X Alex ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดย อเล็ก-ชนกรณ์ พุกะทรัพย์  ศิลปินเด็กพิเศษ เยาวชนออทิสติกต้นแบบประจำปี 2567 ผู้ต่อยอดงานดิจิทัลอาร์ทสู่ลายผ้าที่เป็นเอกลักษณ์กับ  2 คอลเลคชั่นพิเศษ    GSP X Alex    “Family is love”  และ “Rainbow Heart” ที่เน้นการใช้สี และเนื้อผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  ซึ่งเป็นการปลุกความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินรุ่นใหม่ ซึ่งทุกคนควรได้รับการสนับสนุนอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เป็นเด็กพิเศษหรือเด็กปกติ

นอกจากนี้ ยังสร้างระบบบริหารและบริการที่พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ด้วยการพัฒนาระบบสมาชิกมอบสิทธิพิเศษ แจ้งข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ จัดทีมบริการลูกค้า และสอบถามข้อมูลสินค้าและการบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งสื่อสารกับลูกค้าทั้งแบบโดยรวม และเฉพาะกลุ่ม ตลอดจนรายบุคคลอย่างใกล้ชิด โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนสมาชิกอย่างต่อเนื่อง  

และในงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 28 วันที่ 27 – 30  มิถุนายน 2567 ที่ไบเทคบางนา ลูกค้าจะได้พบกับขบวนสินค้าที่มาพร้อมแคมเปญและโปรโมชันสุดพิเศษของสินค้าแฟชั่นกลุ่มบูติคนิวซิตี้ ที่จะสร้างความประทับใจและลูกค้าให้การตอบรับได้เป็นอย่างดี