กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ปี 2567 โตแข็งแกร่ง ปี 2568 รุกสินเชื่อส่วนบุคคล เพิ่มรายได้  

0
12

กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เผยผลประกอบการปี 2567 เติบโตน่าพอใจ  เผยปี 2568 รุกสินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ปรับสัดส่วนให้สมดุลกับบัตรเครดิตที่ลุยต่อเนื่องมากว่า 5 ปี  รักษาบัลลังก์ผู้นำธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล โดยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก

นายอธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์  เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2567 ว่าเติบโตเป็นที่น่าพอใจ มียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 594,000 บัญชี เติบโต +6%, ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 392,500 ล้านบาท เติบโต +8%, ยอดสินเชื่อใหม่ 95,500 ล้านบาท เติบโต +4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยอดสินเชื่อคงค้าง 146,200 ล้านบาท ลดลง 1.5%   จากการปรับขึ้น Minimum Payment จาก 5% เป็น 8% ช่วงต้นปี 2567   ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน อยู่ที่ระดับ 1.1% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.6% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ ซึ่งนับว่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจ อันเป็นผลจากการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม   

โดยหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุดเรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่ 1. ประกันภัย  2. ไฮเปอร์มาร์ท ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ 3. ปั๊มน้ำมัน 4. ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน  5. ช้อปออนไลน์

ขณะที่หมวดใช้จ่ายที่มีอัตราเติบโตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. ตัวแทนท่องเที่ยว 2. โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชัน 3. ช้อปออนไลน์ 4. แอปดิลิเวอรี 5.สุขภาพและความงาม

อย่างไรก็ตามในปี 2568 และต่อเนื่องไปในระยะยาว คาดว่าธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อยังต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัวช้า อัตราส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ในระดับสูง แนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้และหนี้เสียที่แม้จะทรงตัว แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง รวมถึงมาตรการควบคุมจากภาครัฐ  ซึ่งผู้ประกอบการต้องปรับตัว

ดังนั้นปี 2568  จึงให้ความสำคัญกับการเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ และสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและการเติบโต   โดยเพิ่มน้ำหนักการเติบโตของสินเชื่อส่วนบุคคล  เนื่องจาก 5 ที่ผ่านมาเรามุ่งไปที่การเติบโตของบัตรเครดิตมากกว่า เพราะมองว่าความเสี่ยงน้อยกว่า  แต่ ณ ปัจจุบันการแข่งด้านการตลาดในการออกแคมเปญต่างๆทำให้ต้นทุนสูง ขณะที่เพดานอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตกำหนดไว้ที่ 16% ซึ่งถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

โดยทิศทางการดำเนินธุรกิจ  จะยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ผ่าน 5 กลยุทธ์หลักได้แก่ 

1.พัฒนาผลิตภัณฑ์หลักให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น โดยพัฒนาบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อผ่อนชำระ ให้มีจุดเด่นและสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ลูกค้ายิ่งขึ้น เช่น การปรับสิทธิประโยชน์หลักของบัตรเครดิตในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เช่น บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย 

 2.ขยายระบบนิเวศพันธมิตร โดยขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เช่น ปรับโฉมบัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน รวมถึงพันธมิตรแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ ร่วมนำเสนอโปรโมชันที่ตอบไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในทุกหมวดการใช้จ่าย  และแผนผ่อนชำระ ซึ่งจะขยายหมวดร้านค้าบริการให้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น ร้านแว่นชั้นนำ, สัตว์เลี้ยง, สินค้า Luxury และค่าส่วนกลางที่อยู่อาศัย   รวมไปถึงการปรับปรุงและเพิ่มช่องทางการขายประกันแบบ Face to Face ผ่านพาร์ทเนอร์ Co-Brand  อย่าง เซ็นทรัล และโฮมโปร ภายในปี 2568 นี้

3.สร้างเสริมนวัตกรรมทางการชำระเงิน เพื่อเป็นทางเลือกในการชำระเงินที่สะดวกสบายให้กับลูกค้า ผ่านความร่วมมือกับผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลก เพื่อรักษาความเป็นบัตรเครดิตหลักที่ลูกค้าเลือกใช้อย่างต่อเนื่อง  

 4.ผสานความร่วมมือในเครือกรุงศรีเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ  เช่น ออกแบบสิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิตให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่ม Wealth ของธนาคาร, นำเสนอบัตรเครดิตองค์กรให้กับลูกค้า SME หรือ Corporate Banking, การส่งเสริมให้ลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายในเครือกรุงศรี เป็นต้น 

 5.พัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยวางโครงสร้างและการบริหารทรัพยากรของหน่วยงานสนับสนุนให้สอดคล้องกับทิศทางธุรกิจในอนาคต เพื่อลดค่าใช้จ่าย และพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานให้รองรับความเติบโตในอนาคต 

“ 5 กลยุทธ์หลัก จะเสริมศักยภาพกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้สอดรับกับสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ และความต้องการของลูกค้า  เพื่อสร้างความเติบโตและรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจการเงิน โดยตั้งเป้าปี 2568  มียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 652,500 บัญชี (+10%), ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 431,500 ล้านบาท (+10%), ยอดสินเชื่อใหม่ 108,800 ล้านบาท (+14%) และยอดสินเชื่อคงค้าง 158,500 ล้านบาท (+8%)” นายอธิศกล่าวสรุป