กรุงเทพประกันชีวิตเผยผลงานQ1 ปี 63 เบี้ยรวม 10,057 ลบ.กำไรลด 82% เหตุตั้งสำรองPAD

0
125

        ม.ล. จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2563 ว่า กรุงเทพประกันชีวิตมีเบี้ยประกันรับปีแรกจำนวน 1,277 ล้านบาท ลดลง 17% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของไตรมาส 1 ในปีที่ผ่านมา เป็นผลจากการลดลงของช่องทางการขายผ่านธนาคาร ในขณะที่ช่องทางการขายผ่านตัวแทนประกันชีวิตและช่องทางอื่นๆ มีเบี้ยประกันรับปีแรกเพิ่มขึ้น และส่งผลให้บริษัทฯ มีเบี้ยประกันรับรวมในไตรมาสที่ 1 ของปี 63 อยู่ที่  10,057 ล้านบาท ลดลง 4%

         บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2563 จำนวน 337,050 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 4% โดยมีสัดส่วนสินทรัพย์ลงทุนสูงที่สุดคือ 94% มีกำไรสุทธิ 230 ล้านบาท ลดลง 82% เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งสาเหตุหลักเนื่องมาจากในไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีการปรับปรุงนโยบายการตั้งสำรองค่าเผื่อความผันผวน (PAD: Provision for Adverse Deviation) เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย ทางด้านความมั่นคงของฐานะทางการเงิน บริษัทมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio – CAR) ณ ไตรมาส 1 ปี 2563 ที่ระดับร้อยละ 266 โดยมาจากการคำนวณตามหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันชีวิต (RBC II) ซึ่งเป็นการปรับปรุงให้มีความเข้มงวดมากขึ้นกว่าเดิม

         ทั้งนี้ ในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ บริษัทฯ เน้นทำการตลาดในช่องทางจำหน่ายแต่ละช่องทาง โดยเฉพาะในช่องทางตัวแทนจำหน่าย ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯ มีแบบประกันด้านสุขภาพที่ครอบคลุมความต้องการต่างๆ รวมถึงการออกแบบประกันใหม่ที่คุ้มครองด้านโรคร้ายแรง BLA Smart CI แบบประกันโรคร้ายแรงแนวคิดใหม่ที่เปิดตัวพร้อมนวัตกรรมแอปพลิเคชัน BLA Healthy Life ซึ่งจะสะสมคะแนนจากการเดินเป็นส่วนลดเบี้ยประกันของ BLA Smart CI ในปีต่อไป หรือใช้กับสิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ ได้ แบบประกัน BLA Smart CI เป็นแบบประกันที่ช่วยให้คนดูแลสุขภาพและคุ้มครองหากเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงต่างๆ

         นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้มอบความคุ้มครองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) ให้กับลูกค้าผู้เอาประกันของบริษัทฯ ที่ซื้อประกันสุขภาพของบริษัทฯ ไว้ โดยจะมอบความคุ้มครองค่าชดเชยรายวัน 2,000 บาท นานสูงสุด 15 วัน หากเจ็บป่วยด้วยการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 แล้วต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยมีระยะเวลาความคุ้มครองถึง 31 พฤษภาคม 2563 นี้ เพื่อช่วยบรรเทาความกังวลของลูกค้าและช่วยเพิ่มความคุ้มครองให้ครอบคลุมมากขึ้น บริษัทยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ด้านแผนการลงทุนคู่ความคุ้มครองผ่านที่ปรึกษาการเงินของบริษัท เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านการเงินให้ประชาชนทุกกลุ่ม

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่