นายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 ผ่านมาตรการระยะที่ 1 และ 2 ไปแล้ว 860,000 ล้านบาท เป็นการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้ลูกค้าธุรกิจที่เข้าร่วมมาตรการ 360,000 ล้านบาท ซึ่งครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม และจากการเข้าพบลูกค้าผู้ประกอบการประมาณ 100,000 ราย พบว่า 81% ซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค กลับมาชำระหนี้ได้ปกติ ส่วนอีก 18% ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยังคงต้องการมาตรการช่วยเหลือต่อ และส่วนที่เหลือได้ปิดกิจการไปแล้ว
สำหรับลูกค้าที่ยังไม่สามารถกลับมาชำระปกติได้ ธนาคารยังคงให้ความช่วยเหลือต่อเนื่อง โดยเน้นแก้หนี้ให้ตรงจุด ตามความเหมาะสมกับธุรกิจของลูกค้าแต่ละราย ดังนี้
- การบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย เช่น การปรับลดภาระผ่อนชำระต่อเดือน การพักชำระเงินต้น การพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย แล
- การให้เงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง เช่น การปล่อยสินเชื่อใหม่เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Soft Loan พลัส วงเงินสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านบาทรวมทุกสถาบันการเงิน ค้ำประกันสินเชื่อโดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี และพักชำระเงินต้นสูงสุด 2 ปี
อย่างไรก็ตาม การลดภาระหนี้ในปัจจุบัน ดอกเบี้ยในแต่ละเดือนตลอดช่วงการพักหนี้ยังคงเป็นภาระแก่ลูกหนี้ในระยะยาว ดังนั้นลูกหนี้ที่ยังมีรายได้เพียงพอที่จะชำระคืนหนี้ ควรชำระหนี้ตามปกติหลังหมดมาตรการ นอกจากนี้ การปรับตัวในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการทั้งในด้านการหาตลาดใหม่ ๆ และการบริหารต้นทุน ยังคงเป็นเรื่องสำคัญมาก