การเติบโตของประชากรโลกจากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ ปี 2562 พบว่าประชากรที่มีอายุมากกว่า 65 ใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพมากขึ้นถึง 3 เท่า และคาดว่าภายในปี 2593 ประชากรจะมีอายุเกิน 65 หรือ 16% ของประชากรโลก ขณะที่อัตราการเกิดโรคต่าง ๆ เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิต ตลอดจนการพัฒนาการทางด้านการแพทย์ต่าง ๆ ที่รักษาโรคได้หลากหลายมากขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดการใช้จ่ายด้านสุขภาพเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจกลุ่มสุขภาพแบบก้าวกระโดด
ซิตี้แบงก์ ในฐานะสถาบันทางการเงินระดับโลก ผู้ให้บริการด้านบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ในชื่อ “ซิตี้โกลด์” (Citigold) เพื่อตอบสนองความต้องการและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในทุกสถานการณ์เพื่อประสบการณ์การลงทุนที่ดีที่สุด จึงแนะนำ 5 กองทุนที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพให้นักลงทุนได้เลือกกระจายการลงทุน ดังนี้
กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นโกลบอลเฮลธ์แคร์ (SCB Global Health Care Equity Fund) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ กองทุนหลัก Janus Global Life Sciences Fund โดยเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์การดำเนินชีวิต และศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาหรือยกระดับคุณภาพชีวิต เช่น การวิจัยและพัฒนาผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่เกี่ยวข้องสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลตัวเอง การแพทย์หรือเภสัชกรรม รวมไปถึงบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตหลักมาจากผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี การจดสิทธิบัตร โดยพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลังของกองทุนหลัก 3 ปี พบว่าสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 10.51% ต่อปี
กองทุนกรุงศรีโกลบอลเฮลธ์เเคร์อิควิตี้ปันผล (Krungsri Global Healthcare Equity Dividend Fund) กองทุนรวมที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศกองทุนหลัก JPMorgan Funds – Global Healthcare Fundเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมทางด้านสุขภาพทั่วโลกเช่น กลุ่มเภสัชกรรม กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ กลุ่มเทคโนโลยีการแพทย์ และกลุ่มการบริการด้านการแพทย์ โดยจากข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี พบว่ากองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 6.44%
กองทุนกรุงศรีโกลบอลเฮลธ์แคร์อิควิตี้เฮดจ์เอฟเอ็กซ์ (Krungsri Global Healthcare Equity Hedged FX Fund) กองทุนรวมที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม JPMorgan Funds – Global Healthcare Fund, Class C (acc) – USDมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนหมวดอุตสาหกรรมทางด้านสุขภาพทั่วโลกเช่นเดียวกัน ซึ่งข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 9.82%
ทั้งนี้ซิตี้โกลด์เปิดโอกาสให้ลูกค้าลงทุนตรงผ่านกองทุนรวมในต่างประเทศ ในสกุลเงินดอลลาร์อีกด้วย เช่น กองทุน JPM Global Healthcare Fund A (Acc) USD ซึ่งเป็นกองทุนหลักของกองทุนกรุงศรีโดยเป็นกองทุนรวมต่างประเทศที่เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัททั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ อาทิ เภสัชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ บริการด้านสุขภาพ เทคโนโลยีทางการแพทย์ และบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ ซึ่งข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี พบว่าสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 9.55%
กองทุน BGF World Healthscience Fund A2 USD กองทุนรวมต่างประเทศที่เน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทกลุ่มบริษัทที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นในด้านการดูแลสุขภาพ เภสัชกรรม เทคโนโลยีทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ และการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพโดยข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยราว 10%
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต้องติดตามประเด็นสำคัญของสถานการณ์โลก รวมถึงกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนท่ามกลางสภาวะตลาดผันผวน โดยซิตี้โกลด์ยังนำเสนอการบริการความมั่งคั่งในการกระจายการลงทุนได้ทั่วโลกกว่า 250 กองทุน จากพาร์ทเนอร์ทางการเงินที่หลากหลายกับ 5 บลจ.ในประเทศและ 12 บลจ.ต่างประเทศ โดยมีความหลากหลายของกองทุนทั้งประเภทของสินทรัพย์ และภูมิภาคของการลงทุน ควบคู่ไปกับการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าซิตี้โกลด์ เช่น บริการผู้ดูแลบัญชีและอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมต่าง ๆ การลงทุนให้ลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์ บริการซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน โดยลูกค้าซิตี้โกลด์สามารถซื้อ-ขายกองทุนได้ด้วยตัวเอง การตรวจสอบความเคลื่อนไหวของพอร์ทการลงทุน การโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ไปยังบัญชีต่างประเทศ เปิดบัญชีสกุลเงินต่างประเทศได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง ฯลฯ เป็นต้น
สำหรับลูกค้าซิตี้โกลด์ที่ซื้อและขายกองทุนผ่านซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน รับเครดิตเงินคืนค่าธรรมเนียมการซื้อ 10% หรือสูงสุด 150,000 บาท เมื่อมียอดซื้อกองทุนรวมที่ร่วมรายการขั้นต่ำรวม 100,000 บาท หรือรับเครดิตเงินคืนเพิ่มสูงสุดอีก 150,000 บาท เมื่อลงทุนด้วยเงินลงทุนใหม่ในกองทุนที่ร่วมรายการ สำหรับลูกค้าใหม่รับเครดิตเงินคืนสูงสด 15,800 บาท เมื่อเปิดบัญชีใหม่และมีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตซิตี้ ตั้งแต่ 1 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และไม่ขายให้บุคคลอเมริกัน
เกี่ยวกับ “ซิตี้”
เป็นธนาคารชั้นนำระดับโลก ให้บริการลูกค้ากว่า 200 ล้านราย ใน 160 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายให้กับลูกค้าบุคคล องค์กร ภาครัฐและสถาบันต่างๆ โดยธุรกิจหลักครอบคลุมการธนาคารและสินเชื่อเพื่อลูกค้าบุคคล (สายบุคคลธนกิจ) ธนาคารเพื่อองค์กรและการลงทุน (สายสถาบันธนกิจและวาณิชธนกิจ) ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริการธุรกรรมทางการเงินต่างๆ รวมถึงบริการบริหารความมั่งคั่ง