ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จับมือ AWS เตรียมระบบรองรับการใช้งานของลูกค้าบน platform ระบบ cloud

0
906

           บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) ประกาศเป็นบริษัทประกันภัยไทยหนึ่งเดียวนำ Technology มาพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการสร้างนวัตกรรม InsureTech สู่ตลาดอย่างแท้จริง ล่าสุดจับมือ อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS) สร้างการบริการ Digital ใช้ระบบคลาวด์ มีความเสถียร 99.99% ให้ผู้บริโภคสะดวกในการใช้ชีวิตผ่านบริการแบบ Personalized และ ครบวงจร พร้อมเตรียมใช้ Technologies IoT “Internet of Things” และ Big Data ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่จริง

            นาย เทพพันธ์ อัศวะธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดตัว Marketing Campaign ในคอนเซ็ปต์ “Control Your Life: อิสระการใช้ชีวิตที่เลือกได้” ผ่าน 2 ผลิตภัณฑ์ชูโรง คือ ประกันรถเปิดปิด และการประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์ Active Health เป็นผลิตภัณฑ์ที่มอบทางเลือกกับผู้บริโภคจ่ายค่าเบี้ยตามความเสี่ยงจริง ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ถึง 40% และเป็นการแสดงผลให้ผู้บริโภค แบบ Real-Time คือสามารถดู update ได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ นอกจากนี้ยังได้มีผลิตภัณฑ์ใหม่ คือประกันเดินทางเปิดปิด ที่ให้ความคุ้มครองตามระยะเวลาในการเดินทาง และคุ้มครองในส่วนของประเภทกีฬาเสี่ยงภัย รวมทั้งค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นในระหว่างการเดินทางด้วย

           นอกจากผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เรียกได้ว่าผลิกโฉมวงการประกันภัยแล้ว การบริการและ Features ต่างๆของไทยวิวัฒน์ก็ถือได้ว่ามีความล้ำไม่แพ้กัน service ใหม่ที่ออกมาให้ผู้บริโภคมีทั้งผ่านทาง Website, Application และ Line Chatbot ซึ่งเป็นการทำงานแบบ ครบวงจร (Straight through & End-to-End) และ สร้างความสะดวกและตอบสนองลูกค้าอย่างรวดเร็วและถูกต้อง

          “ผลิตภัณฑ์ของไทยวิวัฒน์ที่รู้จักกันคือ ประกันรถเปิดปิด ประกันภัยเดียวที่กล้าให้ผู้ใช้รถ จ่ายค่าเบี้ยตามนาทีที่ขับจริง ใช้บริการได้อย่าง On-Demand เปิด-ปิดประกันได้ตามการใช้รถจริง ไม่ขับก็ไม่ต้องจ่ายค่าประกัน ทำให้ประหยัดกว่าประกันรถทั่วไปถึง 40% และยังได้รับความคุ้มครองครบถ้วนเหมือนประกันรายปีทั่วไป เพราะถึงไม่ได้ใช้รถแต่ก็ยังได้รับความคุ้มครองอื่นๆตลอด 24 ชม ตามประเภทประกันที่ผู้บริโภคเลือกใช้ ถือได้ว่าเป็นบริษัทประกันภัยแรกของประเทศไทย และประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์ Active Health ที่เป็นรูปแบบการประกันสุขภาพที่มอบส่วนลดค่าเบี้ยประกันทุกเดือน “ยิ่งออกกำลังกาย เบี้ยยิ่งลดทุกเดือน สูงสุดถึง 40%” โดยลูกค้าจะได้รับอุปกรณ์ Smartwatch ระดับท็อบอย่าง Fitbit Versa และ Garmin Forerunner ในทันทีที่ทำประกันภัย” นายเทพพันธ์ุกล่าว

             นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่นำเทคโนโลยี Internet of Things หรือ IoT มาใช้เป็นตัวช่วยในการเปิดปิดประกันรถแบบอัตโนมัติ หากเมื่อสตาร์ท หรือ ดับเครื่องยนต์ ประกัน ก็จะเปิด หรือ ปิดให้โดยทันที และสามารถเช็ค สถานะการใช้งานและระยะเวลาที่เหลืออยู่ ใน Application Thaivivat บน Smart Phone ได้ทันทีเช่นกัน ถือเป็น features ที่สะดวกและถูกใจผู้บริโภคอย่างมาก ผู้เอาประกันสามารถเพิ่มระยะเวลาความคุ้มครองได้ผ่านทาง Application ได้ตลอดเวลา และยังมีฟังก์ชั่นต่างๆอีกมากมายที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้รถ เช่นการแจ้งเหตุและการค้นหาอู่ซ่อมหรือโรงพยาบาล ผ่านทาง Application เป็นต้น

           ดร.เฉลิมพล สายประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนวัตกรรม ประกันภัยไทยวิวัฒน์ กล่าวว่า ล่าสุดเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจในการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ทางบริษัทได้มีการทดสอบระบบการรับและถ่ายโอนข้อมูลพร้อมทั้งประมวลผลแบบ real time บน platform ระบบ cloud ของทาง AWS ซึ่งจากการทดสอบระบบสามารถรองรับการรีเควสของลูกค้าในกรณีของการประกันรถแบบเปิดปิดได้ถึง 10,000 รีเควสต่อวินาที (concurrent users) ซึ่งผลการทดสอบนี้ทำให้บริษัทยืนยันได้ว่าลูกค้าผู้เอาประกันภัยรถยนต์แบบเปิดปิดจะได้รับการบริการอย่างต่อเนื่องรวดเร็วตลอดระยะเวลาทำประกันภัยกับทางบริษัท

              ผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ได้รับความสนใจในช่วงนี้อย่างมากและสร้างความแตกต่างให้กับตลาดประกันสุขภาพ คือ การประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์ Active Health เป็นรูปแบบการประกันที่ริเริ่มนำ Wearable Technology ผสานกับการทำงานแบบ Data Driven สร้างแรงบัลดาลใจ ให้ลูกค้ามีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืนผ่านกลไกนวัตกรรมประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์ Active Health นี้ พร้อมทั้งยังมี Features ต่างๆใน Applications ที่ช่วยให้ลูกค้าหันมาอยากออกกำลังกายเช่น การเปรียบเทียบคะแนนความ Active กับเพื่อนๆ หรือ จะเป็น promotion กับ Boutique gyms ต่างๆที่สมาชิกลูกค้า ประกันสุขภาพไทยวิวัฒน์ Active Health สามารถเข้าร่วมได้ พร้อมทั้ง Tips & Tricks ของการดูแลสุขภาพทั้งเรื่องอาหารและการออกกำกังกายอย่างถูกต้อง

           นอกจากผลิตภัณฑ์นวัตกรรมประกันภัยที่ผสานความคิดสร้างสรรค์ใหม่กับเทคโนโลยีแล้ว การบริการลูกค้านั้นถือเป็นส่วนสำคัญมากยิ่งกว่า โดยประกันภัยไทยวิวัฒน์ ได้พัฒนากระบวนการดูแลลูกค้าอย่างครบวงจร ตั้งแต่การศึกษาข้อมูล ตั้งแต่ขั้นตอนการทำการซื้อกรมธรรม์ประกันภัย การใช้งานบริการต่างๆหลังการขาย รวมไปถึงการต่ออายุกรมธรรม์ เพื่อให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดี และตอบสนองความต้องการความสะดวกในการใช้ชีวิตของลูกค้าที่มีความเป็นอิสระในการเลือกให้มากที่สุด

           ปัจจุบัน ไทยวิวัฒน์ ได้พัฒนาให้ลูกค้าสามารถดำเนินการด้วยตัวเองมากยิ่งขึ้นผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งได้มีการใช้ Server ของ AWS เพื่อรองรับ Online Activity ต่างๆ ของลูกค้าได้จำนวนมากอย่างปลอดภัยและรวดเร็ว ทั้งการซื้อประกันผ่านระบบออนไลน์ และการต่ออายุประกันผ่านทาง Application รวมถึงการพัฒนา ระบบ LINE Chatbot ผ่าน LINE เพื่อเป็นช่องทางในการให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์และการบริการได้อย่างสะดวกและรวดเร็วอีกด้วย

        สำหรับ 5 การให้บริการหลักของ LINE Chatbot ได้แก่ 1) ถาม-ตอบ เกี่ยวกับเบี้ยประกันการประกันภัยรถยนต์ และดำเนินการซื้อการประกันภัยรถยนต์ได้เลยผ่าน Line Chatbot 2) ตรวจสอบเบี้ยประกันภัยพร้อมดำเนินการซื้อการประกันอุบัติเหตุการเดินทาง ได้เลยผ่าน Line 3) เช็คโปรโมชัน ต่างๆของทางบริษัท ผ่าน Line 4) ลูกค้าประกันรถยนต์ สามารถรับบริการและส่งข้มูลด้านต่างๆให้กับทางบริษัทผ่าน Line อาทิ การส่งภาพ การแจ้งเหตุ แจ้งเคลม แจ้งซ่อม แจ้งโลเคชัน ในแบบอัตโนมัติ 5) การบริการการค้นหาโรงพยาบาล อู่ซ่อมรถที่ใกล้เคียงจุดที่อยู่ ทั้งกรุงเทพ ต่างจังหวัด ซึ่งทางบริษัทได้เปิดให้บริการ ผ่านทาง Line Chatbot แล้วในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา

           ทั้งนี้การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจกับแบรนด์ ผ่านระบบการบริการที่มีความเสถียรและรวดเร็ว บนแพลตฟอร์มของ AWS ถือเป็นเป็นเป้าหมายของไทยวิวัฒน์เพื่อตอบโจทย์ความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญประกันภัยไทยวิวัฒน์ยังมีแผนในการทำงานร่วมกับ AWS ในเรื่องของ Big Data ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อการพัฒนานวัตกรรมรูปแบบการประกันภัยและการบริการเพื่อสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้าที่ต้องการความอิสระให้การเลือกใช้ ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

          “ด้วยชื่อเสียงของการเป็นผู้ให้บริการ cloud ระดับโลก ทำให้เราเชื่อมั่นในการเลือกพัฒนานวัตกรรมการบริการรูปแบบใหม่ๆ ของเราบน platlform ของ AWS โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความน่าเชื่อถือ (reliability) รวมทั้งการรับประกันการทำงานถึง 99.99 เปอร์เซนต์ ทำให้เราเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถทำงานและให้บริการลูกค้าได้โดยไม่มีการหยุดชะงัก (downtime) โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มลูกค้าด้านการประกันรถยนต์ที่ต้องมีการให้บริการในแบบเรียล-ไทม์” ดร. เฉลิมพล กล่าว

           ทั้งนี้ เป้าหมายของประกันภัยไทยวิวัฒน์คือการนำเสนอ Innovative Solutions ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้ง ตอบโจทย์ Lifestyle ของลูกค้าโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่พร้อมที่จะเลือกหาสิ่งที่เหมาะที่สุดกับการดำเนินชีวิต และสามารถกำหนดและควบคุมการใช้บริการได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ตามที่ตั้งใจไว้ อย่างมีอิสระ เพราะผู้บริโภครู้ว่ามีประกันภัยไทยวิวัฒน์อยู่ในมือที่ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ตามต้องการเพียงปลายนิ้ว

          ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “AWS ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประกันภัยไทยวิวิวัฒน์ให้ความเชื่อถือและเชื่อมั่นในบริการของเรา และให้เราเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปฏิรูปธุรกิจไปสู่ดิจิทัล ที่สำคัญ วิสัยทัศน์ของประกันภัยไทยวิวัฒน์สอดคล้องกับแนวทางของ AWS ที่มุ่งตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของลูกค้าแต่ละราย (individualization) ให้ดีที่สุด และสมบูรณ์ที่สุดด้วยดิจิทัลแพลตฟอร์มที่ได้รับการออกแบบมาให้สามารถเข้าถึงง่าย ใช้งานสะดวก มีความยืดหยุ่นตามความต้องการและลักษณะการใช้งานของลูกค้า ซึ่งมาพร้อมกับความปลอดภัย (security) ความเชื่อถือได้ของระบบ (reliability) และความมีเสถียรภาพสูงสุด”

           ทั้งนี้ บริการที่ประกันภัยไทยวิวิวัฒน์เลือกใช้ประกอบด้วยกัน อาทิ Amazon Elastic Compute Cloud (Amazon EC2) บริการเว็บที่ให้ความสามารถด้านการประมวลผลที่ปลอดภัยและปรับขนาดได้บนระบบคลาวด์ AWS Lambda ซึ่งเป็นบริการประมวลผลและจัดการทรัพยากรการประมวลผลพื้นฐานโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ยังมี AWS CloudWatch ที่ช่วยให้สามารถมอนิเตอร์แอปพลิเคชันได้ในระดับ 1 วินาที AWS Elastic Beanstalk AWS API Gateway และอื่นๆ เป็นต้น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่