แกร็บ ชูกลยุทธ์ S.M.A.R.T ยกระดับมาตรฐานทุกธุรกิจ ตอบโจทย์ทุกเจน

0
83

แกร็บ ประเทศไทย ตอกย้ำผู้นำธุรกิจแอปเรียกรถและแอปสั่งอาหาร รุกตลาดปี 2568 ด้วยวิสัยทัศน์ “Lead with Purpose” ผ่าน 5 กลยุทธ์ “S.M.A.R.T” สร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (Sustainability) ขยายบริการให้เข้าถึงคนทุกเจเนอเรชัน รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Market Expansion) นำเสนอทางเลือกบริการในราคาที่เข้าถึงได้ (Affordability) รักษาฐานลูกค้าและมัดใจคนขับ-พาร์ทเนอร์ร้านค้า (Retention) พัฒนาเทคโนโลยี  และบริการใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคน (Tech & Innovation) 

นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี ปี 2567 ว่า ยังเป็นแบรนด์อันดับ 1 ที่ผู้ใช้เชื่อมั่นในบริการเรียกรถและเดลิเวอรี  และเติบโตต่อเนื่องในทุกธุรกิจ โดยความสำเร็จหลักๆคือ

การส่งเสริมการท่องเที่ยว  เปิดให้บริการจุดรับ-ส่งในสนามบินหลัก 4 แห่ง คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต และเชียงใหม่, แคมเปญโปรโมตการท่องเที่ยวร่วมกับ ททท. ตลอดปี ควบคู่ไปกับการขยายบริการเรียกรถไปพื้นที่ใหม่ๆ, ร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชนจัดตั้งภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (Tourism Taskforce) ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในภูมิภาค  ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมา ยอดใช้บริการเรียกรถในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเติบโตขึ้นถึง 138% 

การพัฒนาเทคโนโลยีและนำเสนอนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคและแก้ปัญหา (pain point) ในชีวิตประจำวัน เช่น การอัปเกรดฟีเจอร์ Group Order  ซึ่งยอดสั่งอาหารเติบโตขึ้น 2 เท่า  การปรับโฉมฟีเจอร์ Advance Booking หรือบริการจองล่วงหน้า ซึ่งยอดใช้บริการพุ่งขึ้น 60% ในช่วงเทศกาล  บริการ Dine Out Deals หรือการขายดีลพิเศษสำหรับการรับประทานที่ร้าน ยอดใช้บริการเพิ่มขึ้น 11 เท่า  บริการ GrabCar SAVER และ GrabBike SAVER ยอดใช้บริการเติบโตกว่า 4 เท่า  การเพิ่มตัวเลือก Delivery SAVER ในบริการสั่งอาหาร มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 3 เท่า และ
ซับแบรนด์ Hot Deals นำเสนอดีลลดแรงจากร้านอาหารดังทั่วประเทศ ช่วยให้ผู้ใช้บริการประหยัดเงินรวมกว่า 2 พันล้านบาท

ขยายธุรกิจในกลุ่มลูกค้าองค์กร (B2B) โดยเฉพาะบริการ GrabAds ที่ปรับรูปแบบจากการขายโฆษณาเป็นการนำเสนอโซลูชันการตลาดแบบสร้างสรรค์ ช่วยให้ลูกค้าและพันธมิตรสร้างแบรนด์และยอดขายจากออนไลน์ไปสู่ออฟไลน์ รวมถึงบริการ Grab For Business ที่ขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ จนมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น 80% 

สำหรับกลยุทธ์ปี 2568 ขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้ วิสัยทัศน์ “Lead with Purpose” ตอกย้ำบทบาทของแกร็บ ในฐานะผู้นำซูเปอร์แอปเพื่อยกระดับมาตรฐานของธุรกิจการเดินทางและเดลิเวอรี ควบคู่ไปกับการสานต่อพันธกิจ GrabForGood ที่มุ่งใช้เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวก พร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ภายใต้กลยุทธ์ “S.M.A.R.T” ดังนี้ 

S: Sustainability สร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม 

โดยสานต่อ “โครงการ Grab EV” ส่งเสริมให้คนขับใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบันมียอดการใช้รถ EV แล้วกว่า 10,000 คัน ควบคู่ไปกับ “โครงการชดเชยคาร์บอน” ที่ให้ผู้ใช้บริการร่วมบริจาคเงินผ่านฟีเจอร์ Carbon Offset เพื่อนำไปซื้อคาร์บอนเครดิตและทำกิจกรรมปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว นอกจากนี้ ยังเริ่มกิจกรรมใหม่ๆ  “โครงการ Grab Go Green อิ่มคุ้มช่วยโลกกับ GrabFood” ที่ส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการสั่งอาหารในราคาพิเศษในช่วงก่อนปิดร้านเพื่อช่วยลดขยะอาหารจากร้านค้า เป็นต้น  

  • สร้างโอกาสให้กับกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ผ่าน “โครงการ GrabSpark” เปิดเวทีให้นักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยได้แสดงศักยภาพผ่านการประกวดแผนธุรกิจ พร้อมฝึกงานกับแกร็บ รวมถึง “โครงการ GrabScholar” กับการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนนักศึกษาที่มีศักยภาพ ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ 

M: Market Expansion ขยายบริการให้เข้าถึงคนทุกเจเนอเรชัน 

  • เปิดตัว 4 หนุ่มสุดฮอต เจมีไนน์-โฟร์ท และ สกาย-นานิ ในฐานะ “Friends of Grab” เพื่อดึงดูดกลุ่ม Gen Z และ Millennials เสริมทัพ เบลล่า-ราณี แบรนด์แอมบาสเดอร์ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่ง 
  • ผลักดันการใช้ฟีเจอร์บัญชีครอบครัว (Family Account) เพื่อขยายการให้บริการไปยังกลุ่ม Baby Boomer และ Gen Alpha ผ่านผู้ใช้บริการหลัก (Core User) ที่ต้องการเรียกรถให้กับสมาชิกในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มคนอาวุโส (พ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่) และกลุ่มเด็กเล็ก (ลูก-หลาน) 
  • สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังคงเดินหน้าสนับสนุนการท่องเที่ยวไทยโดยเฉพาะนโยบาย  
    “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” ผ่านการสนับสนุนและเข้าร่วม 
    อีเวนท์สำคัญ และเทศกาลเชิงวัฒนธรรมต่างๆ ที่จะจัดขึ้นตลอดทั้งปี อาทิ งาน S2O Songkran Music Festival งาน Siam Songkran Music Festival และ Maha Songkran World Water Festival 2025  
    เป็นต้น  

 A: Affordability นำเสนอทางเลือกของบริการในราคาที่เข้าถึงได้  

  • เตรียมต่อยอดความคุ้มค่าสำหรับบริการเรียกรถด้วยการขยายบริการ GrabCar SAVER และ GrabBike SAVER ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จากเดิมที่ทดลองให้บริการเฉพาะหัวเมืองหลัก  
  • บริการฟู้ดเดลิเวอรี ชูไฮไลท์ซับแบรนด์ “Hot Deals” ดีลลดแรงจากร้านดังทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มจำนวนร้านที่เข้าร่วมโปรแกรม ควบคู่ไปกับการนำเสนอโปรโมชันตามช่วงเทศกาลหรือโอกาสพิเศษต่างๆ  รวมถึงชูแคมเปญใหญ่ “GrabFood Mega Sale” ที่มอบส่วนลดจัดหนักสูงสุดถึง 80% พร้อมส่งฟรีให้กับผู้ใช้บริการทั่วประเทศ   

R: Retention รักษาฐานลูกค้าและมัดใจคนขับ-พาร์ทเนอร์ร้านค้า  

  • GrabUnlimited สิทธิประโยชน์และส่วนลดที่คุ้มค่า ครอบคลุมทุกบริการ ด้วยแพ็คเกจสมาชิกรายเดือนเพียง 19 บาทต่อเดือน หรือรายปีเพียง 99 บาทต่อปี  และในปีนี้ได้พัฒนา GrabVIP หรือโปรแกรมสิทธิพิเศษเหนือระดับสำหรับผู้ใช้บริการที่มี ยอดใช้จ่ายสูงกว่า 30,000 บาท ใน 3 เดือน อาทิ รับสิทธิ์ส่งอาหารไว (Priority Delivery) 5 ครั้งต่อเดือน  และความช่วยเหลือพิเศษก่อนใคร (Priority Support) จากศูนย์ช่วยเหลือแกร็บ  
  • สำหรับคนขับ จัดเต็มสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ ฟรีประกันรถจักรยานยนต์ ลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับบริการสินเชื่อเงินสด สำหรับคนขับ GrabBike และฟรีประกันสุขภาพสำหรับคนในครอบครัว สำหรับคนขับ GrabCar พร้อมจัดกิจกรรมเซอร์ไพรส์แจกรถยนต์-รถจักรยานยนต์ในช่วงเทศกาลสำคัญ เป็นต้น  
  • สำหรับกลุ่มพาร์ทเนอร์ร้านค้า เดินหน้าพัฒนาบริการสินเชื่อเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องและเป็นทุน 
    ในการขยายธุรกิจให้กับกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร   พร้อมพัฒนาประกันค้าขายหายห่วง เพื่อให้ 
    ความคุ้มครองผู้ประกอบการธุรกิจจากเหตุไม่คาดฝันด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 5 ล้านบาท  

 T: Tech & Innovation พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คน 

  • เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ตั้งแต่ต้นปี อาทิ Advance Booking for Airport Pickups บริการจองรถล่วงหน้าเพื่อให้มารับที่สนามบิน โดยสามารถระบุไฟลท์และเวลาเดินทางเพื่อเป็นข้อมูลให้กับคนขับได้  โดยทดลองให้บริการแล้วที่สนามบินภูเก็ต,  GrabExecutive บริการเรียกรถล่วงหน้าระดับพรีเมียม เจาะกลุ่มนักธุรกิจและลูกค้าไฮเอนด์และนักท่องเที่ยว, Book Table บริการจองร้านอาหาร ผสานความร่วมมือและเชื่อมต่อกับระบบของ Chope ซึ่งมีจุดแข็งด้านระบบการจองร้านอาหาร,พัฒนา QR Payment เพิ่มทางเลือกการชำระเงินให้กับผู้ใช้บริการ และแก้ปัญหาให้คนขับที่อาจมีเงินสดสำรองไม่เพียงพอ 

“เกือบ 12 ปี แกร็บสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้สังคมไทย สะท้อนผ่านผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ที่ระบุว่ากิจกรรมทางธุรกิจต่างๆที่เกิดขึ้นในวงจรของ Grab ในปี 2566 สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยถึง 1.79 แสนล้านบาท คิดเป็น 1% ของ GDP  ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจและเป็นแรงผลักดันให้แกร็บเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมีเป้าหมาย ช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย” นางสาวจันต์สุดา กล่าวสรุป