กบข.ปลื้มผลตอบแทนสมาชิก 4.12% เกินเป้า ลุยปรับกลยุทธ์ลงทุน สู้ศึกความผันผวนปี 68

0
9

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข.ติดตามสถานการณ์การลงทุนทั้งในและต่างประเทศพร้อมปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก อาทิ การเติบโตของหุ้นเทคโนโลยีจากกระแส AI First ราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นจากแรงซื้อของธนาคารต่างๆ และแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯที่ปรับลดลง  โดย กบข. ได้ปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด กระจายการลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท เช่น หุ้นประเทศพัฒนาแล้ว หุ้นตลาดเกิดใหม่ ตราสารหนี้ และทองคำ

ณ สิ้นปี 2567 กบข. มีขนาดกองทุนใหญ่ขึ้น 1.06 แสนล้านบาท รวมมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (รวมเงินสำรอง) ที่ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท  สร้างผลตอบแทนให้สมาชิกในอัตรา 4.12% เกินเป้าหมายที่จะชนะอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี +2% (เงินเฟ้อเฉลี่ย 10 ปี 0.9%) เป็นผลตอบแทนจากแผนหลัก 3.73% จากแผนสมดุลตามอายุ 8.93%  และแผนทองคำ 24.67%

โดย กบข. ได้ศึกษาความเพียงพอ ณ เกษียณของสมาชิก พบว่า 82% จากสมาชิก 1.2 ล้านราย มีโอกาสที่จะไม่บรรลุเป้าหมายความเพียงพอ ณ เกษียณในระดับดี ปัจจัยหลักมาจากอายุขัยเฉลี่ยที่ยืนยาวขึ้นถึง 80 ปี หนี้สินเฉลี่ยของสมาชิกวัยใกล้เกษียณ (55-60 ปี) สูงถึง 1.95 ล้านบาทต่อคน และค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2% ต่อปี

ดังนั้น จึงวางแผนงานเดินหน้าส่งเสริมทักษะทางการเงินร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร และจัดกิจกรรมทั่วประเทศ เพื่อสื่อสารกระตุ้นให้สมาชิกออมเพิ่ม และเปลี่ยนแผนการลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ หรือเลือกเปลี่ยนแผนการลงทุนมาอยู่ในแผนสมดุลตามอายุ เพื่อเพิ่มโอกาสให้สมาชิกสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงิน มีคุณภาพชีวิตที่มั่นคงหลังเกษียณ และเกษียณอย่างมีสุข

สำหรับปี 2568 ประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวที่ 2.10%  โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) อาจปรับลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง  ขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะขยายตัว 2.4-2.8%   กบข. จึงมีมุมมองเชิงบวกต่อสินทรัพย์กลุ่มเติบโต (Growth Assets) โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนในหุ้นตลาดพัฒนาแล้ว พร้อมกระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้เพื่อลดความผันผวน

ขณะเดียวกันทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ แต่ต้องลงทุนอย่างระมัดระวัง และยังคงติดตามปัจจัยเสี่ยง จากนโยบายการคลังและภาวะเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด พร้อมปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่สมาชิก

“แม้ปีที่ผ่านมาจะมีความผันผวนสูง และคาดว่าปีนี้จะผันผวนมากกว่า กบข.ก็ยังให้ความสนใจและให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดที่มีการเติบโตสูงทั้ง Develop market และ Emerging Market  โดยลงทุนด้วยความระมัดระวังและเน้นการ Selecion มากขึ้น โดยพิจารณาจาก 4 ปัจจัยหลัก คือ สินทรัพย์ที่จะลงทุน ประเทศที่จะลงทุน ความเสี่ยงของสินทรัพย์ที่จะลงทุน และ อัตราแลกเปลี่ยนของสินทรัพย์ที่จะลงทุน” นายทรงพล กล่าวสรุป