นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า เพื่อให้สมาชิกเลือกแผนที่สอดคล้องกับความต้องการ และเป้าหมายทางการเงินของตนเองได้ ล่าสุดได้เปิดตัว แผนการลงทุนตามหลักชะรีอะฮ์ รองรับสมาชิกที่ต้องการลงทุนตามหลักศาสนาอิสลาม โดยมี ดร.อรวิทย์ บุญชม ที่ปรึกษาจากสำนักจุฬาราชมนตรี อาจารย์ประจำคณะวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานคริทนทร์ เป็นที่ปรึกษาแผนการลงทุน
โดยแผนการลงทุนตามหลักชะรีอะฮ์ ออกแบบให้สอดคล้องกับหลักชะรีอะฮ์อย่างเคร่งครัด พร้อมมุ่งสร้างผลตอบแทนระยะยาวอย่างยั่งยืน มีการลงทุนในตราสารทุนและหน่วยลงทุนที่เป็นไปตามหลักชะรีอะฮ์ ไม่เกิน 60% เช่น หุ้นชารีอะฮ์ และส่วนที่เหลือไม่น้อยกว่า 40% ลงทุนในตราสารหนี้หรือสินทรัพย์ที่ได้รับอนุญาต เช่น ตราสารศุกูก มีการบริหารสภาพคล่องด้วยเงินฝากระยะสั้นตามความเหมาะสม แผนนี้เหมาะสำหรับสมาชิกที่ต้องการลงทุนตามหลักศาสนาอิสลาม หรือสมาชิกที่เข้าใจความเสี่ยง และพร้อมรับความผันผวนในระยะสั้น เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
ทั้งนี้ กบข. ได้เปิดให้สมาชิกแจ้งความประสงค์เลือกแผนลงทุนตามหลักชะรีอะฮ์ล่วงหน้า ระหว่างวันที่ 1-4 ธันวาคม 2568 มีสมาชิกแจ้งความประสงค์จำนวน 1,700 ราย มูลค่าการลงทุนโดยประมาณ 508 ล้านบาท
“กบข. มุ่งมั่นสร้างทางเลือกการลงทุนที่หลากหลายและเป็นธรรม เพื่อให้สมาชิกสามารถเลือกแผนที่สอดคล้องกับความเชื่อและเป้าหมายทางการเงินของตนเอง แผนชะรีอะฮ์ไม่เพียงตอบโจทย์ด้านศาสนา แต่ยังคงยึดหลักธรรมาภิบาล โปร่งใส และมีมาตรการควบคุมความผันผวน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่สมาชิกทุกคน” นายทรงพล กล่าว
สมาชิกที่สนใจสามารถเลือกแผนการลงทุนตามหลักชะรีอะฮ์ได้แล้ว ผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ My GPF Application , LINE กบข. และ My GPF Website
เกี่ยวกับ กบข. จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ. กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. 2539 เพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำเหน็จบำนาญ และให้ประโยชน์ตอบแทนการรับราชการแก่ข้าราชการเมื่อออกจากราชการ ส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก และจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์อื่นให้แก่สมาชิก กบข. มีสถานะเป็นองค์กรของรัฐจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะไม่มีสถานะเป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ มีคณะกรรมการ กบข. เป็นผู้กำหนดนโยบาย ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 1.27 ล้านคน มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิประมาณ 1.48 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ 30 พ.ย. 2568)
