กรุงศรี คอนซูมเมอร์ พอใจผลประกอบการปี 2564 ผลจากการบริหารค่าใช้จ่าย ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการรักษาคุณภาพสินเชื่อและช่วยเหลือลูกค้า ประกาศกลยุทธ์ปี 2565 ก้าวสู่โลกการเงินยุคใหม่ ใช้ระบบดิจิทัลและข้อมูลทำธุรกิจอนาคต จ้บมือบริษัทในเครือและพันธมิตรสร้างความเติบโตและสู่ภูมิภาคอาเซียน พัฒนาศักยภาพองค์กร พร้อมยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการ ตั้งเป้าปี 2565 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 312,300 ล้านบาท
นางสาวณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ประกอบด้วย บัตรเครดิตกรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส กล่าวถึงผลประกอบการในปี 2564 ว่าเติบโตน่าพอใจ แม้ต้องเผชิญสถานการณ์โควิด-19 ที่ยืดเยื้อ โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 285,000ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 76,500ล้านบาท ยอดสินเชื่อคงค้าง 139,900ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการบริหารค่าใช้จ่าย การใช้เทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การดูแลคุณภาพสินทรัพย์ด้วยการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม และช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 1.1% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.8% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจ
โดยหมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุดเรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่ 1)ประกันภัย 2)ช้อปปิ้งออนไลน์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ 3)ไฮเปอร์มาร์ทและซูเปอร์มาร์เก็ต 4)ตกแต่งบ้านและเครื่องใช้ในครัวเรือน 5)ปั๊มน้ำมัน
ส่วนหมวดใช้จ่ายที่มีอัตราเติบโตมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1)ช้อปปิ้งออนไลน์และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (+55%) 2)ไอทีและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ (+12%) 3)ปั๊มน้ำมัน (+11%) 4) ประกันภัย (+9%) 5) ตกแต่งบ้านและของใช้ในครัวเรือน (+8%)
“ จะเห็นได้ว่ายอดการช้อปปิ้งผ่านออนไลน์แพลตฟอร์มยังคงเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเพิ่มสูงขึ้นถึง 55% เทียบกับปี 2563 ขณะที่ยอดใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้ายังคงทรงตัว แต่ยอดใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ของหมวดห้างสรรพสินค้าเติบโตถึง 62% แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการปรับตัวของทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการ ที่ให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์มากขึ้น มีการปรับรูปแบบเป็นการขายของแบบออมนิแชนเนล คือ ทั้งออนไลน์และหน้าร้าน”
สำหรับปี 2565 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเริ่มชะลอลง จากการระบาดของไวรัสโอมิครอน และสภาวะเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ยังมีปัจจัยหนุนจากมาตรการพยุงกำลังซื้อประชาชน และกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น ภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อในปีนี้ การแข่งขันจะสูงขึ้น และจะเห็นความร่วมมือระหว่างสถาบันการเงินกับธุรกิจต่างๆ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์การเงินใหม่ๆ มากขึ้น โดยผู้ประกอบการจะนำระบบดิจิทัลและข้อมูล มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตในรูปแบบดิจิทัล หรือการขอสินเชื่อแบบดิจิทัล เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปิดรับเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น
นางสาวณญาณี กล่าวถึงการปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ เพื่อพัฒนาศักยภาพองค์กรให้พร้อมก้าวสู่โลกการเงินยุคใหม่ โดยวาง 3 กลยุทธ์หลัก ดังนี้
1. การใช้ระบบดิจิทัลและข้อมูลในการทำธุรกิจสำหรับอนาคต โดยสร้างระบบนิเวศน์ดิจิทัล ผ่านการขยายแพลตฟอร์มข้อมูล และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินและบริการใหม่ๆ เช่น
-บัตรเครดิตดิจิทัลใหม่ๆ ที่มีจุดเด่นหลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ซึ่งจะทยอยเปิดตัวภายในปีนี้
-บริการใหม่ ๆ เช่น การปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล โดยกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ได้ใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจจากธนาคารแห่งประเทศไทย และคาดว่าจะเริ่มให้บริการในครึ่งปีหลังของปี 2565
-การอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ด้วยพัฒนาบริการใหม่ เช่น การขยายจุดรับบริการยืนยันตัวตนในการสมัครบัตรในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์, การพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ในแอป UCHOOSE เช่น บริการสมัครบัตรใหม่ผ่านแอป, บริการ UCASH บริการเบิกเงินสดจากวงเงินบัตรผ่านแอปโดยโอนเข้าบัญชีธนาคาร, บริการผ่อนก่อนจ่ายทีหลัง ( BNPL-Buy Now Pay Later)ซึ่งสามารถขอทำรายการผ่อนชำระสินค้าด้วยตนเอง, รวมถึง การนำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้ในการทำการตลาดเฉพาะบุคคล เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และโปรโมชันที่ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น
2. การสร้างความเติบโตโดยผสานความร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรี และพันธมิตรชั้นนำทางธุรกิจ รวมทั้งการขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยสู่ภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะการทำงานแบบ Krungsri One Retail ซึ่งผสานความร่วมมือระหว่างกลุ่มธุรกิจในเครือกรุงศรี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ข้อมูล ผลิตภัณฑ์ และช่องทางการขาย โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้น ควบคู่กับการร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ และโปรโมชันที่ดียิ่งขึ้น พร้อมการปรับโมเดลธุรกิจเพื่อแสวงหาแหล่งรายได้ใหม่ๆ เช่น นำเสนอบริการ “Call Center as a Service”, “Collection as a Service” เพื่อให้บริการกับพันธมิตร รวมทั้งขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยสู่ภูมิภาคอาเซียน เช่น ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยผสานความร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรี ในภูมิภาค
3. การพัฒนาศักยภาพองค์กร โดยเฉพาะการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ก้าวทันโลกธุรกิจยุคใหม่ พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานแบบยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ เพื่อดึงดูดบุคลากรที่มีศักยภาพสูง ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่โลกการเงินแห่งอนาคต
“ทั้ง 3 กลยุทธ์ เพื่อเสริมศักยภาพของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้สอดรับกับสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจในโลกยุคใหม่ และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจการเงินไว้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตร 312,300 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 84,600 ล้านบาท และยอดสินเชื่อคงค้าง 149,600 ล้านบาท” นางสาวณญาณีกล่าวสรุป