กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เผย 5 เทรนด์ใหม่ COVID-19 เร่งคนไทยก้าวสู่สังคมไร้เงินสด

0
135

นายฐากร ปิยะพันธ์  ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์   เปิดเผยถึงข้อมูลจากฝ่าย Data Intelligence & Customer Insights (DICI) กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ซึ่งวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและบัตรสินเชื่อ ตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนเมษายน 2563 ว่า ผลกระทบจาก Covid-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ทุกวัยคุ้นชินกับการใช้จ่ายออนไลน์และไลฟ์สไตล์ดิจิทัล เช่น สั่งอาหาร ช้อปปิ้ง รับชมความบันเทิงต่างๆ เป็นชีวิตวิถีใหม่ (The New Normal) ก้าวสู่สังคมไร้เงินสด

โดยฝ่าย Data Intelligence & Customer Insights (DICI) กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เผยถึง 5 เทรนด์ใหม่ ที่เป็นพฤติกรรมการใช้จ่ายหลังจากเกิด COVID-19 ดังนี้

1.ก้าวสู่สังคมไร้เงินสด

จากข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรช่องทางออนไลน์ ช่วงมีนาคมถึงเมษายน 2563 จำนวนผู้ใช้บัตรเครดิตที่ทำรายการใช้จ่าย เพิ่มขึ้น 37% โดย 10% เป็นผู้ใช้รายใหม่  โดยทุกวัยมีแนวโน้มใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น  แม้กลุ่มผู้ใช้จำนวนมากที่สุดจะเป็นกลุ่ม Gen Y แต่กลุ่ม Baby Boomers ก็ปรับตัวมาใช้ช่องทางดิจิทัลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหมวดบริการส่งอาหาร และการช้อปปิ้งออนไลน์ โดยมีจำนวนครั้งที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในบางแพลทฟอร์มเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า

 2.กิน ช้อป ออนไลน์ ชีวิตต้องง่าย แค่ปลายนิ้ว

 ผู้บริโภคเริ่มปรับตัว นิยมการสั่งอาหาร ช้อปปิ้งออนไลน์ จากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรในหมวดดังกล่าวในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน 2563 เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยหมวดช้อปปิ้งออนไลน์มียอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 46% ในเดือนมีนาคม และ 75% ในเดือนเมษายน  ขณะที่บริการส่งอาหาร มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรในเดือนมีนาคมและเมษายนเพิ่มขึ้น ถึง 300% ทั้งนี้ 92% ของลูกค้ามักใช้บริการผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีสำหรับแบรนด์ผู้ให้บริการที่ควรเร่งสร้าง brand loyalty ในหมู่ลูกค้า

3.เว้นระยะห่าง แต่เชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยี 

จากข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตร พบว่าหมวดอุปกรณ์ไอที มียอดใช้จ่ายสูงขึ้น ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคม ก่อนที่จะเริ่มลดลงในเดือนเมษายน เนื่องจากนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม ส่งผลให้หลายบริษัทให้พนักงาน Work from Home  โดยกลุ่มที่มียอดใช้จ่ายในหมวดนี้สูงสุด คือ กลุ่ม Gen Y นอกจากนี้ การใช้จ่ายในหมวดความบันเทิงออนไลน์ เช่น บริการสตรีมมิ่ง เกมออนไลน์ โซเชียลมีเดียในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน 2563 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน เทียบกับค่าเฉลี่ยยอดใช้จ่ายในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

4.เน้นใช้จ่ายสิ่งจำเป็น 

โดยวิกฤติที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายในหมวดสินค้าฟุ่มเฟือย โดยหมวดสายการบิน โรงแรมและท่องเที่ยว ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรลดลงถึง 100%, 89% และ 66% ตามลำดับในเดือนเมษายน 2563  ส่วนหมวดร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า รวมถึงสินค้าแฟชั่น ลดลง 85%, 72% และ 77% ตามลำดับ ในทางตรงกันข้าม หมวดซุปเปอร์มาร์เก็ต ในเดือนมีนาคม เติบโตถึง 34% และมียอดใช้จ่ายรายวันเฉลี่ยเติบโตถึงสองเท่า

5.สนใจการออมและความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น 

ทั้งนี้เห็นได้จากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในหมวดกองทุนรวมเพิ่มขึ้น 196% ในเดือนมีนาคม และ 157% ในเดือนเมษายน โดยส่วนใหญ่เป็นการใช้เพื่อซื้อกองทุน SSF และยอดใช้จ่ายเพื่อชำระเบี้ยประกันกรมธรรม์ควบการลงทุน แสดงให้เห็นว่า กลุ่มผู้บริโภคที่ยังมีกำลังซื้อ หันมาให้ความสำคัญกับการออม และการลงทุน เพื่อความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น

“แม้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเดือนเมษายนจะลดลง 37%  เมื่อเทียบกับปีก่อน  แต่ความต้องการซื้อในตลาดยังมีอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนหมวดการใช้จ่าย ไปตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ดังนั้นธุรกิจต่างๆ จึงควรปรับกลยุทธ์ มาให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก  มุ่งเจาะตลาดที่มีศักยภาพสูง เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ หรือโปรโมชั่นที่เหมาะกับชีวิตวิถีใหม่ เช่น การช้อปปิ้งออนไลน์ บริการส่งอาหาร สินค้าไอที ความบันเทิงออนไลน์ ฯลฯ” นายฐากรกล่าว

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่