กรุงศรี ชูจุดเด่นโซลูชันเพื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผสานเครือข่าย MUFG รุกตลาด ESG โตต่อเนื่อง

0
137

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยกลยุทธ์กลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ปี 2566 ต่อยอดความสำเร็จในการสร้างตลาดการเงินด้านความยั่งยืนตามโมเดล ESG ให้เติบโตต่อเนื่อง ชูจุดเด่น Total Financing & Hedging Solutions พร้อมสร้างความแตกต่างด้วยบริการที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุน ผนึกกำลังผ่านเครือข่าย MUFG เพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและอาเซียน

นายประกอบ เพียรเจริญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าถึงผลประกอบการปี 2565 ว่ายอดสินเชื่อลูกค้าธุรกิจเติบโต 2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มียอดสินเชื่อคงค้างกว่า 474,500  ล้านบาท  โดยสนับสนุนการเงินเพื่อความยั่งยืน หรือ ESG Financing กว่า 35,000 ล้านบาท

ปิดดีลใหญ่ หนุนธุรกิจไทยสู่การเติบโตยั่งยืน

ในปี 2565 กรุงศรีดำเนินธุรกิจด้านความยั่งยืนผ่านดีลสำคัญมากมาย อาทิ ร่วมเป็นผู้จัดจำหน่ายตราสารหนี้เพื่อส่งเสริมความยั่งยืน(Sustainability Bond)  ให้กับสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ได้รับความไว้วางใจจาก บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทั้งการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Loan: SL) มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท และร่วมจัดจำหน่ายหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน มูลค่าเสนอขายรวม 4,500 ล้านบาท  

นอกจากนี้  ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Bond) ให้กับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รวมทั้งให้การสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) กับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)  

ตอกย้ำความสำเร็จด้วยจุดแข็งด้านวาณิชธนกิจ

สำหรับบริการที่ปรึกษาด้านวาณิชธนกิจ มีดีลสำคัญๆ ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จํากัด (มหาชน) เช่น การจัดจําหน่ายและรับประกันการจําหน่ายหุ้นสามัญให้กับบริษัท ไทยประกันชีวิต จํากัด (มหาชน) ในการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ซึ่งนับเป็น IPO ของหุ้นในหมวดธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิตที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทย และยังมีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับตั้งแต่ปี 2543

ร่วมเป็นหนึ่งในผู้จัดการ การจัดจําหน่ายและรับประกันการจําหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเดิมให้กับ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเดิมที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2565       

เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) ด้านการควบรวมกิจการ (M&A) และช่วยหาพันธมิตรเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในระดับภูมิภาค แก่บริษัทซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ในการร่วมทุนเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic Investor) กับกลุ่มธุรกิจ Ayala เพื่อร่วมลงทุนและพัฒนาธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในภูมิภาคอาเซียน ผ่านความร่วมมืออันแข็งแกร่งระหว่างทีมกรุงศรี MUFG และ Security Bank ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินในเครือข่ายของ MUFG

ปี 2566 สร้างศักยภาพธุรกิจไทยสู่อาเซียน

สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2566 ยังคงเดินหน้าสานต่อเป้าหมายการเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจของลูกค้าอย่างต่อเนื่องตามแผนธุรกิจระยะกลาง โดยตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 5% และตั้งเป้าการสนับสนุนด้าน ESG Finance อย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของธนาคารในการสนับสนุนทางการเงินให้แก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน 50,000 – 100,000 ล้านบาทภายในปี 2573 ทั้งนี้ กลุ่มงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจยังคงมุ่งมั่นในการเป็น Trusted Partner หรือ พันธมิตรที่ลูกค้าธุรกิจไว้วางใจอย่างแท้จริง ผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

  • พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อส่งเสริมการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน และให้ความรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าด้าน ESG Financing ในตลาดการเงินโลกร่วมกับ MUFG โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสังคม และการเงินเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) อย่างต่อเนื่อง อาทิ สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน และหุ้นกู้ ESG รวมถึงการให้สินเชื่อเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ
  • ชูศักยภาพด้าน Total Financing & Hedging Solutions ผ่านการนำเสนอนวัตกรรมทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมให้บริการในทุกกระบวนการและรอยต่อในการทำธุรกิจ รวมไปถึงการให้คำปรึกษา วิเคราะห์ และสนับสนุนข้อมูลเพื่อการวางแผนธุรกิจ ทั้งการขยายเครือข่ายธุรกิจ การควบรวมกิจการ และการขยายการลงทุนในต่างประเทศ
  • ผนึกกำลัง MUFG ผ่านเครือข่ายกว่า 50 ประเทศ เชื่อมโยงความสามารถในการให้บริการกับพันธมิตรของธนาคารเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมเพิ่มศักยภาพและขยายโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและอาเซียน เพื่อรองรับความต้องการในการขยายธุรกิจสู่ภูมิภาคตามแนวทาง GO ASEAN with krungsri

“กรุงศรีจะใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่งด้านเครือข่าย ความเชี่ยวชาญ และองค์ความรู้ของ MUFG มาพัฒนาศักยภาพการให้บริการลูกค้า  นำเสนอโซลูชันที่ครบวงจรและเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละอุตสาหกรรม  โดยมุ่งส่งเสริมธุรกิจที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืนตามโมเดล ESG เพื่อสนับสนุนลูกค้าธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” นายประกอบ กล่าวสรุป