ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยเครือข่ายพันธมิตร อาทิ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (The Ministry of Economy, Trade and Industry: METI) ประเทศญี่ปุ่น สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และ Techo Startup Center และ Khmer Enterprise หน่วยงานภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของประเทศกัมพูชา จัดงาน Japan-ASEAN Startup Business Matching Fair 2023 จับคู่เจรจาธุรกิจสตาร์ทอัพครั้งใหญ่สุดในอาเซียน ฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ญี่ปุ่น เปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพเข้าถึงแหล่งเงินทุน และต่อยอดการเติบโตให้ไปได้ไกลกว่าในระดับอาเซียน
นายโอบะ ยูอิจิ อุปทูต สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ประธานในพิธี กล่าวว่ารัฐบาลญี่ปุ่นพร้อมสนับสนุนร่วมกับรัฐบาลไทย และภาคเอกชนทั้งในประเทศไทยและอาเซียน เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจและร่วมส่งเสริมเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่น พร้อมเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์ที่ดีในวาระครบรอบ 50 ปี และจะสานต่อการทำงานร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนไทยเพื่อต่อยอดความสัมพันธ์ให้ยั่งยืนต่อไป
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การจัดงานในครั้งนี้เปรียบเสมือนเวทีที่จะช่วยเติมเต็มและต่อยอดทางธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนสตาร์ทอัพ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ และภูมิภาค รวมถึงการส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG Model เพื่อให้เกิดนวัตกรรมทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อสังคมชุมชน อันถือเป็นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศได้อย่างทั่วถึง ทางด้านผู้บริหารระดับสูงจากเครือข่ายพันธมิตร
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่า งานนี้เป็นโอกาสที่จะนำไปสู่ความร่วมมือใหม่ ๆ ระหว่างญี่ปุ่นและอาเซียน พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของดิจิทัลสตาร์ทอัพต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจว่า ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจสู่ตลาดระดับสากล ดึงดูดนักลงทุน และสร้างตำแหน่งงาน ทั้งยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนโดยเฉพาะมิติด้านสิ่งแวดล้อม และสังคม พร้อมช่วยกระตุ้นให้ประเทศเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนอีกด้วย
นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงศรีและพาร์ทเนอร์มีจุดมุ่งหมายเดียวกันในการสร้างอีโคซิสเต็มให้สตาร์ทอัพด้วยการสนับสนุนด้านเงินทุน ความรู้ด้านเทคโนโลยี และข้อมูลธุรกิจ จนสามารถต่อยอดการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและภูมิภาคให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยคาดว่าด้วยประสบการณ์ในการจัดงาน Business Matching จะสามารถจับคู่ธุรกิจในงานนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 360 คู่
ทั้งนี้งาน Japan-ASEAN Startup Business Matching Fair 2023 เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่มีศักยภาพมากกว่า 60 บริษัท จาก 9 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และฟินแลนด์ ในหลากหลายกลุ่มธุรกิจอย่าง เฮลท์เทค มาร์เก็ตเพลส ฟินเทค โลจิสติกส์ และคาร์บอนเครดิต เป็นต้น ได้มาพบปะเจรจาการค้า และนำเสนอแผนงานธุรกิจกับบรรดานักลงทุนมากกว่า 160 บริษัทชั้นนำจาก 6 ประเทศในที่เดียว
โดยได้รวบรวมสตาร์ทอัพดาวรุ่งอย่าง Zeroboard Inc. สตาร์ทอัพสัญชาติญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญด้านคลาวด์เทคโนโลยีเกี่ยวกับการคำนวณและการแสดงผลลัพธ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของธุรกิจและซัพพลายเชน DoctorTool สตาร์ทอัพธุรกิจกลุ่มเฮลท์เทคที่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทางไกล และการจัดจำหน่ายเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์จากประเทศอินโดนีเซีย และ Nham24 สตาร์ทอัพธุรกิจกลุ่มมาร์เก็ตเพลสซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ บริการส่งอาหารและเรียกแท็กซี่ อันดับหนึ่งในประเทศกัมพูชาให้ความสนใจเข้าร่วมด้วยเช่นกัน
“การจัดงานครั้งนี้ แสดงจุดยืนของกรุงศรี ที่พร้อมเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าทั่วอาเซียน และสะท้อนวิสัยทัศน์การสร้างเครือข่ายธุรกิจและความร่วมมืออันแข็งแกร่งในภูมิภาคอาเซียน (ASEAN-Linked Business) ส่งเสริมการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (ESG-Linked Business) และสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล(Digital & Innovation) เพื่อประโยชน์ต่อลูกค้าทั้งในประเทศไทยและอาเซียน” นายยามาโตะ กล่าวสรุป
……………………
