ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ขับเคลื่อนกลยุทธ์ GO ASEAN with krungsri ผสานความร่วมมือเครือข่ายทั้งในประเทศและอาเซียน นำเสนอนวัตกรรมด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภครายย่อย พร้อมจับมือกับพันธมิตร เจาะกลุ่มลูกค้าขยายตลาดในอาเซียน
นางสาวพัทธ์หทัย กุลจันทร์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจอาเซียน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมปี 2567 ในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ GO ASEAN with krungsri ว่า ประสบความสำเร็จในการขยายพอร์ตสินเชื่อในภูมิภาคอาเซียน มีการเติบโตในกลุ่มลูกค้า SME และกลุ่มลูกค้ารายย่อย รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสินทรัพย์ และเสริมสร้างรายได้จากกลุ่มสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง โดยธุรกิจอาเซียนมีสัดส่วนสินเชื่อคิดเป็น 5% ของสินเชื่อรวม และสัดส่วนรายได้ 20% ของรายได้รวม ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 23.2%
โดยที่ผ่านมา กรุงศรีสร้างการเติบโตโดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งที่มี เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ ด้วยการสร้างระบบนิเวศกรุงศรี (Krungsri Ecosystem) และความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ดังนี้
-ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายและความแข็งแกร่งของกรุงศรี และ MUFG ทำให้บริษัทในเครือในต่างประเทศสามารถชิงความได้เปรียบทางการแข่งขันเช่น การได้รับอันดับความน่าเชื่อถือที่ดีของ กรุงศรี และ MUFG จากบริษัทจัดอันดับเครดิตชั้นนำส่งผลให้บริษัทลูกในต่างประเทศมีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำลงสามารถแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น
– ส่งต่อความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค ทั้งจากกรุงศรี ออโต้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้นำตลาดสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในประเทศไทย ให้กับบริษัทในเครือในต่างประเทศ เพื่อเป็นแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมทางการเงินที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าประเทศต่างๆ
– เสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศต่างๆ ในอาเซียน โดยกรุงศรีได้พัฒนาความร่วมมือกับพันธมิตรหลายราย ภายใต้โครงการ ASEAN Privilege อย่าง คิง พาวเวอร์ และ เดอะมอลล์ กรุ๊ป เพื่อให้สิทธิประโยชน์ด้านไลฟ์สไตล์และการชอปปิงแก่ลูกค้านักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศอาเซียนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย
และในเร็วๆนี้ กรุงศรีเตรียมประกาศความร่วมมือกับกลุ่มโรงพยาบาลชั้นนำในไทย เพื่อขยายบริการด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นธุรกิจที่ดึงดูดและเป็นจุดแข็งของประเทศ ให้สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าในอาเซียนได้มากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันกรุงศรี มีบริษัทในเครือในต่างประเทศ 6 บริษัท เป็นธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค 5 บริษัท และธนาคารพาณิชย์จำนวน 1 แห่ง กระจายอยู่ 5 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน มีฐานลูกค้าราว 19 ล้านราย ซึ่งเชื่อว่าด้วยความเชี่ยวชาญของกรุงศรีในธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคและศักยภาพของบริษัทลูกในต่างประเทศจะสามารถผสานความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อสร้างการเติบโตให้กับกรุงศรีได้เพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคต จากรายได้ในปี 2566 ที่มีการเติบโต 13% ในปี 2567 มีการเติบโต 20% และคาดว่าในปี 2568 จะขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดรายได้ให้เป็น 25%
นางสาวพัทธ์หทัย กล่าวถึงความคืบหน้าของการเข้าซื้อกิจการ SHB Finance ธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคในประเทศเวียดนามว่า รวดเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ โดยต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กรุงศรีได้ยื่นเข้าซื้อและรับโอน 50% ที่คงเหลือจากการซื้อและรับโอนส่วนของทุนครั้งแรก ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอการพิจารณาอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่ากรุงศรีจะเข้าถือหุ้น 100% ของ SHB Finance เสร็จสมบูรณ์ในช่วงกลางปี 2568 จากเดิมที่คาดว่าจะยื่นเข้าซื้อ 50% ที่คงเหลือในปี 2569 (หรือ 3 ปีหลังจากการซื้อและโอนส่วนของทุนครั้งแรก) สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกรุงศรีในการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอาเซียนและความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดเวียดนาม
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินงานของธุรกิจอาเซียน ในปี 2568 กรุงศรีจะมุ่งให้ความสำคัญใน 3 เรื่องหลัก ประกอบด้วย
1.ปรับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง โดยในแต่ละบริษัทจะมีการกำหนดกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับภาวะตลาดและสถานการณ์การแข่งขันในธุรกิจ อาทิ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการของสาขา และเร่งขยายฐานผู้ใช้งานโมบายแอปพลิเคชันของ Hattha Bank
2.เพิ่มความแข็งแกร่งในการสร้างรายได้ อาทิ นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด และรักษาฐานลูกค้าเดิมให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ Home Credit Philippines และ Home Credit Indonesia สามารถครองความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจ รวมทั้งพัฒนาโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้าในกลุ่มใหม่ๆ เช่น Home Credit Philippines และ SHB Finance ที่มีแผนการขยายและเข้าสู่ตลาดบัตรเครดิต การขายประกันในรูปแบบของผลิตภัณฑ์การเงินผ่านช่องทางธนาคาร (Bancassurance) ของ Hattha Bank
3.เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล อาทิ การนำเทคโนโลยีการสร้างหุ่นยนต์มาเพื่อทำงานแบบอัตโนมัติบนระบบคอมพิวเตอร์ (Robotic Process Automation) เข้ามาช่วยในงานด้านการปฏิบัติงาน เพื่อทำให้สามารถดำเนินการได้เร็วขึ้น ช่วยลดต้นทุน รวมถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือที่มีอยู่ เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและมากขึ้น สามารถช่วยขยายฐานลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิผล
“กรุงศรีมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอาเซียนต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าในแต่ละประเทศได้เข้าถึงนวัตกรรมทางการเงินที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ขณะเดียวกันช่วยส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างกันในภูมิภาคอาเซียนได้มากขึ้น สอดคล้องกับแนวคิด GO ASEAN with krungsri” นางสาวพัทธ์หทัยกล่าวสรุป