ม.ล.จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2562 ว่า มีเบี้ยประกันภัยรับรวมลดลง 13% โดยมีเบี้ยฯ ทั้งสิ้นจำนวน 35,692 ล้านบาท ซึ่งเบี้ยประกันภัยดังกล่าวมีสัดส่วนตามช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัทซึ่งประกอบด้วย ช่องทางธนาคาร 56% ช่องทางตัวแทน 38% และช่องทางอื่นๆ 6% ซึ่งสาเหตุการลดลงของเบี้ยฯ มาจากมีผลิตภัณฑ์ที่ขายผ่านช่องทางธนาคารครบกำหนดชำระเบี้ยจำนวนมากในปีนี้
จนถึงสิ้นปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัทมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 333,680 ล้านบาท เติบโต 3% จากปี 2561 มีสินทรัพย์ลงทุนสัดส่วนสูงที่สุดคือ 93% การลงทุนในตราสารหนี้รวมทั้งสิ้น 81% ตราสารทุน 9% และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 7% โดยในปี 62 มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 4,386 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.57 บาทต่อหุ้น ด้านความมั่นคงของฐานะทางการเงิน บริษัทมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio – CAR) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ที่ระดับร้อยละ 314 เพิ่มสูงขึ้นจากอัตราเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย ณ สิ้นปี 2561 ที่ร้อยละ 260 และยังสูงกว่าอัตราขั้นต่ำกฎหมายกำหนดกว่า 2 เท่า จึงแสดงถึงความมั่นคงในฐานะทางการเงินของบริษัท
บริษัทฯ มีการส่งเสริมการยกระดับการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับประกันสุขภาพ ด้วยการจัดทำโครงการ BLA Every Care ที่รองรับการให้บริการแก่ผู้ถือกรมธรรม์ประกันสุขภาพแม้ในช่วงก่อนป่วยและหลัง และได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เพื่อการวางแผนบำนาญใหม่ คือ บีแอลเอ บำนาญ 99 ที่ขยายการจ่ายบำนาญถึงอายุ 99 ปี อีกทั้งยังผลักดันการขยายช่องทางจำหน่ายผ่านนายหน้าประกันภัยรายใหม่ และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ในส่วนของการนำเสนอแผนการลงทุนคู่ความคุ้มครองผ่านที่ปรึกษาการเงินของบริษัท เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านการเงินให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมายังได้รับรางวัลบริษัทประกันชีวิตที่มีการบริหารงานดีเด่น อันดับที่ 3 จากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยบริษัททำการตลาดในช่องทางจำหน่ายแต่ละช่องทาง โดยเฉพาะในช่องทางตัวแทนจำหน่าย ทำให้ปัจจุบันบริษัท มีแบบประกันด้านสุขภาพที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้า