ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ถึงการเข้าซื้อหุ้นธนาคารแมสเปี้ยน (PT Bank Maspion Indonesia Tbk) ประเทศอินโดนีเซีย โดยบริษัทย่อย กสิกร วิชั่น ไฟแนนเชียล จำกัด หรือ KVF ทำสัญญาซื้อขายหุ้นแบบมีเงื่อนไข เพื่อเข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
ก่อนหน้านี้ KBANK เริ่มรุกตลาดอินโดนีเซีย เข้าไปลงทุนในธนาคารแมสเปี้ยน ตั้งแต่ปี 2560 ในสัดส่วน 9.99% เพื่อรองรับการขยายตัวและเชื่อมโยงธุรกิจใน AEC จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ (AEC+3) ซึ่งแมสเปี้ยนเป็นธนาคารเอกชนที่ที่เน้นบริการลูกค้าส่วนบุคคลและ SME มีเครือข่ายสาขาครอบคลุมครบทุกเมืองในอินโดนีเซีย และมีความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์และบริการด้าน Digital Banking ที่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาธุรกิจของ KBank
นอกจากนี้แมสเปี้ยน ยังอยู่ในแมสเปี้ยนกรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีธุรกิจหลายประเภท ทั้ง การเงินธนาคาร, ค้าปลีก ค้าส่ง, โลจิสติกส์, อสังหาริมทรัพย์ และยังเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งในสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในครัวเรือน ที่มีลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ซึ่ง KBank สามารถนำไปเชื่อมต่อกับลูกค้าไทยในรูปแบบ Supply Chain และ Value Chain ผ่านการให้บริการกับแมสเปี้ยน
ต่อมาในปี 2563 ได้เข้าลงทุนเพิ่ม จนมีสัดส่วนเป็น 40%
ล่าสุด เข้าลงทุนเพิ่มอีกครั้ง โดยนายภัทรพงศ์ กัณหสุวรรณ ประธานกรรมการ บริษัท กสิกร วิชั่น ไฟแนนเชียล จำกัด (KASIKORN Vision Financial Company Pte. Ltd) (“KVF”) ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นแบบมีเงื่อนไข (Conditional Sale and Purchase Agreement) (“CSPA”) กับนายอาริม มาคุส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มแมสเปี้ยน ในการเข้าถือหุ้นเพิ่มรวมเป็นสัดส่วน 67.50% คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 7,556 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย และสามารถเข้าทำธุรกรรมได้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2565
นายภัทรพงศ์ เปิดเผยว่า การเข้าซื้อธนาคารแมสเปี้ยนในครั้งนี้ ทำให้สามารถประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในประเทศอินโดนีเซียได้ ด้วยมูลค่าเงินลงทุนที่ต่ำกว่าการยื่นขอใบอนุญาตใหม่ (เงินลงทุนขั้นต่ำ 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ทำให้มีโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้น และยังเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสมในการขยายธุรกิจของธนาคาร เนื่องจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยดิจิทัลในอินโดนีเซียช่วยสนับสนุนให้แนวโน้มบริการทางการเงินสำหรับลูกค้าทุกกลุ่มมีแนวโน้มสดใสไปพร้อมกับการเติบโตของเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด-19 และสอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตที่สำคัญในการมุ่งสู่ความเป็นธนาคารแห่งภูมิภาคที่แท้จริง ในการเชื่อมโยงธุรกิจของธยาคารกสิกรไทยใน AEC จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ (AEC+3) ที่จะมีพลวัตการเติบโตสูงต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ธนาคารแมสเปี้ยน เป็นธนาคารท้องถิ่นที่มีศักยภาพและจุดแข็งในการเข้าถึงกลุ่มธุรกิจท้องถิ่นขนาดเล็กและขนาดย่อมซึ่งสอดรับกับความเชี่ยวชาญของธนาคารกสิกรไทยในการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อมเพื่อช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการในประเทศอินโดนีเซีย

โดย kbank จะใช้ความเชี่ยวชาญด้านโมบายแบงก์กิ้งผ่านแอพพลิเคชั่น K-PLUS ในการนำเสนอและส่งมอบนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมให้แก่ลูกค้าในอินโดนีเซียซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตของเทคโนโลยีทางการเงินที่โดดเด่นเป็นอันดับต้นๆ ของอาเซียน และจะทำให้ K-PLUS กลายเป็นแพลตฟอร์มระดับภูมิภาคที่แท้จริง (True Regional Platform)
สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ ธนาคารจะมุ่งเน้นไปที่ความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ดังนี้
- กลุ่มองค์กรขนาดใหญ่
ตั้งเป้าเร่งการปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มองค์กรหรือธุรกิจขนาดใหญ่ของไทยที่ลงทุนโดยตรงในอินโดนีเซีย (TDI) ธุรกิจต่างชาติที่ลงทุนในอินโดนีเซีย ตลอดจนกลุ่มธุรกิจท้องถิ่น ให้เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมและการผนึกกันเป็นหนึ่งเดียวของตลาดภายในประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ยังมุ่งหวังที่จะให้บริการธนาคารที่ครอบคลุมเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าองค์กร ทั้งบริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตและบริการบัญชีเงินเดือนสำหรับพนักงานองค์กร
- กลุ่มธุรกิจ SMEs
สนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ธุรกิจ SMEs โดยเฉพาะธุรกิจครอบครัว ที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อหรือไม่ได้รับการตอบสนองความต้องการทางการเงิน รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการให้สินเชื่อตั้งแต่ต้นจนจบ นอกจากนี้ ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านภาคอุตสาหกรรมและการขยายตัวของความเป็นเมืองในอินโดนีเซีย ธนาคารจะสนับสนุนสินเชื่อเครือข่ายธุรกิจ (Supply Chain Financing) แก่ธุรกิจ SMEs ท้องถิ่น เพื่อให้ธุรกิจดังกล่าวสามารถเติบโตไปพร้อมกับห่วงโซ่มูลค่าของประเทศและของโลกได้ ทั้งนี้ จะนำใช้ความสามารถทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งในการปรับปรุงการชำระเงินและบริการธุรกรรมทางธนาคารเพื่อให้สามารถเข้าถึงธุรกิจ SMEs ในระดับท้องถิ่นอีกจำนวนมากในอินโดนีเซียที่ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อ
- กลุ่มลูกค้ารายย่อย
ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินเชื่อดิจิทัล และการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคและธุรกิจ MSME จำนวนมากในอินโดนีเซีย สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้สะดวกและง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะใช้ K-PLUS ในการให้บริการโมบายแบงก์กิ้งเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในทุกด้านของบริการทางการเงิน
ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าว เชื่อว่าจะสามารถผลักดันธนาคารแมสเปี้ยนให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในระยะ 5 ปีนับจากนี้ โดยมีเป้าหมายสู่การเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาคชวาตะวันออก (East Java) ภายในปี 2570
เกี่ยวกับธนาคารแมสเปี้ยน
ธนาคารแมสเปี้ยน (PT Bank Maspion Indonesia Tbk) ก่อตั้งเมื่อปี 2532 ณ เมือง สุราบายา โดยเริ่มดำเนินการในฐานะธนาคารพาณิชย์ เมื่อปี 2533 และให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในปี 2538 ได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย เมื่อปี 2556 ธนาคาร Maspion มีสำนักงานรวม 46 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยสำนักงานใหญ่ 1 แห่ง สาขา 10 แห่ง สาขาย่อย 26 แห่ง สำนักเงินสด 7 แห่ง และสำนักงานปฏบัติการ 2 แห่งที่กระจายอยู่ในสุราบายา จาการ์ตา เซมารัง เดนปาซาร์ เมดาน บันดุง มากัสซาร์ โซโล มาลัง เปอเวอกาโต และปาเล็มบัง