ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่งผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ฉลองการก่อตั้งครบ 28 ปีในประเทศไทย ตั้งเป้าเป็นที่ 1 ในธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เดินหน้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มจักรยานยนต์ขนาดกลาง ใหญ่ และไฟฟ้าพร้อมพัฒนาองค์กรตามแนวคิด ESG
นายทาเคฮารุ อุเอมัทซึ ประธานบริษัท และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด เปิดเผยถึงนโยบายดำเนินธุรกิจในปี 2565 ว่า พร้อมรับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลง ด้วยกลยุทธ์ “วิ่งเพื่อชนะ” โดยยังคงดำเนินธุรกิจตามหลักค่านิยมองค์กร I-TRUS ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทำในสิ่งที่ถูกต้อง และอยู่บนพื้นฐานของหลักจริยธรรม ศีลธรรม และระเบียบวินัยที่ดีงาม เพื่อให้องค์กรเป็นที่น่าเชื่อถือไว้วางใจของลูกค้า พันธมิตรดีลเลอร์ พนักงาน ผู้ถือหุ้น และสังคม ด้วยเป้าหมายสู่ความเป็นที่ 1 ในธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรให้ยั่งยืนด้วยแนวคิด ESG (Environment, Social, and Governance) ซึ่งเป็นหลักคิดในการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อ 3 ด้านหลัก ทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และ ธรรมาภิบาล
“บริษัทดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 28 ปี แม้ช่วงที่ผ่านมา จะประสบกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก จากภาวะเศรษฐกิจและการระบาดของโควิด19 แต่พนักงานและผู้บริหาร ต่างมุ่งมั่น ทุ่มเท ทั้งการดูแลลูกค้า และพัฒนาการให้บริการอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้รักษาความแข็งแกร่งมาได้อย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะขยายธุรกิจออกไปสู่กลุ่มใหม่ ๆ เมื่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวมฟื้นตัวในอนาคตอันใกล้”
ปัจจุบัน ซัมมิท แคปปิตอล มีสาขาบริการครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 45 สาขา เพิ่มสินเชื่อสำหรับ รถจักรยานยนต์ขนาดกลางและใหญ่มากขึ้น รวมถึงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้ และยังให้การส่งเสริมวินัยทางการเงินและการปล่อยสินเชื่อด้วยความรับผิดชอบ
อีกทั้งได้พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าได้รวดเร็วและทั่วถึง ด้วยการขยายช่องทางการตลาดผ่านระบบออนไลน์ โซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line OA, Website ตอบโจทย์การใช้ชีวิตวิถีใหม่ new normal พร้อมเพิ่มการสมัครสินเชื่อทางออนไลน์ให้ลูกค้ามีความสะดวกมากยิ่งขึ้น
“ด้วยประสบการณ์อันยาวนานของ ซัมมิท แคปปิตอล ในธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น ประกอบกับเครือข่ายทางธุรกิจระดับโลก และความมั่นคงแข็งแรงของบริษัทแม่ ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น จะช่วยการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืนได้อย่างแน่นอน”นายทาเคฮารุ กล่าวสรุป
