โครงการ “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 31” โดย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน), ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน), สมาคมนักเรียนเก่า เอเอฟเอส ประเทศไทย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), สำนักบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (OKMD) และ มูลนิธิธรรมดี ได้จัดกิจกรรมเพื่อสืบสานวัฒนธรรมไทย “หนังใหญ่” พาคณะเดินทางไปยัง วัดขนอน จังหวัดราชบุรี พร้อมร่วมสนับสนุนให้หนังใหญ่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO
พระครูพิทักษ์ศิลปาคม เจ้าอาวาสวัดขนอน กล่าวว่า “คณะการแสดงหนังใหญ่วัดขนอน คือ 1 ใน 3 คณะหนังใหญ่ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในประเทศไทย ณ ขณะนี้ โดยทางวัดยังคงจัดการแสดง พร้อมกับถ่ายทอดองค์ความรู้นี้ไปสู่ผู้ที่สนใจอย่างต่อเนื่อง และเรายังมีพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้อีกด้วย ทำให้ในปี พ.ศ. 2550 ชุมชนวัดขนอนได้รับการยกย่องจาก UNESCO ให้เป็น 1 ใน 6 ชุมชนดีเด่นของโลกที่มีผลงานในการอนุรักษ์ฟื้นฟูมรดกวัฒนธรรมเชิงนามธรรม โดยในอนาคตเรามีเป้าหมายที่จะผลักดันให้หนังใหญ่ได้ขึ้นทะเบียนเพื่อเป็นมรดกโลกต่อไปด้วย”
นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า “การสืบสาน รักษา ต่อยอด ภูมิปัญญาของคนไทย เป็นหนึ่งในภารกิจหลักที่ทางทิพยประกันภัย
และโครงการตามรอยพระราชา พยายามผลักดัน และส่งเสริมมาโดยตลอดระยะเวลากว่า 6 ปีที่ทำโครงการ ซึ่งในการทำกิจกรรมตามรอยพระราชาครั้งที่ 31 นี้ เรามุ่งเน้นในเรื่องของการศึกษาเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมอันเป็นอัตลักษณ์ดั้งเดิมของคนไทย เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้เข้าใจถึงรากเหง้าของความเป็นไทย และเพื่อให้เกิดความรู้สึกภูมิใจในความเป็นไทย เพราะเราเชื่อว่าศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งภูมิปัญญาต่าง ๆ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญต่อการพัฒนาในทุก ๆ ด้านของประเทศชาติ และเป็นรากฐานของความเจริญเติบโตอย่างมั่นคง”
ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี กล่าวเสริมว่า “ในครั้งนี้ ทางโครงการได้นำคณะครู-อาจารย์ ร่วมกิจกรรมทำบุญปล่อยปลาตะเพียน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 วันที่ 28 กรกฎาคม 2566 และชมการแสดงหนังใหญ่ พร้อมเยี่ยมชมศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช และชมพิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน อีกทั้งยังได้ร่วมลงมือทำกิจกรรมการตอกหนัง ทำพวงกุญแจ จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาเส้นทางธรรมชาติ และร่วมกิจกรรมปลูกป่าที่โครงการอุทยานธรรมชาติวิทยาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี”
“การถอดรหัสพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ผ่านโครงการพระราชดำริ ทั้ง 5,151 โครงการทั่วประเทศ รวมถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้เราได้เข้าใจถึงหลักคิด และวิสัยทัศน์ของพระองค์ ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาประเทศของเราให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคงต่อไป โดยแนวทางดังกล่าวยังได้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน 17 ข้อขององค์การสหประชาชาติ
หรือ UNSDGs ที่มุ่งหวังจะพัฒนาประชาคมโลก ขจัดความยากจนและรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อความเจริญอย่างยั่งยืนภายในปี 2030 อีกด้วย” ดร.ดนัย กล่าวสรุป
นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการยังได้ร่วมทำกิจกรรม Workshop ถอดรหัสนวัตกรรมศาสตร์พระราชา เรียนรู้นวัตกรรมสื่อการสอนสำหรับเยาวชนในศตวรรษที่ 21, Interactive Board Game จากวิทยากร อาจารย์อดุลย์ ดาราธรรม นายกสมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย เพื่อนำไปพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้สำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่ และการพัฒนานวัตกรรมแบบก้าวกระโดดสำหรับองค์กรต่อไป อีกทั้งยังได้รับฟังบรรยายจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และ ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี
หนังใหญ่ คือมหรสพที่มีมาแต่สมัยโบราณ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมไทยที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นการแสดงชั้นสูง ในอดีตนิยมใช้เป็นการแสดงในราชสำนัก แต่ปัจจุบันความนิยมได้ลดน้อยลง จนครั้งหนึ่งเกือบจะสูญหายไปจากสังคมไทยแล้ว แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการอนุรักษ์ศิลปะการแสดงแขนงนี้ จึงทำให้หนังใหญ่ยังคงมีลมหายใจ โลดเล่นอยู่ในสังคมไทยมาถึงทุกวันนี้