“เป็นบทเรียนที่เราไม่เคยคิดกันว่า ทุกอย่างในโลกหยุดหมด หยุดจริงๆ แล้วทำให้การหมุนเวียนทางการเงินหายไปด้วย”
…นี่เป็นความเห็นของ ‘คุณนิพันธ์ เสมสันทัด’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยสตาร์ชัวร์ตี้ จำกัด บริษัทโบรกเกอร์ที่มีความเชี่ยวชาญงานประกันภัยสินค้า
*คุณนิพันธ์บอกว่า ถ้ามองเรื่องการรับประกันโควิดในตอนนี้ โดยภาพรวมบริษัทประกันยังมีกำไรอยู่ เพราะจากคนติดเชื้อ 2,000 กว่าคน มีโคม่าเพียง 40 กว่าคนเท่านั้น ซึ่งถ้ามองตอนนี้ ถือว่าคลี่คลาย แต่ต่อไปไม่รู้
…ในไทยไม่น่ามีปัญหา แต่ในเชิงความเสี่ยง เราไม่รู้ว่า ส่งประกันต่อไปที่ไหนกันบ้าง โดยเก็บไว้เองไม่เยอะหรอก ที่เหลือก็ส่งเมืองนอกกันหมด ส่วนไทยรีฯนั้น เขาไม่รับหรอก เพราะโดนมาเยอะตั้งแต่ตอนน้ำท่วม เลยพักการรับไปก่อน
**สำหรับในต่างประเทศนั้น ถ้าดูตัวเลขคนติดเชื้อและเสียชีวิต ถือว่าสูงมาก ดังนั้น เขาหนักกว่าเรา ซึ่งอาจกระเทือนไปถึงบริษัทรับประกันต่อด้วย นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่บริษัทประกันในไทยต้องจำกัดการรับประกันโควิดและหยุดรับประกัน
…”คือไม่อยากให้ไปถึงเดือน 6 คือ มิถุนายน เพราะถ้าเลยเดือน 6 เกิดปัญหาเยอะเลย เจ๊งกันหมดแน่”
***คุณนิพันธ์บอกถึงจุดสำคัญของเดือน 6 ก็คือ โรงงานต่างๆที่ผลิตสินค้า อย่างพวกเสื้อผ้าสำเร็จรูป พวกเสื้อผ้ากีฬาและอื่นๆ จะเริ่มสัญญาใหม่จากต่างประเทศ ดังนั้น ถ้ายังมีปัญหาโควิด ออเดอร์ต่างๆมีปัญหาทันที แล้วสิ่งที่ตามมาก็คือ โรงงานก็มีปัญหาทางการเงิน และที่สุดก็กระทบมาจากพนักงานหรือลูกจ้าง นี่คือตัวอย่างหนึ่ง
…แต่สำหรับการประกันสินค้าและการขนส่งสินค้า ตอนนี้ยังไม่กระทบมาก เพราะการขนส่งทางเรือและทางอากาศ พวกคาร์โก้ยังทำได้ นี่คือเฉพาะตอนนี้
…แต่ถ้ามองสถานการณ์ไปจนถึงสิ้นปีของธุรกิจประกันภัย ต้องบอกว่า หนัก คือ ขาดทุนจากการรับประกันแน่นอน ขณะที่การลงทุนก็มีปัญหาด้วย เพราะมันเป็นเรื่องโยงมาจากกรณีที่บริษัทประกันต่างประเทศก็ลงทุนไม่ได้ด้วย คือมีปัญหากันหมด
***คุณนิพันธ์บอกว่า อีกบทเรียนหนึ่งที่เราได้รับจากโควิดในเรื่องการรับประกันโควิดของบริษัทประกัน ก็คือ ระบบแบ็คออฟฟิศของบริษัทประกัน ที่ไม่สามารถรองรับการซื้อประกัน ที่เข้ามาพร้อมๆกันหรือต่อเนื่องกันได้ พอมีการซื้อออนไลน์กันเยอะ ปรากฎว่า บริษัทประกันไม่สามารถแจ้งเรื่องความคุ้มครองกับประชาชนได้ทัน
…”จริงๆแล้ว เรื่องนี้ ไม่ได้ยากเลย เพราะการซื้อประกันรูปแบบนี้ สิ่งยืนยันตัวตน คือ เลขประจำตัวบัตรประชาชน ซึ่งถ้าสร้างระบบให้คนซื้อประกัน สามารถตรวจสอบความคุ้มครองของตนเองได้ก็จะดี แค่เข้าระบบแล้วพิมพ์เลขบัตร ชื่อ ผู้ทำประกัน ชื่อบริษัทและรายละเอียดความคุ้มครองก็ปรากฎขึ้นมา ซึ่งเรื่องอย่างนี้ สำนักงานคปภ.ควรสร้างขึ้นมา เนื่องจากคปภ.ให้แต่ละบริษัทรายงานเรื่องการทำประกันอยู่แล้ว ซึ่งถ้าทำได้ ก็จะเกิดประโยชน์กันทั้งหมด