“บัวหลวงเวนเจอร์ส” ชี้เทรนด์ธุรกิจวิ่งหาไอทีโซลูชั่น ร่วมลงทุน STelligence ชูความแข็งแกร่งด้านดิจิทัล

0
40

บัวหลวงเวนเจอร์ส ร่วมลงทุนเอส เทลลิเจนซ์ (STelligence) ผู้ให้บริการ Digital Transformation และเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูล ชี้เทรนด์ธุรกิจสดใส ผู้ประกอบการวิ่งหาโซลูชั่น ช่วยอัปเกรดกระบวนการทำงาน  เพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจเติบโตแข็งแกร่ง  หนุนลูกค้าธนาคารปรับตัว คว้าโอกาสรุกตลาดยุคดิจิทัล

นายกฤษณ์ พันธ์รัตนมาลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัวหลวงเวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า บัวหลวงเวนเจอร์สลงทุนใน บริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จำกัด เพื่อสนับสนุนธุรกิจให้เติบโตแข็งแรง โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมยุคใหม่มาประยุกต์ใช้กับกระบวนการทำงานภายใน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ยกระดับความปลอดภัย รวมถึงนำข้อมูลต่าง ๆ มาประมวลผลเพื่อวิเคราะห์เชิงลึกและต่อยอดด้านการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจ

“ที่ผ่านมาหลายธุรกิจเก็บ Big Data อย่างต่อเนื่อง แต่ยังต้องการโซลูชั่นที่จะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลให้ออกมาเป็นกลยุทธ์และแผนดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งธุรกิจไทยมีแนวโน้มเพิ่มการลงทุนด้านไอทีและเทคโนโลยีสูงขึ้น เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน แต่การทำ Digital Transformation จำเป็นต้องอาศัยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์  จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่ดีที่บัวหลวงเวนเจอร์ส ได้ร่วมลงทุนและเป็นพันธมิตรกับบริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จำกัด”

ทั้งนี้ นอกจากเงินลงทุนแล้ว บัวหลวงเวนเจอร์สจะมีตัวแทนของผู้ลงทุนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการ ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจและติดตามผลการดำเนินงานของบริษัท โดยเฉพาะในเรื่องการพัฒนาระบบการควบคุมภายในและหลักธรรมาภิบาล รวมถึงการเตรียมความพร้อมให้กับ เอส เทลลิเจนซ์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทย ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งมิติที่บัวหลวงเวนเจอร์ส สามารถช่วยส่งเสริมให้ เอส เทลลิเจนซ์ เติบโตได้อย่างมั่นคงอีกด้วย

“การร่วมลงทุนครั้งนี้ บัวหลวงเวนเจอร์ส มองถึงแนวทางการพัฒนาความร่วมมือกับทางกลุ่มธนาคารกรุงเทพ เพื่อนำเสนอบริการด้าน Digital Transformation และ Data Analytics ต่าง ๆ ให้แก่กลุ่มลูกค้าของธนาคารกรุงเทพ ที่มีทั้งลูกค้าธุรกิจองค์กรขนาดใหญ่ และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ต้องการใช้บริการระบบงานไอทีและการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ  ซึ่งยิ่งเสริมศักยภาพการทำตลาดของ เอส เทลลิเจนซ์ ให้เข้าถึงลูกค้าเป้าหมายในหลากหลายอุตสาหกรรม” นายกฤษณ์ กล่าว

ดร. สันติสุข ลิ้มปิติเจริญโชติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส เทลลิเจนซ์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านไอทีที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Data Technology และ Digital Transformation กล่าวว่า STelligence วางแผนนำเงินจากการระดมทุนไปขยายธุรกิจและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน เพื่อรองรับการเติบโตและเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต โดยจะลงทุนพัฒนาโซลูชั่นรูปแบบใหม่ที่ใช้งานง่าย แก้ไขปัญหาได้จริง และการบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าธนาคาร อุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงองค์กรขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ ด้วยศักยภาพระบบการวิเคราะห์ข้อมูลที่แม่นยำ มีความเป็นมืออาชีพ สามารถดึงข้อมูลมาใช้วางแผนกลยุทธ์ได้หลากหลาย เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้แก่ธุรกิจ สนับสนุนให้ธุรกิจไทยเติบโตแข็งแกร่งในยุคดิจิทัล

โดยมีแผนในการขยายกิจการ 3 ด้าน คือ 

  1. ยกระดับศักยภาพการให้บริการ ทักษะ และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกยุค Digital First หรือ AI First ที่กำลังมาถึง  
  2. ขยายพันธมิตรธุรกิจให้กว้างขวางและหลากหลายขึ้นเพื่อต่อยอดกับจุดแข็งเดิมของบริษัทในด้าน Data Analytics, Automation, และ Cybersecurity โดยมุ่งสร้าง ecosystem ที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
  3. พัฒนาการให้บริการด้านดิจิทัลรูปแบบใหม่ๆ เช่น การให้บริการด้านคลาวด์ (Cloud Computing) เพื่อสนับสนุนการทำ Digital Transformation ในองค์กรได้อย่างรวดเร็ว การนำ Artificial Intelligence (AI) เข้ามาประยุกต์ใช้ในองค์กรเพื่อสร้าง AI Transformation เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจให้กับองค์กร หรือการผนวกเอา AI และ Automation เข้ามาช่วยงานบริการด้าน Cybersecurity ที่เพิ่มประสิทธิภาพด้านการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ให้สูงขึ้น 

“เราตั้งเป้าเติบโตก้าวกระโดด ใน 5 ปี โดยเร่งสร้างบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ๆด้านเทคโนโลยีที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วในโลกปัจจุบัน  เพื่อสร้างคุณค่าทางธุรกิจให้ทั้งลูกค้าและคู่ค้า ตลอดจนพัฒนาทีมงานให้มีทักษะดิจิทัล (Digital Skill) ใหม่ๆเข้าสู่ตลาด เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กรและสังคมไทยต่อไปในระยะยาว” ดร.สันติสุข กล่าวสรุป