ปี 2568 บานเย็นบานสะพรั่งทั่วไทย เมืองไทยประกันชีวิต ชูกลยุทธ์ “Boost Your Happiness by Our People”

0
87

เมืองไทยประกันชีวิต ประกาศปี 2568 บานเย็นบานสะพรั่งทั่วประเทศไทย  ด้วยกลยุทธ์ “Boost Your Happiness by Our People”  เดินหน้าบูสท์ความสุขของคุณด้วยคนของเรา ตอกย้ำผู้นำแบรนด์แห่งการสร้างความสุขและรอยยิ้ม  ผ่านความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในทุกช่วงชีวิต และการบริการแบบไร้รอยต่อ  

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  หรือ MTL เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2567 ว่าเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ด้วยจำนวนลูกค้า 3.8 ล้านราย เบี้ยประกันภัยรับรวม 71,800  ล้านบาท  เบี้ยประกันภัยรับใหม่โต 13%  คะแนน NPS (Net Promoter Score) จาก 58 คะแนน สูงขึ้นเป็น 75 คะแนน  ขณะที่ธุรกิจในภูมิภาค CLMV ยังมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง 

โดยอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน ณ สิ้นปี 2567 มากกว่า 350% สูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนดที่ 140%  และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ และความแข็งแกร่งทางการเงินจาก S&P Global Ratings ที่ระดับ BBB+ (Stable Outlook)  และ Fitch Ratings ที่ระดับ A- และ AAA(tha) (Stable Outlook)

สำหรับปี 2568 ยังคงตอกย้ำแบรนด์แห่งการสร้างความสุขและรอยยิ้มที่ยั่งยืน  ผ่านกลยุทธ์ “Boost Your Happiness by Our People” บูสท์ความสุขของคุณด้วยคนของเมืองไทยประกันชีวิต  โดยพัฒนาองค์กรทุกภาคส่วน เพิ่มทักษะการใช้ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ผสมผสานอยู่ในทุกกระบวนการทำงาน (Data & AI Literacy) ทักษะด้านการสื่อสารและการบริหาร (Soft Skills) ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Expert Knowledge) และความเชี่ยวชาญในหลายมิติ (Cross-Domain Expert Knowledge)   เพื่อยกระดับความสุขให้ทั้งลูกค้า พาร์ทเนอร์ พนักงาน ฝ่ายขาย และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ผ่านผลิตภัณฑ์ บริการ และช่องทางการขายต่างๆ  พร้อมตั้งเป้าหมาย สีบานเย็นบานสะพรั่งทั่วประเทศไทย   

นายสาระกล่าวว่า  ตลอด 21 ปี ของการทำรีแบรนด์ดิ้งเป็นสีบานเย็นภายใต้คอนเซ็ปต์ของความสุข จนถึงวันนี้ยังคงยืนหยัดในหลักการเดิม  เพราะสีบานเย็นคือ Morning Sunshine ทุกวันคือวันใหม่ เริ่มต้นใหม่ได้เสมอ Never Give Up โดยเมืองไทยประกันชีวิตยึดมั่นว่า จะเป็นหนึ่งใน Piece หรือชิ้นเล็กๆ ที่เติมเต็มในเรื่องการบริหารความเสี่ยง การออม การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การดูแลเรื่องของต้นทุนของสุขภาพ ภายใต้หลักการ Inside Out เพื่อตอบโจทย์และแก้ Pain Point จาก Outside In ที่รวบรวมมาจากคอมเม้นท์ต่างๆของลูกค้า

“ คอมเม้นท์จากลูกค้า เราจะนำมาสรุปและแก้ไขปรับปรุง Pain Point เพื่อ Boost Happiness ให้ตรงความต้องการของลูกค้า หรือการใช้ Outside In เป็นเมนหลัก เป็นตัวตั้งโจทย์ และปรับ Inside Out เพื่อตอบโจทย์  เพราะประกันชีวิตคือ Service ที่เป็น Long term  ดังนั้น Lifelong Commitment คำมั่นสัญญาตลอดช่วงชีวิต เป็นเรื่องสำคัญมาก  คนของ MTL ต้องมี Mindset ของ Lifelong Commitment ที่มีความเป็นมืออาชีพ  มีองค์ความรู้รอบด้านอย่าง Professional  เพราะลูกค้าไม่ได้ซื้อกรมธรรม์เดียวแล้วจบ  แต่ความต้องการจะเปลี่ยนไปตามช่วงอายุและรายได้  การตอบโจทย์ในเรื่องของ Personalization จึงสำคัญและจำเป็น”

ซึ่งการจะ Boost ความสุขของลูกค้าได้นั้น  ต้องเริ่มจากdki Boost คนของเมืองไทยประกันชีวิต ทั้งพนักงาน ผู้บริหารตั้งแต่บอร์ดไปจนถึงตัวแทน หรือแม้แต่คู่ค้า  ใน 4 Skill หลักๆ ได้แก่ Data & AI Literacy ทักษะการใช้ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์, Sofe Skill ทักษะด้านการสื่อสารและการบริหาร, Collapse Expert Knowledge ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และ Cross-Domain Expert Knowledge ความเชี่ยวชาญในหลายมิติ

โดยคนของเมืองไทยประกันชีวิต พร้อมวางแผนสำหรับทุกช่วงชีวิตลูกค้า ทั้งวางแผนทางการเงิน วางแผนเกษียณ วางแผนสุขภาพ และวางแผนมรดก ด้วยความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งประกันชีวิต ประกันชีวิตแบบบำนาญ ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง ประกันอุบัติเหตุ และประกันชีวิตควบการลงทุน  รวมถึงฟีเจอร์พิเศษที่ปรับแต่งรูปแบบความคุ้มครองได้ ตามช่วงชีวิตของลูกค้า และการเติมเต็มความคุ้มครองที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น (Plus)

ขณะที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ทั้งช่องทางตัวแทน ช่องทางธนาคาร ช่องทางการขายผ่านโทรศัพท์ ช่องทางออนไลน์ และพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ  รวมไปถึงสาขา Call Center 1766  แอปพลิเคชัน MTL Click   เมืองไทยสไมล์คลับ และ MTL Fit   นอกจากนี้ลูกค้ายังได้รับความสะดวกสบายด้วยการทำธุรกรรมทางกรมธรรม์ และบริการหลังการขายไม่ว่าจะเป็นระบบ e-Payment  หรือ  e-Document  

นายสาระ กล่าวถึงนโยบายด้านความยั่งยืนว่า   ธุรกิจประกันชีวิตให้ความคุ้มครองแก่ลูกค้าในระยะยาว เมืองไทยประกันชีวิตจึงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกก้าว  ภายใต้การกำกับดูแลกิจการ และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงการสร้างสมดุลทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม มิติสังคม และมิติบรรษัทภิบาล (ESG)  

โดยเฉพาะในมิติสังคม ยังคงเดินหน้าในการพัฒนาแบบประกันภัยที่ช่วยตอบโจทย์การเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุกคน (Democratize Insurance)  พร้อมสร้างความรู้ด้านการวางแผนการเงินและประกันภัย (Financial & Insurance Literacy) ให้กับประชาชนทั่วไป และการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน 

ด้านมิติสิ่งแวดล้อม  ได้ร่วมสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและบรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนผ่านโลก ประกาศความมุ่งมั่นในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Commitment) ด้วยเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์จากการดำเนินงานของบริษัทฯ  (ขอบแขตที่ 1 และ 2)* ภายในปี 2573 (2030) ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงานภายในบริษัทฯ 

สำหรับนโยบายด้าน Go Reginal นายสาระกล่าวว่า   เมืองไทยประกันชีวิตเป็นพาร์ทเนอร์กับกัมพูชาประเทศแรก ในนาม Sovannaphum Life Assurance มีส่วนแบ่งในตลาด 19% เป็นอันดับ 2 ของธุรกิจประกันชีวิต  ขณะที่ธุรกิจประกันวินาศภัย คือ Dara Insurance  กำไรสุทธิเติบโต 31%   และมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีกมาก

ประเทศต่อมา คือ  สปป.ลาว โดยมีทั้งประกันชีวิต และประกันวินาศภัย ในบริษัท ST-Muang Thai Insurance มีส่วนแบ่งตลาด 63%  โดยธุรกิจประกันชีวิตเป็นอันดับ 1  ส่วนธุรกิจประกันวินาศภัยอยู่ในอันดับ 6

เวียดนาม  เมืองไทยประกันชีวิตร่วมทุนกับ MB Ageas Life  ซึ่งยอมรับว่ามีความท้าทายในเรื่องของความเชื่อมั่นในธุรกิจประกันภัยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา  อย่างไรก็ตามในปี 2567 เริ่มกลับมาฟื้นตัว เบี้ยรวมน่าจะอยู่ในอันดับ 8-9 ของตลาด โดยแบงก์แอสชัวรันส์โตเป็นอันดับ 2 ของตลาด เติบโต 6%