สู่อิสรภาพทางการเงิน…ด้วยอาชีพ“ขายประกัน”  “จิรวัฒน์ ลลิตกิตติกุล” AXA Prime – Leader   

0
56

จากล่ามภาษาญี่ปุ่น ที่อยากพัฒนาตัวเองเพื่อให้มีรายได้เพิ่ม จึงวางแผนเตรียมการไปทำงานที่ญี่ปุ่นประมาณ 2  ปี  
แล้วนำประสบการณ์กลับมาเป็นฐานเพิ่มเงินเดือน  ช่วงเวลา 1 สัปดาห์ระหว่างรอเดินทางไปญี่ปุ่น คุณสแน็ค “จิรวัฒน์ ลลิตกิตติกุล” มีโอกาสได้ร่วมงานกับคนรู้จักใกล้ตัวที่คุณสแน็ค สงสัยมาตลอดว่า ทำงานอะไร ทำไมมีเวลาไปเที่ยวต่างประเทศบ่อยครั้ง ครั้งละนานๆ  และคำตอบที่ได้คือ…งานขายประกันชีวิต 

จากวันนั้น  คุณสแน็ค ได้เรียนรู้  พัฒนาตนเองและทีมงาน จนได้สัมผัสกับคำว่า “อิสรภาพทางการเงิน” ถึงวันนี้ เป็นเวลา 6 ปีเต็ม คุณสแน็ค  ยังคงทำงานกับ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ในตำแหน่ง AXA Prime – Leader ระดับ Platinum ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่น 

ศรัทธาในอาชีพตัวแทนประกันชีวิต ว่าเป็นอาชีพที่มั่นคงและมีเกียรติ เป็นอาชีพแห่งการให้  เชื่อมั่นในองค์กร ว่ามีโครงสร้างรายได้ และโครงสร้างธุรกิจ ที่สนับสนุนและพัฒนาพร้อมการสร้างโอกาสให้ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะคุณวุฒิ AXA Prime สิทธิพิเศษที่เอื้อต่อการทำงาน และการบริการลูกค้าที่มากกว่าโครงสร้างตัวแทนปกติทั่วไป  

เปิดใจและให้โอกาสตัวเองเรียนรู้  

6 เดือนพิชิตคุณวุฒิ AXA Prime  

คุณสแน็ค เริ่มชีวิตการทำงานด้วยการเป็นล่ามภาษาญี่ปุ่น เงินเดือน 40,000 บาท ซึ่งเป็นงานที่สนุกท้าทาย และรายได้ดี  แต่ต้องแลกมาด้วยเวลาที่ต้องติดตามผู้บริหารไปทุกที่ ทั้งในเวลาการทำงาน และนอกเวลาทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวของผู้บริหาร การไปเที่ยวกลางคืนกับนายจนดึกแทบทุกวัน และต้องตื่นแต่เช้าเข้าออฟฟิศไปเตรียมงาน ชีวิตวนเช่นนี้อยู่ประมาณ 1 ปี  ขณะที่การเพิ่มเงินเดือนหรือจ่ายโบนัส ไม่ได้พิจารณาจากผลงานเป็นหลัก แต่ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอีกหลายปัจจัย ทั้งการประเมินจากหัวหน้า ผลการดำเนินงานและกำไรของบริษัท ฯลฯ  

จึงวางแผนชีวิตใหม่ โดยเบนเข็มไปทำงานที่ญี่ปุ่นประมาณ 2 ปี แล้วนำประสบการณ์กลับมาสร้างฐานเงินเดือนที่สูงขึ้น ซึ่งหลังจากสมัครงานและสอบสัมภาษณ์ผ่านแล้ว  ช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเดินทาง   พี่ที่รู้จักได้ชวนให้ไปดูการทำงาน  คุณสแน็ค 
ตอบรับทันที  เพราะรู้จักและติดตามผ่านโซเชียลมีเดียมานาน  และสงสัยมาตลอดว่า พี่เขาทำงานอะไร ทำไมมีเวลาไปเที่ยวครั้งละนานเป็นเดือนๆ   

ช่วงเวลา 1 สัปดาห์ที่ได้ไปร่วมศึกษาการทำงาน  พบว่าทีมงานทำงานขายอย่างเป็นระบบ และมีการช่วยเหลือกันดีมาก ทำงานด้วยกัน มีคอมมิชชั่น  จึงตัดสินใจไม่ไปทำงานญี่ปุ่นและเริ่มงานขายประกันชีวิตกับ บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ทันที  

“ผมตัดสินใจง่ายเลย เพราะตอนนั้นอายุแค่ 25 ปี ถ้าขายประกันแล้วไม่รอด ผมก็กลับไปเป็นล่ามเหมือนเดิม ซึ่งวันนั้นผมตัดสินใจด้วยความมั่นใจ เพราะได้ลองทำแล้ว แค่จำและทำตาม ผมก็ขายได้ เพราะโครงสร้างรายได้ดีมากๆ ถ้าเทียบกับไปทำงานญี่ปุ่น 2 ปีกลับมา เงินเดือนอย่างมากก็แค่ 7-8 หมื่นบาท แต่ถ้าขายประกันไม่ต้องใช้เวลานานขนาดนั้น ผมก็มีรายได้มากกว่านั้น”  

ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนเรื่องรายได้  คุณสแน็ควางแผนการทำงานอย่างละเอียดเป็นขั้นตอน แต่ละสัปดาห์ต้องพบลูกค้าเท่าไหร่ ต้องปิดการขายเท่าไหร่  เมื่อทำได้ตามเป้าแล้วควรเพิ่มเป้าอีกเท่าไหร่ เพราะถ้าหยุดแค่ถึงเป้าก็ได้แค่ตามเป้า แต่ถ้ายิ่งขายก็จะยิ่งได้  เพียง 6 เดือน คุณสแน็คสามารถพิชิตทั้งคุณวุฒิ AXA Prime และ MDRT  

“ผมเริ่มอาชีพตัวแทนประกันชีวิต เดือนมิถุนายน 2562  โดยโฟกัสไปที่คุณวุฒิ MDRT เพราะเป้าหมายรายได้ของคุณวุฒิสูงกว่า AXA Prime  ผมทำงานได้ 6 เดือน  พิชิตทั้ง MDRT และ AXA Prime  ส่วนสำคัญเป็นเพราะโครงสร้างของ AXA Prime สนับสนุนการทำงานทั้งงานขายและบริการลูกค้าได้ดีมากๆ  ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลรายชื่อลูกค้าที่มาเพิ่มตลาดและโอกาสในการทำงาน  ช่องทางพิเศษ Call Center 1159 ติดต่อบริษัทฯ ได้ทันทีไม่ต้องรอคิว  บริการ Fast Track ที่พิจารณารับประกันภัยแบบเร่งด่วน อนุมัติไว ลูกค้าไม่ต้องรอนาน รวมไปถึงการดูแล ตามเคส แก้ไขเคส” 

คุณสแน็ค ลุยทำงานตามแผนอย่างมุ่งมั่นและต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ในความสำเร็จก็มีบางครั้งที่ท้อ บางเคสขายไม่ได้ บางเคสปิดการขายได้แล้วแต่โดนยกเลิกทีหลัง ซึ่ง ผอ. (พี่คนที่ชวนมาทำงาน) สอนวิธีคิดที่คุณสแน็คจำขึ้นใจและใช้สอนทีมงานจนทุกวันนี้   

“เคสที่ผมพยายามแล้ว แต่ยังขายไม่ได้ หัวหน้าสอนผมว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่นักขายทุกคนต้องเจอ ต่อให้ขายเก่งแค่ไหน ก็ต้องมีวันที่ขายไม่ได้ แต่จำไว้นะประเทศไทยมีคนกว่า 70 ล้านคน จะกลัวทำไม ยังมีผู้คนอีกมากที่ไม่เข้าใจประกันชีวิตอย่างถูกต้องและดีพอ ให้มองตรงนั้น นั่นคือโอกาส ยิ่งทุกวันนี้โควิดทำให้ลูกค้าเข้าหาประกันได้ง่ายขึ้น เปิดโอกาสให้เราทำงานได้มากขึ้น” 

“อีกเคสที่ทำให้ท้อมากคือขายได้แล้ว แต่ลูกค้ายกเลิกเพราะแฟนให้ไปทำกับเพื่อนเขาซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทอื่น ผอ. เตือนสติผมว่า อย่าคาดหวังกับลูกค้าเพียงคนเดียว ยังมีลูกค้าดีๆที่รอเราอยู่อีกเยอะ และไม่ใช่ลูกค้าทุกคนที่จะยกเลิก ให้ไปโฟกัสตรงนั้น สำคัญกว่าเยอะ”  

คุณสแน็คสร้างผลงานเติบโตต่อเนื่อง จนได้รับรางวัล “Top New Comer of The Year” รางวัลคุณวุฒิยอดเยี่ยมฝ่ายตัวแทน ประจำปี หรือ KTAXA Agency Annual Awards 2022 

ก้าวสู่ AXA Prime – Leader ระดับ Platinum 

ปั้นทีมงานเป็น AXA Prime – Agent ระดับ Gold ยกทีม  

คุณสแน็ค เล่าว่าโดยส่วนตัวแล้วมีความสุขและสนุกกับงานขายประกัน เพราะปัจจัยสำคัญหลักคือลูกค้า  รู้จักทำการบ้าน ฝึกฝน ตั้งใจ อดทน เตรียมงานและนำเสนอให้ลูกค้าเข้าใจ ปิดการขายได้ทุกอย่างก็จบ  ขณะที่งานบริหารงานขายแม้จะมีรายได้มากกว่า แต่ก็มีความเครียดกว่ามาก เพราะมีทีมงานมีเรื่องบริหารคนเข้ามาเกี่ยวข้อง   

จนกระทั่งวันหนึ่งมาถึงจุดเปลี่ยน เมื่อคุณสแน็คป่วย ต้องเข้ารับการผ่าตัด หยุดงานเพียง 1 สัปดาห์ รายได้หาย คุณสแน็คบอกตัวเองว่า ไม่ได้แล้วต้องเปลี่ยนความคิด ต้องสร้างทีมงาน ทำงานให้เหมือนร้านสะดวกซื้อ  คือมีสาขาให้มากเข้าไว้ เมื่อสำนักงานใหญ่เกิดเหตุฉุกเฉิน ก็ยังมีรายได้จากสาขาอย่างต่อเนื่อง  

คุณสแน็คคัดเลือกทีมงาน โดยให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์งานขาย และอายุน้อยกว่า เพราะรู้ตัวเองว่าเป็นคนจริงจัง สอนแบบคุณครูสมัยก่อน และมั่นใจว่าเป็นกลยุทธ์เงินเลือกคน คือเลือกคนที่ตั้งใจเรียนรู้จริง อดทน ซื่อสัตย์ มีความกล้า ดูแลลูกค้าอย่างดี และมีความพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองไปสู่นักขายที่เก่งแบบมืออาชีพ   

“ผมสอนทีมงานแบบคุณครูสมัยก่อน คือ  มีการสอนจริงจัง มีการดุกันบ้างตามความเหมาะสม ผมยอมให้ทีมงานเกลียดเพื่อให้เขาเก่ง แกร่ง และมีรายได้ ไม่ได้อยากให้ลูกทีมรักแล้วเขาขาดรายได้ ผมบอกทุกคนก่อนเสมอว่า ผมดุนะ โหดนะ และทำงานจริงจังแบบไม่เน้นปริมาณคน แต่เน้นว่าถ้าเป็นทีมผมต้องมีคุณภาพ มีรายได้มากกว่าเป้าที่คุณตั้งไว้  จึงเป็นเหตุผลที่ผมเลือกคนใหม่ๆไม่มีประสบการณ์งานขาย เพราะคนที่มีประสบการณ์หรือขายเก่งๆระดับ Top ไม่ว่าประกันหรืองานขายอื่นจะมาพร้อมกับความเป็นอัตตาสูง และที่เลือกคนอายุน้อยกว่า เพราะเรียนรู้ได้เร็ว มีเวลาในชีวิตพอที่จะกล้าเสี่ยง กล้าลุยไปด้วยกัน”  

กลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ทีมงานทุกคนเติบโต คือ การดับเบิ้ลเป้าหมาย โดยแต่ละคนต้องกำหนดเป้าหมายในการทำงานของตัวเอง จากนั้นคุณสแน็คจะดับเบิ้ลเป้าเข้าไป  พร้อมแนะนำเทคนิคและวิธีการ ทำตามสเต็ป 1 2 3  คุณสแน็คบอกถึงเหตุผลที่ต้องดับเบิ้ลเป้า ว่าถ้าทำตามเป้าผลที่ได้จะมีแค่ถึงเป้ากับไม่ถึง แต่ถ้าดับเบิ้ลเข้าไป ต่อให้ไม่ถึงเป้าหมายที่เบิ้ลไว้ อย่างน้อยก็ต้องทะลุเป้าหมายแรก”   

“ทุกเย็นผมจะนัดทีมงานประชุม เพื่อสรุปงาน ช่วยทีมงานแก้ปัญหา และวางแผนเตรียมงานเพื่อให้เป็นไปตามเป้า โดยผมทำให้ทีมเห็นก่อนว่าผมทำได้ ถ้าผมยังขายได้อยู่แสดงว่าตลาดยังไม่ตัน ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่ตลาด อยู่ที่เราต้องช่วยกันวางแผนและปรับการทำงานกันมากกว่า” 

เพียง 1 ปี คุณสแน็ค ก้าวขึ้นสู่ AXA Prime – Leader ระดับ Platinum  พร้อมนำพาทีมงานทั้ง 15 คน ติดคุณวุฒิ AXA Prime – Agent ระดับ Gold ยกทีม 

ซึ่งระดับ AXA Prime – Agent ระดับ Gold ต้องมีคุณสมบัติครอบคลุม ทั้งเป็นสมาชิก MDRT ต้องมี IC License, Mastery of Health และ Mastery of Protection ซึ่งต้องคงอัตราความยั่งยืนกรมธรรม์ให้ได้ตามเป้าหมาย  

“ตอนผมขึ้นผู้จัดการตัวแทน ได้คุณวุฒิ AXA Prime – Leader รายได้ผมเลยคุณวุฒิ MDRT ไปแล้ว จึงพุ่งเป้าหมายต่อไปที่ คอนเวนชั่นของ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ที่ต้องทำผลงาน 100% แต่ผมทำ 200% และให้ทีมงานตั้งเป้า 200% เช่นกัน เพื่อทุกคนจะได้ไปเที่ยวต่างประเทศฟรีพร้อมคนในครอบครัวไปด้วย 1 คน  ซึ่งทีมงานทุกคนทำผลงานได้ 200%”   

“ผมสัมผัสและเข้าใจคำว่า อิสรภาพทางการเงิน อย่างแท้จริงเมื่อมาอยู่ในอาชีพนี้กับบริษัทนี้ เพราะสามารถวางแผนการทำงานด้วยความมั่นใจว่าจะได้เงินจากไหน อย่างไร   โดยโครงสร้างการทำงานของบริษัทซัพพอร์ตให้เข้าถึงอิสรภาพทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว ตามความสามารถของผมจริงๆ”  

ขายประกัน…อาชีพที่มั่นคงและภูมิใจ  

นอกจากทรัพย์สิน เงินทอง และอิสรภาพทางการเงินแล้ว กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ยังให้ความมั่นคงและความภูมิใจในอาชีพ คุณสแน็คบอกว่า  ทุกวันนี้แทบจะไม่มีอาชีพไหน ที่สามารถหารายได้เดือนละเป็นล้าน  อาจจะมีอยู่บ้าง แต่ก็เป็นอาชีพที่ต้องลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่  ขณะที่ตัวแทนประกันชีวิต สามารถมีรายได้เท่ากับหรือสูงกว่า โดยไม่ต้องลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่  แต่ลงทุนด้วยการพัฒนาความสามารถ ความพยายาม อดทน และทำตามโครงสร้างที่ผู้นำและบริษัทกำหนดมา ทุกอย่างจะรันและเติบโตตามระบบไปได้เอง  

“บ้านหลังนี้ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต บ้านที่ผมไม่ต้องใช้เงินลงทุนมากมาย  แต่สามารถสร้างธุรกิจของตัวเองได้ ถึงวันนี้ 6 ปีแล้ว ผมยิ่งศรัทธาและเชื่อมั่นในอาชีพมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงโควิด19  ตอกย้ำว่าขายประกันเป็นอาชีพที่มั่นคงที่สุด เพื่อนๆผมที่เคยมีรายได้ต่อเป็นแสน ไม่ว่าจะเป็นนักบิน แอร์ ล่าม หรือในองค์กรธุรกิจใหญ่ๆ โดนลดเงินเดือนบ้าง โดนให้ลาออกบ้าง แต่ผมกลับขายงานได้มากขึ้น เพื่อนๆและคนรู้จักติดต่อผ่านโซเชียลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”  

นอกจากนี้ยังเป็นอาชีพที่สร้างความภูมิใจ ที่ได้ช่วยเหลือลูกค้าให้ได้รับประโยชน์จากกรมธรรม์ประกันชีวิต ถึงแม้ว่าลูกค้าจะทำประกันด้วยเหตุผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอยากช่วย หรือเอ็นดูในความพยายาม แต่ที่สุดแล้วเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ลูกค้าก็ได้รับความคุ้มครอง และชีวิตดำเนินต่อไปได้  

“ตอนผมขายใหม่ๆ เสนอขายโรคร้ายแรงให้ลูกค้า ด้วยทุนประกัน 1 ล้าน แต่ลูกค้าตอบว่าใช้สิทธิ์ข้าราชการได้ ผมพยายามอธิบายให้เห็นว่าประกันจะช่วยเสริมได้อย่างไร ใช้เวลา 4 ชม. ในการพรีเซนต์  ในที่สุดลูกค้าคงสงสารและเอ็นดูในความพยายาม ตกลงเซ็นกรมธรรม์ แล้ววันหนึ่งลูกค้าก็ป่วยด้วยโรคร้ายจริงๆ  ลูกค้าขอบคุณผมที่ผมอดทน และทำให้เขามีเงิน เก็บไว้ให้ลูกเรียนต่อ  เป็นอีกเคสที่ผมภูมิใจ และดีใจที่พยายามถึง 4 ชม.ในวันนั้น”  

เป้าหมายต่อไป AXA Prime – GA  

คุณสแน็ค ตั้งเป้าหมายกับตัวเองไว้ว่า เมื่อถึงอายุ 34 หรือ 35 (ปัจจุบัน 32) จะมีสำนักงาน(GA) เป็นของตัวเอง  โดยทำหน้าที่บริหารงานขาย นั่นหมายความว่า  ไม่ใช่เพียงสร้างเฉพาะสายตรง แต่ต้องดูแลทั้งมวลรวม ให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของ GA ที่บริษัทฯกำหนด โดยมีทีมงานที่ติดคุณวุฒิ AXA Prime – Agent  8 คน และติดคุณวุฒิ  AXA Prime – Leader 3 คน  ซึ่งการสร้างคนจากนักขายให้ขึ้นสู่บริหารงานขายไม่ใช่เรื่องง่าย  

“การสอนคนให้มีความอยาก ยากที่สุด เพราะบางคนพอใจในสิ่งที่ได้อยู่แล้ว ผมต้องทำให้รู้สึกว่าเขายังทำได้อีก ผมชอบสอนงานมากๆ เหนื่อยแค่ไหนก็สอนได้ แต่สอนให้อย่าหยุดความพยายาม ยังไปต่อได้ สอนยากกว่า”    

อย่างไรก็ตาม คุณสแน็คใช้ประสบการณ์เจ็บป่วยที่ทำให้เปลี่ยนแนวคิดจากนักขายมาเป็นผู้บริหารงานขาย มาเป็นกลยุทธ์ในการสอนทีมงาน  บอกทุกคนเสมอว่าถึงตอนนี้ยังแข็งแรง ยังสนุกกับงานขาย แต่ต้องไม่ลืมที่จะวางแผนเผื่ออนาคต เพราะไม่มีใครแข็งแรงพอที่จะขายงานได้ตลอดไป   แต่การเติบโตจากตัวแทนขึ้นระดับผู้จัดการ การเรียนรู้การบริหารงานขาย และการสร้างคน จะเข้ามาสนับสนุน ช่วยให้ไม่สูญเสียรายได้เมื่อถึงวันที่ร่างกายไม่พร้อม     

“ผมขอเวลาสร้างคน ตอนนี้ในทีมมี AXA Prime – Agent 15 คน AXA Prime – Leader  2 คน  ถึงแม้จะยาก แต่ผมเชื่อมั่นในหัวหน้า เชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อมั่นในทีมงาน และเชื่อมั่นในโครงสร้างการทำงานของบริษัทฯ ว่าทุกส่วนจะสนับสนุนให้ผมไปถึง AXA Prime – GA ได้ตามเป้าหมาย” คุณสแน็ค กล่าวสรุป