เคทีซีผนึกพันธมิตร บุกตลาดท่องเที่ยวไทย พร้อมรับนักท่องเที่ยวเต็มสตรีมช่วงไฮซีซั่น

0
56

เคทีซีจัดเสวนาออนไลน์ “เคทีซีผนึกพันธมิตรธุรกิจ ร่วมบุกตลาดท่องเที่ยวไทยเต็มสตีม” เพื่อทราบถึงทิศทางและการเตรียมความพร้อมของธุรกิจท่องเที่ยวไทยรองรับการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว

นางสาวเจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการ – การตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงพฤติกรรมการท่องเที่ยวของสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีว่า มีความต้องการและคาดหวังกับการท่องเที่ยว พร้อมจ่ายเงินทริปส่วนตัวด้วยระยะเวลาทริปที่ยาวนานขึ้น เคทีซีจึงเตรียมความพร้อมให้บริการผ่าน KTC World Travel Service ตลอด 24 ชั่วโมง  พร้อมจัดทำ Platform Domestic Travel Hub ภายใต้ concept “หา เรื่อง เที่ยว” เพื่อเป็นแหล่งรวม “เรื่องราว” “ประสบการณ์” และ “โปรโมชัน” ด้านการท่องเที่ยว อาทิ ที่พัก ตั๋วเครื่องบิน แพ็กเกจทัวร์ บัตรเข้าชมกิจกรรมต่างๆ รถเช่า และประกันภัยการเดินทาง โดยเน้นการเดินทางท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรอง รวมถึงชุมชนต่างๆ กว่า 40 พื้นที่ทั่วประเทศไทย

นางสาวเจนจิต ลัดพลี ผู้อำนวยการ – การตลาดเพื่อการท่องเที่ยวและสันทนาการ “เคทีซี”

และในส่วนของพันธมิตรธุรกิจ ได้จัดแคมเปญ “เที่ยว อยู่ ได้” เพื่อ ช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยทางเคทีซีให้การสนับสนุนด้านสื่อประชาสัมพันธ์ รวมถึงสิทธิประโยชน์ในด้านการส่งเสริมการขายอีกด้วย

นายโชติช่วง ศูรางกูร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่มสาวทัวร์ จำกัด และอุปนายก สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า  ปัจจุบันผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในการเดินทางมากขึ้น แม้ภาพรวมของประเทศจะยังไม่พร้อม แต่ธุรกิจท่องเที่ยวต้องเตรียมพร้อมเสมอ ซึ่งส่วนใหญ่เป็น SME จึงขยับตัวได้คล่องแคล่ว  กล้าลงทุนและพยายามเดินหน้าต่อไป โดยนักท่องเที่ยวจะเป็นกลุ่ม Medium-to-High End Market  ที่ต้องการความ Premium ในการท่องเที่ยวมากขึ้น  

นายโชติช่วง ศูรางกูร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่มสาวทัวร์ จำกัด และอุปนายก สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.)

สำหรับหนุ่มสาวทัวร์สร้างความแตกต่าง ด้วย Value ที่ยั่งยืน ด้วยการศึกษาเข้าใจพฤติกรรมตลาด รู้ Insight ของลูกค้า เพื่อนำเสนอรายการที่โดนใจ เช่น ทัวร์วันเดย์ สำหรับคนที่ยังกล้าๆ กลัวๆ การออกไปเที่ยว ทัวร์ Silver age  และ Web-based app “NS Connect” ที่ให้บริการลูกค้าแบบเป็นดิจิตอลมากขึ้น  รวมไปถึงการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อช่วยกันเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายโอกาสทางธุรกิจ

นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม  Head of Commercial สายการบินไทยเวียตเจ็ท กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ของไทยเวียตเจ็ทเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น จากนโยบายที่ผ่อนปรน และเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจึงมีการตอบรับดี เห็นได้จากยอดจองที่เพิ่มขึ้นและจำนวนผู้โดยสารอยู่ในระดับสูงกว่า 80% เกือบจะเท่ากับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19

นายปิ่นยศ พิบูลสงคราม  Head of Commercial สายการบินไทยเวียตเจ็ท

โดยเป้าหมายหลักของเราคือการพัฒนาบริการ และการให้ประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้โดยสาร หรือ CUSTOMER EXPERIENCE ด้วยกลยุทธ์ ดังนี้ 1) การปรับเปลี่ยนเครือข่ายและเส้นทางการบิน เพื่อตอบรับกับสถานการณ์ของตลาดในปัจจุบัน 2) การพัฒนาด้านนวัตกรรม เช่น ระบบคะแนนสะสม Loyalty Program : FunCoin การสร้างเครือข่ายการขนส่ง หรือ Cargo ในประเทศจีน และการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ และ 3) ความปลอดภัย โดยยึดหลักปฏิบัติตามกฎการเดินทางทางอากาศสากล และแนวทางความปลอดภัยด้านสุขอนามัย

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า   “สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรีเป็นตัวแทนภาคเอกชนทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของทุกสมาคมท่องเที่ยวในจังหวัด เพื่อประสานงานและขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท) และสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา (ทกจ) โดยเรื่องหลักคือ เรื่องการเปิดเมืองพัทยา การจัดกิจกรรม และโปรโมชันต่างๆ เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังจังหวัดชลบุรี

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดชลบุรี

“นักท่องเที่ยวไทยเดินทางมาชลบุรีมากขึ้นประมาณ 30-40% ในวันหยุดโดยมีอัตราการเข้าพักเพิ่มเป็น 60% และ 80% สำหรับวันหยุดยาว  ขณะที่โรงแรมเปิดให้บริการเพียง 30-40% โดยโรงแรมขนาดเล็กส่วนใหญ่ยังคงปิดกิจกา  สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมีเพียง 2-3% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนวิกฤตโควิด-19 (ปกติช่วง high season เรามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือนละประมาณ 1 ล้านคน) จากปัญหาอุปสรรคต่างๆ เช่น การขอ COE (Certificate of Entry) การตรวจ RT PCR หลายครั้ง รวมถึงข้อบังคับเรื่องการซื้อประกัน ดังนั้นแม้จะเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 แต่ภาคเอกชนคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังคงเข้ามาไม่มากนัก”

นายวุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ นายกสมาคมสวนสนุกและสวนพักผ่อนหย่อนใจแห่งประเทศไทย (TAPA) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามพาร์คซิตี้ จำกัด ผู้บริหารสวนน้ำ สวนสนุก สยาม      อะเมซิ่งพาร์ค “สวนสยาม” กล่าวว่าถึงภาพรวมของสวนสนุกทั่วโลกว่า ในประเทศที่มีตลาดใหญ่ๆ เช่น  สหรัฐอเมริกา  ยุโรป หรือ จีน มีการเติบโต เพราะนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวในประเทศโดยไม่ต้องกักตัว เมื่อ Travel Restrictions หรือข้อจำกัดการเดินทางน้อยลง  การท่องเที่ยวก็มีแนวโน้มที่จะกลับสู่สภาวะปกติได้ในปี  2566 

นายวุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ นายกสมาคมสวนสนุกและสวนพักผ่อนหย่อนใจแห่งประเทศไทย (TAPA) และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามพาร์คซิตี้ จำกัด ผู้บริหารสวนน้ำ สวนสนุก สยามอะเมซิ่งพาร์ค“สวนสยาม”

สำหรับสยาม อะเมซิ่งพาร์ค(สวนสยาม) มีการปรับตัวเพื่อให้ธุรกิจดำเนินการต่อไปได้  เช่น จำหน่ายบัตรล่วงหน้าราคาพิเศษ   ขายบัตรออนไลน์    เพิ่มช่องทางการชำระเงินแบบ  e-payment   การร่วมมือกับพันธมิตรเช่น เคทีซี ในการขยายฐานกลุ่มลูกค้า การลดค่าใช้จ่าย  รวมถึงการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ได้แก่  โครงการ  Bangkok World  แหล่งชิม ช้อป เที่ยว ที่เดียว แบบ One Stop Service ที่กำลังดำเนินการอยู่ นอกจากนี้  ยังได้มีการนำเทคโนโ ลยีหรือแพลตฟอร์มต่างๆ  เข้ามา เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและรองรับพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป

นายอติรัตน์ ด่านภัทรวรวัฒน์ เจ้าของแพ 500 ไร่ และนายกสมาคมการค้าธุรกิจที่พักบูติกไทยกล่าวว่า ภาพรวมของที่พักโรงแรมบูติกไทยมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นเกือบเทียบเท่าช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19  ซึ่งโรงแรมบูติกที่คนไทยนิยม พื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่ น่าน เชียงคาน เชียงราย แม่ฮ่องสอน และพะเยา พื้นที่ภาคตะวันตก ได้แก่ หัวหินและปราณบุรี พื้นที่ภาคตะวันออก ได้แก่ บ้านกรูดและตราด และพื้นที่ภาคใต้  ได้แก่              เชี่ยวหลาน ขนอม และสิชล โดยคาดว่าโรงแรมบูติกไทยจะมีทิศทางที่ดีขึ้น เพราะตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวยุคใหม่  ในส่วนของแพ 500ไร่ เน้นการปรับจากพื้นฐานภายใน เช่น ต้นทุน รูปแบบบริการใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ตามกระแส รวมถึงสร้างความมั่นใจในด้านสุขอนามัย

นายอติรัตน์ ด่านภัทรวรวัฒน์ เจ้าของแพ 500 ไร่ และนายกสมาคมการค้าธุรกิจที่พักบูติกไทย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่