เมย์แบงก์ ผนึก บีเอ็นวาย เมลลอน ไอเอ็ม  ยกระดับบริการ-สร้างการลงทุนที่เท่าเทียม 

0
111

บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST ถือหุ้นโดย เมย์แบงก์ ธนาคารอันดับ 1 ของมาเลเซีย เดินหน้าธุรกิจที่ปรึกษาการลงทุนที่หนึ่งในใจคนไทย ชูกลยุทธ์มุ่งสร้างโอกาสการลงทุนที่เท่าเทียม พร้อมเร่งเครื่องปรับการทำงานสู่องค์กรรุ่นใหม่ สร้างผู้บริหารนิวเจน ต่อยอดความเชี่ยวชาญด้วยบริการรูปแบบดิจิทัลเวลท์ ให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลการลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา ล่าสุดผนึกยักษ์ใหญ่ที่ปรึกษาการลงทุนระดับโลก บีเอ็นวาย เมลลอน ไอเอ็ม ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนทั่วโลกมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เสริมความแข็งแกร่งด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางร่วมบริหารความมั่งคั่ง ยกระดับพอร์ตลูกค้าสู่การลงทุนแบบไร้พรมแดน

นายอารภัฏ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) หรือ MST กล่าวว่า เมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิตอล ความต้องการด้านการลงทุนของลูกค้าเปลี่ยนไป ซึ่ง MST มองเห็นโอกาสในการใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งต่อข้อมูลและเพิ่มโอกาสการลงทุนให้กับทุกคนได้อย่างเท่าเทียม จึงเดินหน้าปรับองค์กรภายใต้แนวคิด “Opportunity of Change” มุ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยมุ่งพัฒนาใน 3 ด้าน ได้แก่

  1. ภาพลักษณ์ (New Brand) โดย Rebranding เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ปรับภาพลักษณ์ให้ดูสดใส  เน้นสร้างแรงบันดาลใจเชิงบวก แต่ยังคงความเป็นมืออาชีพที่น่าเชื่อถือ
  2. การบริหารงานในองค์กร (New Team and Culture) โดยเปิดรับคนรุ่นใหม่เข้าสู่องค์กรจำนวนมาก ด้วยโครงการสร้างการทำงานที่ยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ต่างๆได้มีประสิทธิภาพ  ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมสไตล์พื้นที่เปิดเพื่อเอื้อให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังคงเน้นความเป็นมืออาชีพสูงสุด
  3. การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ (New Investment Solutions) ที่ตอบโจทย์ตรงใจนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการการลงทุนแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งลูกค้ารายบุคคลและลูกค้าสถาบัน  ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่งคั่งและความยั่งยืนให้กับลูกค้าได้ 

ในส่วนของการบริการได้พัฒนาแอปพลิเคชั่น “Maybank Invest (MBI)” ตัวช่วยให้ลูกค้าสามารถลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆได้ครบจบใน Application เดียว ครอบคลุมทั้ง หุ้น, กองทุน, ตราสารหนี้  และอื่นๆมากมาย ทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังจะมีการนำข้อมูลของลูกค้าในส่วนต่างๆ ผ่านระบบประมวลผลอัจฉริยะ (AI) เพื่อให้นักลงทุนจัดพอร์ตการลงทุนได้อย่างเหมาะสม และเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุนได้ตรงตามความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด หลากหลายฟังก์ชันด้านการลงทุน เพื่อตอบสนองทุกความต้องการ และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดใช้บริการได้อย่างเป็นทางการภายในช่วงไตรมาสสามของปีนี้

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายทางธุรกิจที่มุ่งสู่ความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาใน 3 มิติ ได้แก่ การลงทุนที่มั่งคั่งอย่างยั่งยืน ผ่านการให้ความรู้ด้านการลงทุนที่ถูกต้องและปลอดภัยทั้งแก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไป การดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด การสร้างสังคมที่น่าอยู่และยั่งยืน โดยเราสนับสนุนเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนผ่านการลงทุนในธุรกิจที่ไม่สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างการตระหนักรู้ในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมในองค์กร ทั้งนี้ ได้มีการวัดผลด้านความยั่งยืนในระดับโลกภายใต้ธุรกิจในเครือเมย์แบงก์ทั้งหมด

สำหรับการประกาศความร่วมมือกับ บีเอ็นวาย เมลลอน ไอเอ็ม (BNY Mellon IM) พันธมิตรด้านการลงทุนระดับโลก  ความร่วมมือครั้งนี้ BNY Mellon IM จะส่งมอบความเชี่ยวชาญระดับโลกให้แก่ลูกค้า ผ่านการพัฒนาบริการด้านโมเดลพอร์ตการลงทุน โดยนำเสนอพอร์ตการลงทุน 5 พอร์ตฯ ที่มีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกัน และอีก 5 พอร์ตที่มีระดับความผันผวนที่แตกต่างกัน  โดย BNY Mellon IM จะให้การสนับสนุน MST  ในการสร้างและดูแลโมเดลพอร์ตการลงทุน ซึ่งรวมถึงการกระจายทรัพย์สิน การบริหารความเสี่ยง และการคัดเลือกผู้จัดการ ซึ่ง เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จะใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญดังกล่าวในการคัดเลือกและปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับลูกค้าในตลาดประเทศไทย

“ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจบริการให้คำปรึกษาการลงทุนและการบริหารความมั่งคั่ง เสริมให้ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) มีความพร้อมในการนำเสนอข้อมูลทางเลือก เพิ่มคุณค่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ช่วยให้พัฒนาธุรกิจการจัดการความมั่งคั่งและการลงทุน เดินหน้าตามวิสัยทัศน์สู่การเป็นที่ปรึกษาการลงทุนที่หนึ่งในใจคนไทย” นายอารภัฏ กล่าวสรุป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่