เวียตเจ็ทไทยแลนด์ เตรียมรับมอบโบอิ้ง 737-8 เพิ่มอีก 50 ลำรองรับการเปิดเส้นทางการบินใหม่ทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมต่อเมืองหลัก–เมืองรอง กับเมืองสำคัญทั่วเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และเวียดนาม ดันไทยสู่ศูนย์กลางการบินอาเซียน #เวียตเจ็ทไทยแลนด์ #ขยายฝูงบิน#เปิดเส้นทางบินใหม่ #ฮับการบินอาเซียน
สายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์ เดินหน้ากลยุทธ์เติบโตเชิงรุกปี 2568–2571 ขยายฝูงบิน เพิ่มเครือข่ายเส้นทางบิน ลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อมุ่งสู่ความยั่งยืน พร้อมยกระดับประสบการณ์ผู้โดยสาร ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการบินและการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน
เวียตเจ็ทไทยแลนด์ เตรียมรับมอบอากาศยานใหม่ โบอิ้ง 737-8 เพิ่มอีก 50 ลำ โดยเครื่องลำแรกมีกำหนดส่งมอบในเดือนตุลาคม 2568 เพื่อรองรับการเปิดเส้นทางการบินใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเชื่อมต่อเมืองหลัก–เมืองรองในไทยกับเมืองสำคัญทั่วเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย และเวียดนาม
นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเวียตเจ็ทไทยแลนด์ กล่าวว่า เวียตเจ็ทไทยแลนด์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งรายได้ ปริมาณผู้โดยสาร และเครือข่ายเส้นทางบิน สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นจากผู้โดยสารและคู่ค้า ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบาย ราคาคุ้มค่า และตรงเวลา ซึ่งการขยายฝูงบินครั้งนี้ไม่เพียงรองรับความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น แต่ยังยกระดับศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางการบินและการท่องเที่ยวในภูมิภาค
“การขยายฝูงบินทั้งในระยะสั้นและกลาง และการเตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ๆ ที่ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะช่วยให้เวียตเจ็ทไทยแลนด์เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลว์คอสต์ที่รุนแรง และสร้างความพร้อมให้ไทยก้าวสู่การเป็นฮับการบินในภูมิภาค ที่สำคัญจะสร้างงานกว่า 4,000 – 5,000 ตำแหน่ง ครอบคลุมนักบิน พนักงานต้อนรับ พนักงานภาคพื้นดิน และฝ่ายวิศวกรรม ควบคู่ไปกับการยกระดับด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม”
คุณปิ่นยศ พิบูลสงคราม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์ กล่าวว่า เวียตเจ็ทไทยแลนด์รักษาอัตราการเติบโตของผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรง ด้วยจุดแข็งด้านบริการคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ ตอบสนองความต้องการของนักเดินทางยุคใหม่ ทำให้มีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นและขยายตลาดใหม่ๆได้
สำหรับปี 2568 เวียตเจ็ทไทยแลนด์เตรียมเปิดเส้นทางใหม่ กรุงเทพฯ–โซล เดือนตุลาคม กรุงเทพฯ–โกลกาตา เดือนพฤศจิกายน กรุงเทพฯ–โตเกียว (นาริตะ), กรุงเทพฯ–โอซาก้า (คันไซ) และกรุงเทพฯ–อาห์เมดาบัด ในเดือนธันวาคม เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดเกาหลี ญี่ปุ่น และอินเดีย ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเตรียมมอบบริการด้านความบันเทิงบนเที่ยวบิน (In-Flight Entertainment) อีกด้วย
คุณสญาดา เบญจกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ กล่าวว่า การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ต้องเติบโตเชิงเศรษฐกิจไปพร้อมกับสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยเวียตเจ็ตไทยแลนด์ทำโครงการด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา การสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น รวมถึงร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย ‘Fly Green’ ที่มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างวัฒนธรรมองค์กรสีเขียว ดูแลโลกอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ยังตอกย้ำพันธกิจด้านความยั่งยืน ศึกษาและส่งเสริมการใช้ Sustainable Aviation Fuel (SAF) ควบคู่กับการนำเครื่องบินรุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น A321neo และ Boeing 737-8 ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึง 15–20% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม