แกร็บ ผนึก 7 พันธมิตร เดินหน้า “Grab EV” หวังปี 2568 คนขับเข้าถึงรถ EV 8,000 คัน

0
154

แกร็บ ประเทศไทย ร่วมมือ 7 พันธมิตร เดินหน้า “Grab EV” เพิ่มจำนวนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในกลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บให้ได้ 10% ในปี 2569 พร้อมเปิดตัว 2 โปรแกรมใหม่ช่วยให้คนขับเข้าถึง EV ได้ง่ายขึ้น ได้แก่ ‘ผ่อนขับรับรถ’ (Drive-to-Own) สินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้าแบบผ่อนจ่ายรายวัน และ ‘เช่าครบจบบนแอป’ (End-to-End EV Bike Rental) เช่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าราคาเริ่มต้นวันละ 125 บาท

นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บตระหนักถึงบทบาทในการป้องกันและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมส่งเสริมให้คนในวงจรธุรกิจมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาและบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยประกาศเป้าหมายเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายด้านความยั่งยืนภายใต้แนวคิด Triple Bottom Line  สำหรับประเทศไทย มีการผลักดันและส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการ ‘Grab EV’ ที่มุ่งส่งเสริมให้พาร์ทเนอร์คนขับ-ผู้จัดส่งอาหารหันมาใช้รถ EV โดยตั้งเป้าให้มีจำนวนผู้ใช้รถ EV ให้ได้จำนวน 10% ของพาร์ทเนอร์ทั้งหมดภายในปี 2569

ปัจจุบันแม้พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บมีความสนใจเปลี่ยนมาใช้ EV สูงถึง 85%  แต่ยังมีหลายข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นราคารถที่ค่อนข้างสูง สมรรถนะรถที่ไม่ตอบโจทย์การให้บริการ ระบบโครงสร้างและสถานีชาร์จที่ยังไม่เพียงพอ แกร็บจึงผนึกความร่วมมือกับ 7 พันธมิตรในแวดวง EV ประกอบด้วย Rever Automotive, H SEM Motor, STROM, Swap & Go, Auto Drive EV, EV Station PluZ, และ Moove ขับเคลื่อนโครงการ Grab EV เปิดตัว 2 โปรแกรมใหม่ ‘ผ่อนขับรับรถ’ และ ‘เช่าครบจบบนแอป’ ที่จะช่วยปลดล็อกและทำให้พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บสามารถเข้าถึง EV ได้ง่ายขึ้น

“ความร่วมมือครั้งนี้คาดว่าจะช่วยให้พาร์ทเนอร์คนขับสามารถเข้าถึง EV ได้ไม่ต่ำกว่า 8,000 คันภายในปี 2568  โดยผู้ใช้บริการสามารถร่วมรักษ์โลกผ่านฟีเจอร์  ‘Grab EV rides’ ที่พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสค้นหารถ EV ในพื้นที่และช่วงเวลานั้นๆ มาให้บริการเป็นตัวเลือกแรก”

นางสาวเมธิณี อนวัชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจการเดินทางและบริหารพาร์ทเนอร์คนขับ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บทำโครงการนำร่องส่งเสริมการใช้ EV มาตั้งแต่ปี 2563 โดยศึกษาพฤติกรรมการใช้งานและความต้องการของพาร์ทเนอร์คนขับมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เข้าใจปัญหาและข้อจำกัดของผู้ใช้งานจริง และข้อมูลไปพัฒนาโครงการ Grab EV เพื่อให้กลุ่มพาร์ทเนอร์คนขับเข้าถึงได้มากขึ้น

“แกร็บ เป็นตัวกลางเชื่อมโยง บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่าย EV  ผู้ให้บริการสถานีชาร์จและระบบบริหารจัดการชาร์จแบตเตอรี สถาบันการเงิน เพื่อแชร์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์การใช้งานของพาร์ทเนอร์คนขับ อาทิ  การพัฒนาฟังก์ชันและคุณสมบัติของ EV ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้เหมาะกับรูปแบบการให้บริการ การระบุตำแหน่งสถานีชาร์จหรือจุดสลับแบตเตอรีในบริเวณที่มีผู้ใช้บริการหรือพาร์ทเนอร์คนขับหนาแน่น เป็นต้น”

นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับพันธมิตรหลักในการพัฒนา 2 โปรแกรมใหม่ เพื่อทลายข้อจำกัดในด้านการเงิน หนึ่งในอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงรถ EV ของพาร์ทเนอร์คนขับ ดังนี้ 

  • โปรแกรม “ผ่อนขับรับรถ” (Drive-to-Own)  โดยร่วมกับ Moove ผู้ให้บริการด้านสินเชื่อยานยนต์ และ Rever Automotive ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD เปิดโอกาสให้พาร์ทเนอร์คนขับเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า ให้บริการรับส่งผู้โดยสาร โดยไม่ต้องใช้ประวัติทางการเงิน แต่จะพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากประวัติในการให้บริการกับแกร็บ  
  • ระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน โดยพาร์ทเนอร์คนขับไม่ต้องวางเงินดาวน์ และผ่อนจ่ายแบบรายวันผ่านการหักรายได้จากการให้บริการในแต่ละวัน  นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น ฟรีค่าซ่อมบำรุงรถ ครอบคลุมการทำประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพและประกันชีวิตให้กับพาร์ทเนอร์คนขับ

ทั้งนี้ จะเริ่มเปิดให้พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บจองรถยนต์ไฟฟ้าจาก BYD ในช่วงต้นปี 2567  โดยคาดว่าพาร์ทเนอร์คนขับสามารถเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้า 5,000 คันภายในปี 2568 

  • โปรแกรม “เช่าครบจบบนแอป” (End-to-end EV Bike rental)  โดยแกร็บผนึกความร่วมมือกับ 3 ผู้ผลิตชั้นนำรถยนต์ และผู้นำแพลตฟอร์มสลับแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า อันได้แก่ STROM, H SEM Motor และ Swap & Go เพื่อให้บริการเช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสำหรับพาร์ทเนอร์คนขับที่ให้บริการจัดส่งอาหารผ่าน GrabFood จัดส่งพัสดุผ่าน GrabExpress หรือรับส่งผู้โดยสารผ่าน GrabBike โดยมีอัตราค่าเช่าเริ่มต้นเพียง 125 บาทต่อวัน พร้อมสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การสลับแบตเตอรีได้ไม่จำกัดรอบตลอด 24 ชั่วโมง การจัดหาอุปกรณ์เสริม เช่น ตะแกรงท้าย ที่วางโทรศัพท์มือถือ และสายชาร์จแบตเตอรีสำหรับชาร์จไฟที่บ้านหรือที่สถานี การจัดหารถสำรองให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน รวมถึงสนับสนุนค่าบำรุงรักษารถ การทำประกันรถยนต์ชั้น 3+ พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้คำแนะนำตลอดการใช้งานโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

โดยคาดว่าโปรแกรมนี้จะช่วยให้พาร์ทเนอร์คนขับแกร็บสามารถเข้าถึงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้กว่า 3,000 คันภายในปี 2567 

นางสาวอาวีมาศ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด กล่าวว่า สวอพแอนด์โก เป็นสตาร์ทอัพของ ปตท. มีเป้าหมายพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ร่วมขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาด โดยได้พัฒนาแพลตฟอร์มสลับแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้ผู้บริโภคในการร่วมผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งความร่วมมือกับแกรปในครั้งนี้ จะส่งเสริมระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร ตอบสนองต่อการเปลี่ยนผ่านตามทิศทางการใช้พลังงาน  พรัอมทั้งร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืนต่อไป

นายวิศิษฎ์ พิทยะวิริยากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายและให้บริการหลังการขายรถยนต์ไฟฟ้า BYD อย่างเป็นทางการในประเทศไทยกล่าวว่า Rever Automotive มุ่งมั่นในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ผ่านการนำเสนอรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BYD หลากหลายรุ่น โดยความร่วมมือกับแกร๊บครั้งนี้ ได้ส่งนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า BYD ทั้ง 3 รุ่นเข้าโครงการ Grab EV ช่วยส่งเสริมให้คนไทยเห็นความสำคัญของการใช้รถ EV และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคกล้าที่เปลี่ยนเพื่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตที่ดีกว่า

นายลาดี เดอลาโน่ (Ladi Delano) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม และผู้ร่วมก่อตั้ง MOOVE กล่าวว่า การเข้าถึงสินเชื่อรถยนต์เป็นหนึ่งในอุปสรรคของพาร์ทเนอร์ในการเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า Moove จึงจับมือกับ Grab เปิดโอกาสให้พาร์ทเนอร์คนขับเข้าถึงรถยนต์ไฟฟ้าผ่านผลิตภัณฑ์ Drive To Own  โดยเชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับคนไทย และขยายไปในระดับภูมิภาคอีกด้วย