BBL ชี้ช่องโอกาสทองลงทุนญี่ปุ่น ดอกเบี้ยต่ำ-เงินเยนอ่อนค่า ราคาถูกลง 30%

0
112

ธนาคารกรุงเทพชี้โอกาสทองลงทุนในญี่ปุ่น แนะซื้ออสังหาริมทรัพย์ จับตลาดท่องเที่ยว-บริการ หลังค่าเงินเยนอ่อนค่ากว่า 30% ทุบสถิติในรอบ 50 ปี พร้อมรุกปล่อยกู้สกุลเงินท้องถิ่น ได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยติดลบ แถมปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เชื่อเทรนด์ตลาดสูงอายุ-วัยรุ่นมาแรง กางจุดแข็งประสบการณ์-ความเข้าใจตลาดเชิงลึก

นายทวี พวงเกตุแก้ว เจ้าหน้าที่บริหารระดับ Senior Vice President และผู้จัดการทั่วไป ธนาคารกรุงเทพ สาขาประเทศญี่ปุ่น และผู้จัดการสาขาโตเกียว เปิดเผยว่า สถานการณ์เงินเยนอ่อนค่า 25-30% ในรอบ 50 ปี ถือเป็นโอกาสทองสำหรับลูกค้ากลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth) และผู้ประกอบการไทย ที่สนใจลงทุนสินทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่น  โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน บ้าน คอนโดมิเนียม ซึ่งกฎหมายของประเทศญี่ปุ่นอนุญาตให้ต่างชาติครอบครองอสังหาริมทรัพย์ได้ ทั้งการเพื่อลงทุนพัฒนาประกอบธุรกิจและเพื่ออยู่อาศัย

โดยโอกาสทางธุรกิจในอนาคตมี 2 ตลาดที่น่าสนใจ คือ ตลาดผู้สูงวัย เนื่องจากผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป มีสัดส่วนมากถึง 30% ของจำนวนประชากร เป็นกลุ่มที่มีเงินเก็บออม  เน้นบริการที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกสบาย อาหารสุขภาพ  การพักผ่อนในโรงแรมที่ให้บริการแบบ full service  อีกตลาดคือ ตลาดวัยรุ่น แม้กำลังซื้อยังไม่สูง แต่มีจำนวนมากขึ้น  ซึ่งเป็นกลุ่มที่นิยมซื้ออาหารกลับบ้าน หรือเน้นร้านกินดื่มราคาประหยัด ไม่เน้นแบรนด์  และให้ความสนใจโรงแรม Airbnb มากกว่าแบบ full service

“ในระยะยาว เชื่อว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะสนับสนุนให้ต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น ดังนั้น ธุรกิจในภาคการท่องเที่ยวและบริการ หรือ Hospitality sector จะเป็นอุตสาหกรรมสำคัญ ปัจจุบันเชนโรงแรมใหญ่ ๆ ระดับโลกเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้ไว้เพื่อขยายธุรกิจ  เพราะได้ประโยชน์จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงทำสถิติในระดับที่ 50 ปี  จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะเข้าไปลงทุน หรือซื้อสินทรัพย์เพื่ออยู่อาศัย เช่น คอนโดฯ ในฮอกไกโด  ไว้สำหรับพักเองช่วงเล่นสกี  โดยจะมีธุรกิจ Asset Management มาช่วยบริหาร โดยการปล่อยเช่าในลักษณะ Airbnb สร้างรายได้เพิ่ม”

สำหรับการเข้าไปลงทุนในประเทศญี่ปุ่น ธุรกิจหรือนักลงทุนอาจพิจารณาขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินแทนการใช้เงินลงทุนของตนเองทั้งหมด  เนื่องจากจะได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นที่ยู่ในระดับต่ำมาก และสถานการณ์อัตราดอกเบี้ยเงินฝากติดลบ   โดยขอสินเชื่อเป็นสกุลเงินเยนเพื่อให้สอดคล้องกับรายได้ที่จะเข้ามา เพื่อลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งธนาคารกรุงเทพ สาขาประเทศญี่ปุ่น เป็นธนาคารพาณิชย์ของไทยเพียงแห่งเดียวที่เปิดให้บริการทางการเงินเต็มรูปแบบ และมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถาบันการเงินได้เช่นเดียวกับธนาคารท้องถิ่น จึงรับฝากและปล่อยกู้เป็นสกุลเงินท้องถิ่นได้

“เราบริการแบบเข้าใจคนไทย เน้นรักษาความสัมพันธ์ ดูแลต่อเนื่องยาวนาน  อีกทั้งอยู่ในตลาดญี่ปุ่นมา 68 ปี มีสาขาที่โตเกียว และโอซาก้า  ทำให้เข้าใจตลาดและธุรกิจสไตล์ญี่ปุ่น มีทีมงานทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นที่พร้อมประสานงานร่วมกัน ทำหน้าที่เป็น “เพื่อนคู่คิด” พร้อมพาธุรกิจและนักลงทุนไทยเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่น” นายทวี กล่าวสรุป