ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ขับเคลื่อนหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม และอาคารพระราม 3 ต่อเนื่องมากว่า 26 ปี เพื่อปฏิบัติภารกิจจัดหาปริมาณเลือดสำรองได้มากกว่า 16 ล้านซีซี ช่วยชีวิตคนได้แล้วกว่า 138,495 คน เดินหน้ารณรงค์อาสาสมัครทั้งพนักงานและบุคคลทั่วไปร่วมสานต่อการเป็น “ผู้ให้” ยึดมั่นภารกิจเพื่อสังคมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอกย้ำธนาคาร “เพื่อนคู่คิด” พร้อมอยู่เคียงข้างคนไทย ร่วมฝ่าฟันทุกวิกฤติ
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอด 26 ปีที่ผ่านมา ธนาคารกรุงเทพร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต โดยใช้พื้นที่ธนาคารบริเวณอาคารสำนักงานใหญ่ สีลม และอาคารพระราม 3 จัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ต่อเนื่องทุกไตรมาส ตั้งแต่ปี 2539 เป็นต้นมา โดยได้รับบริจาคโลหิตแล้ว 46,165 ยูนิต สามารถจัดหาปริมาณเลือดได้รวม 16,157,750 ซีซี และสามารถนำไปช่วยชีวิตคนได้แล้วกว่า 138,495 คน โดยล่าสุดในไตรมาสแรกของปี 2565 ได้รับการบริจาคโลหิต 393 ยูนิต คิดเป็นปริมาณเลือด 157,200 ซีซี และนำไปช่วยเหลือชีวิตผู้ป่วยอื่นได้ต่อถึง 1,179 คน
ทั้งนี้ สถิติการบริจาคโลหิตจากหน่วยรับบริจาคเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงเทพ ย้อนหลังในช่วง 4 ปี (2560 – 2563) พบว่ามีปริมาณการบริจาคโดยเฉลี่ยปีละ 1,800 ยูนิต คิดเป็นปริมาณเลือดที่ช่วยจัดหาเพิ่มเติมให้กับสภากาชาดไทย ได้ราว 630,000 ซีซี ช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนโลหิตสำหรับผู้ป่วย โดยธนาคารได้ส่งเสริมความรู้เรื่องการเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิตให้อาสาสมัคร ทั้งผู้บริหาร พนักงานธนาคารและบุคคลทั่วไปปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ธนาคารยังให้ความร่วมมือในการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทยมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนร่วมบริจาคโลหิต การเป็นช่องทางบริจาคเงินสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย โดยเฉพาะการบริจาคในรูปแบบ e-Donation ผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จากธนาคารกรุงเทพ ที่ช่วยตอบโจทย์เรื่องการอำนวยความสะดวกให้ผู้มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคเงินสนับสนุนได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
สำหรับ กิจกรรมรับบริจาคโลหิต โดยธนาคารกรุงเทพร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ในการจัดตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ครั้งต่อไป จะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 19 เมษายน 2565 อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ระหว่างเวลา 09.00-15.30 น. และ อาคารพระราม 3 ระหว่างเวลา 09.00-15.00 น.
