CIMB THAI ทำเรื่องลงทุนหุ้นกู้ให้เป็นเรื่องง่าย เปิดบริการซื้อ-ขายหุ้นกู้ตลาดรองผ่าน “ทรูมันนี่”

0
41

ธนาคาร CIMB THAI ผู้นำหุ้นกู้ตลาดรอง เจ้าของรางวัล Best Bond Dealer และ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัล ร่วมเปิดช่องทางลงทุนหุ้นกู้ตลาดรอง (Secondary Bond) ผ่านแอปทรูมันนี่ ให้ผู้ใช้กว่า 34 ล้านคน เข้าถึงการลงทุนในหุ้นกู้คุณภาพดีได้ง่ายกว่าที่เคย ไม่ต้องรอจองล่วงหน้าเหมือนหุ้นกู้ตลาดแรก

พอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย  เปิดเผยว่า ความร่วมมือครั้งนี้  เป็นไปตามวิสัยทัศน์ a DigitalledBankwith ASEAN Reach : ธนาคารอาเซียนขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล  เพื่อให้เกิด Digital Ecosystem ส่งมอบบริการเป็นเลิศให้ลูกค้า พัฒนาธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน  โดยนำเอาจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญธุรกิจ Wealth Management ของธนาคาร  ผนึกกำลังกับความเชี่ยวชาญให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัล ของ ทรูมันนี่  เปิดช่องทางใหม่ให้ลูกค้าเข้าถึงการลงทุนหุ้นกู้คุณภาพดีที่ CIMB THAI คัดสรรมาแล้ว ได้ 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน ผ่านแอปทรูมันนี่ จากทุกที่ ทุกเวลา ทั่วโลก 

นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด     ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันทรูมันนี่ เปิดเผยว่า ปกติแล้ว ‘หุ้นกู้ตลาดแรก’ มีจำนวนไม่มากและมีขั้นตอนจองซื้อที่ยุ่งยาก  ความร่วมมือครั้งนี้ จึงช่วยลดอุปสรรคในการเข้าถึง ทำให้การลงทุนในหุ้นกู้เป็นเรื่องง่าย  และส่งเสริมให้นักลงทุนรายย่อยที่อาจไม่คุ้นเคยกับการลงทุนในหุ้นกู้ตลาดรองได้เข้ามาศึกษาและเลือกลงทุน  โดยหุ้นกู้ตลาดรองสามารถสร้างผลตอบแทนสูงถึง 5% ต่อปี

ทั้งนี้ผู้ลงทุนมั่นใจในความปลอดภัย  ด้วยความเชี่ยวชาญของซีไอเอ็มบี ไทย ในการคัดสรรหุ้นกู้ Investment Grade คุณภาพดี มีพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง และมีหุ้นกู้ตลาดรองให้เลือกหลากหลาย อัปเดตใหม่ทุกสัปดาห์  เหมาะสำหรับนักลงทุนมืออาชีพ และนักลงทุนหน้าใหม่  ผนวกกับแพลตฟอร์มทรูมันนี่ ที่มีระบบความปลอดภัยที่ใช้ AI ตรวจ จับ หยุด ทุกความเสี่ยงและปกป้องบัญชีลูกค้า  

นายเพา จาตกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจบริหารเงิน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ “ตราสารหนี้ตลาดรอง (Secondary Bond)” โดยได้รับรางวัล ‘Best Bond Dealer : ธนาคารที่เป็นที่ยอมรับในความสามารถในการให้บริการกับคู่ค้าในตลาดรองที่ยอดเยี่ยม’ และรางวัล  ‘Most Active Bank in Corporate Bond Secondary Market : ธนาคารที่มีมูลค่าซื้อ-ขายหุ้นกู้เอกชนตลาดรองสูงที่สุด’ จาก ThaiBMA ติดต่อกัน 5 ปีซ้อน (2019-2023) ซึ่งการันตีว่า ธนาคารมี “พันธบัตรและหุ้นกู้ตลาดรองคุณภาพดี” รองรับความต้องการของนักลงทุนตลอดปี

ดังนั้นการร่วมกันกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง จะช่วยให้ผู้ใช้งานทรูมันนี่ 34 ล้านคน เข้าถึงโอกาสบริการทางการเงิน ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว สามารถจัดสรรเงินออม มาลงทุนพันธบัตรและหุ้นกู้คุณภาพดีได้ทุกวัน สร้างโอกาสให้กับนักลงทุนได้เติบโตอย่างมั่งคั่ง และมั่นคง

นายภูดินันท์ เศรษฐนันท์ ผู้บริหารพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงิน ธุรกิจผลิตภัณฑ์การเงินและที่ปรึกษา Equity Derivatives และผู้บริหารการขายลูกค้าบุคคลธนกิจ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย  กล่าวว่า  ตลาดตราสารหนี้ปัจจุบันมีมูลค่าการซื้อ-ขายอยู่ที่ 5,921,913 ล้านบาท ( มูลค่าธุรกรรมซื้อขายตราสารหนี้ทุกประเภทที่มีอายุมากกว่า 1 ปี ม.ค.-ก.ย. 67 : สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ) แม้จะมีลูกค้าบุคคลเข้ามาในตลาดรองมากขึ้นและมูลค่าซื้อขายเพิ่มขึ้น จนแตะระดับ 37,089 ล้านบาท  แต่เป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% เมื่อเทียบกับมูลค่าการซื้อ-ขายทั้งตลาด ในขณะที่ตลาดหุ้น กลับมีสัดส่วนลูกค้าบุคคลสูงถึง 30%  

“ ซีไอเอ็มบี ไทย ในฐานะผู้นำและผู้บุกเบิกตราสารหนี้ตลาดรองของลูกค้าบุคคล มองเห็นโอกาสและมุ่งมั่นผลักดันให้ลูกค้าบุคคลเข้าถึงการลงทุนในตราสารหนี้ตลาดรอง  เพื่อมาเป็นผู้เล่นสำคัญที่ทำให้ตลาดตราสารหนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดด และมีสภาพคล่องทัดเทียมตลาดหุ้น เป็นอีกแหล่งระดมทุนที่สำคัญของประเทศ  และเชื่อมั่นว่าการลงทุนผ่านหุ้นกู้สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก  โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาถึง 41.65% เทียบกับตลาดหุ้นที่ 18.50% และเงินฝากที่ 1.5%”

“การร่วมมือกับ ทรูมันนี่ ที่มีบริการหลากหลายครอบคลุมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต  ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ในวงกว้าง  ขณะเดียวกันก็พาผู้ใช้งานทรูมันนี่เข้าถึงการลงทุนตราสารหนี้ โดยเฉพาะช่วงหลังเฟดลดดอกเบี้ย  เป็นจังหวะของการลงทุนพันธบัตรและหุ้นกู้คุณภาพดี เพื่อล็อคผลตอบแทน สร้าง passive income โดยนักลงทุนสามารถลงทุนหุ้นกู้ตลาดรองได้ทั้งแอปพลิเคชันทรูมันนี่และแอปพลิเคชั่น CIMB THAI”

นายภูดินันท์  กล่าวว่า  การซื้อขายตราสารหนี้ของลูกค้ารายย่อยในตลาดรองมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2561 มีมูลค่า 1.17 หมื่นล้านบาท  คาดว่าปี 2567 จะเพิ่มเป็นมูลค่าราว 5.5 หมื่นล้านบาท (มกราคม-สิงหาคม 2567 อยู่ที่ราว 3.70 หมื่นล้านบาท) โดยธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มีส่วนแบ่งตลาดในการเป็นผู้จำหน่ายหุ้นกู้สัดส่วน 28% มูลกว่า 2 หมื่นล้านบาท   ทั้งนี้ตั้งเป้ามูลค่าการลงทุนหุ้นกู้ผ่านทรูมันนี่ภายในสิ้นปี 2567 ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท  โดยหลังจากเปิดให้ลงทุนมา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีมูลค่าลงทุนหุ้นกู้ผ่านทรูมันนี่แล้วกว่า 100 ล้านบาท