KBank Private Banking แนะลงทุนกองทุนหุ้นนอกตลาดในจีน

0
17

KBank Private Banking ประเมินเศรษฐกิจโลกแนวโน้มหดตัว ตลาดทุนเผชิญความท้าทายรอบด้าน ราคาสินทรัพย์แทบทุกประเภทผันผวน แนะนักลงทุนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาด (Private Asset) ร่วมกับ KAsset  และ Schroders Capital เสนอการลงทุนหุ้นนอกตลาดในจีนที่มีมูลค่าการระดมทุนสูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลก ผ่านกองทุนเปิดเค ไชน่า ไพรเวทอิควิตี้ 23A ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (K-CHAPE23A-UI) ที่เน้นลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยี สุขภาพ และการบริโภคที่รองรับผู้บริโภคจีนจำนวนมหาศาล

ดร.ตรีพล ภูมิวสนะ Senior Managing Director, Private Banking Business Head, Private  Banking Group ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าจีนเป็นประเทศน่าสนใจในการเข้าลงทุนในหุ้นนอกตลาด  เนื่องจากตลาดหุ้นนอกตลาดจีนมีมูลค่าการระดมทุนสูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลก โดยในปี 2565 เม็ดเงินระดมทุนสูงถึง 3.21 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (11.7 ล้านล้านบาท) เติบโตถึง 900% เมื่อเทียบกับเม็ดเงินระดมทุนในช่วง 10 ปีก่อนหน้า อีกทั้งรัฐบาลจีนผ่อนคลายเกณฑ์การจดทะเบียนในตลาดหุ้น เปิดโอกาสให้การ Exit ผ่านการ IPO ในตลาดหลักทรัพย์ ความคล่องตัวมากขึ้น  

ซึ่งลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงของธนาคารมีการลงทุนในตลาดหุ้นจดทะเบียนของจีนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหุ้นจีน A-Share หรือ H-Share การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นจีนนอกตลาด จะช่วยกระจายการลงทุนและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนได้ เนื่องจากธุรกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และธุรกิจที่อยู่นอกตลาดมีสัดส่วนอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน

KBank Private Banking ร่วมกับบลจ.กสิกรไทย หรือ KAsset  และ Schroders Capital เสนอกองทุนเปิดเค ไชน่า ไพรเวทอิควิตี้ 23A ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย หรือ K-CHAPE23A-UI ที่ลงทุนในหุ้นนอกตลาดในจีน โดยลงทุนในธุรกิจที่เริ่มก่อตั้งและช่วงเติบโตต้องการเงินทุนขยายกิจการ ผ่านการซื้อขายในตลาดรองซึ่งมีระดับราคาที่น่าสนใจ หรือร่วมลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโต และสอดคล้องกับแผนการพัฒนาของรัฐบาลจีน ได้แก่ เทคโนโลยี สุขภาพ และการบริโภค ซึ่งมีศักยภาพเป็นผู้นำตลาดในอนาคต และยังกระจายการลงทุนกว่า 100 บริษัท โดยความผันผวนของผลตอบแทนในอดีตของ Schroders Capital China Private Equity ต่ำกว่าดัชนีหุ้นจีน MSCI All Share กองทุนมีอายุ 7 ปี และสามารถขยายเพิ่มได้อีก 2 ปี สั้นกว่ากองทุนหุ้นนอกตลาดทั่วไป และลดความเสี่ยงการถูกเรียกเงินคืนกรณีกองทุนต่างประเทศต้องการเงินทุนเพิ่ม

“ในภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน โอกาสลงทุนในหุ้นนอกตลาดน่าสนใจ เพราะหลายบริษัทกำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่องระยะสั้น จากยอดขายไม่ขยายตัว ต้นทุนสูงขึ้น กำไรลดลง  เป็นช่วงเวลาที่ดีที่กองทุนหุ้นนอกตลาดจะเข้าลงทุนในบริษัทคุณภาพดีในราคาที่ต่ำลง เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างกำไรในอนาคต  ซึ่งกองทุนเปิดเค ไชน่า ไพรเวทอิควิตี้ 23A ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย จะช่วยกระจายความเสี่ยงพอร์ตการลงทุนจากสินทรัพย์ดั้งเดิมอย่างหุ้นและตราสารหนี้ เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนระยะยาวให้กับนักลงทุน”

ทั้งนี้การลงทุนในหุ้นนอกตลาดจีนที่บริหารโดย Schroders Capital ตั้งแต่ปี 2554 ถึงปี 2565 ให้ผลตอบแทน IRR ที่ 17.2% ต่อปี ในขณะที่ผลตอบแทนของการลงทุนดัชนีหุ้นจีน MSCI China USD ด้วยกระแสเงินสดและจังหวะเวลาการลงทุนที่เหมือนกันจะอยู่ที่ -3% ต่อปี

นายจุน เชียน Head of Private Equity China, Schroders Capital, Schroders Group PLC กล่าวว่า Schroders Capital ได้รับใบอนุญาตคิวเอฟเอลพี (QFLP: Qualified Foreign Limited Partner) ในการนำเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในประเทศจีนและส่งเสริมการลงทุนในหุ้นนอกตลาด เพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในจีน  มีประสบการณ์การลงทุนหุ้นนอกตลาดในจีนมานานกว่า 15 ปี มีเครือข่ายผู้จัดการกองทุนหุ้นนอกตลาดที่แข็งแกร่ง เช่น Sequoia China, Legend Capital และ Maison Capital มีทีมงานที่ดูแลด้านการลงทุนประจำอยู่ในประเทศจีน และได้รับการสนับสนุนจาก Schroders สวิตเซอร์แลนด์ จึงสามารถเข้าถึงข้อมูลและโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจ และพิจารณาถึงความเสี่ยงอย่างรอบด้านอาทิการเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลจีน แต่ผู้จัดการกองทุนก็จะสามารถปรับตัวตามนโยบายได้ เนื่องจากเข้าใจธรรมชาติของรัฐบาลจีน (Adaptive – Flexible – Local knowledge) เป็นต้น