KKP เปิดตัว Dime! แอปการออม&ลงทุนเพื่อรายย่อย

0
412

บริษัท หลักทรัพย์ เคเคที ไดม์ จำกัด (KKP Dime) บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร  เปิดตัว “Dime!” (ไดม์) แอปพลิเคชันเพื่อลูกค้ารายย่อย  ประเดิมด้วย 3 บริการหลัก 1)บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงสุด 3% ไม่มีขั้นต่ำ 2)บัญชีหลักทรัพย์ต่างประเทศ ลงทุนขั้นต่ำ 50 บาท ค่าธรรมเนียมตามจริง ไม่มีขั้นต่ำ 3) บัญชีกองทุนรวมที่ซื้อขายกองทุนรวมกว่า 1,700 กอง ปักหมุดเป็นเทคฯ สตาร์ตอัปที่ใช้เทคโนโลยีและดาต้าขับเคลื่อน ลดต้นทุนผู้ใช้บริการ บรรเทาปัญหาความเหลื่อมล้ำให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการเงินได้มากขึ้น

นายกัมพล จันทวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทย 70 ล้านคน มีบัญชีเงินฝากกว่า 50 ล้านคน แต่กลับเข้าถึงบริการทางการเงินอื่นๆ เช่น หุ้น หรือกองทุนรวมได้น้อยมาก  โดยมีบัญชีหุ้นไทยเพียง 3 ล้านคน มีบัญชีกองทุนรวม 1.5 ล้านคน มีบัญชีลงทุนหุ้นต่างประเทศเพียง 30,000 คน  เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ หรือสิงคโปร์ ซึ่งประชากรมากกว่า 50% มีบัญชีลงทุนหุ้น หรือแม้แต่เวียดนามที่เพิ่งเปิดตลาดหุ้นได้ไม่นาน ปัจจุบันก็มีบัญชีลงทุนหุ้นมากกว่าไทย ซึ่งข้อมูล IMF แสดงให้เห็นว่าประเทศที่มีการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ครอบคลุมหลากหลายจะมีความเหลื่อมล้ำน้อยกว่า

และจากภาพรวมของธุรกิจการเงินการลงทุนในประเทศไทย ที่ส่วนใหญ่มุ่งไปที่ลูกค้า Wealth ซึ่งมีอยู่ประมาณ 20% ของคนไทย ขณะที่ลูกค้ารายย่อยที่มีฐานเงินเดือนประจำ 10,000 บาทขึ้นไป ที่มีอยู่ประมาณ 30% หรือราว 2 ล้านคน ยังขาดโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินและการลงทุน ซึ่ง Dime! จะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและลดความเหลื่อมล้ำของสังคมไทยในจุดนี้

โดยเป้าหมายระยะสั้นภายในสิ้นปี 2022 คาดว่าจะมีผู้เข้าใช้งานแอปพลิเคชัน จำนวน 150,000 ราย และเพิ่มเป็น 1 ล้านคนภายในปี 2025 ขณะที่เป้าหมายระยะยาว คือการเพิ่มจำนวนคนไทยให้ลงทุนมากขึ้น อย่างน้อยก็ใกล้เคียงกับยอดการใช้บัตรเครดิตที่ประมาณ 8 ล้านราย นอกจากนี้จะมีการเพิ่มเติมบริการอื่นๆในอนาคต เช่น ประกันภัย ในรูปแบบ ไมโคร อินชัวรันส์  หรือการขยายพาร์ทเนอร์ไปยังสินเชื่อ หรือบัตรเครดิต ทั้งนี้ต้องพิจารณาจากดาต้าของลูกค้า ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

“ คนไทย 75% เก็บออมในรูปแบบเงินสด มีเพียง 3% เท่านั้นเลือกการลงทุน โดยพบว่าสาเหตุหลักที่คนไทยไม่นิยมออมเงินด้วยการลงทุนมาจาก ความรู้ความเข้าใจเรื่องการลงทุนยัง และการให้บริการด้านการลงทุนมีต้นทุนสูง  Dime! จึงเกิดขึ้นเพื่อขจัดอุปสรรค และลดความเหลื่อมล้ำของการเข้าถึงบริการทางการเงิน โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมาสร้างธุรกิจการเงินดิจิทัล  ที่ปลอดภัย เข้าถึงได้ง่าย ด้วยค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสทางการเงิน โดยไม่มีข้อจำกัดด้วยความรู้ ประสบการณ์ ความมั่งคั่ง หรือรายได้” นายกัมพลกล่าว

ดร.ฉัตริน ลักษณบุญส่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า Dime! ทำให้การเงินเป็นเรื่องง่ายที่สุดสำหรับทุกคน โดยลดขั้นตอนการเปิดบัญชีให้ลูกค้าสามารถเปิดทั้งบัญชีด้านการออม และบัญชีด้านการลงทุนพร้อมกันได้ในครั้งเดียว  รวมไปถึงการลงทุนในหุ้นต่างประเทศ  ที่ปลดล๊อคผู้ลงทุนรายย่อย ที่มักถูกบังคับจำนวนเงินลงทุนขั้นต่ำที่สูง มีค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย และการทำเอกสารหลายขั้นตอน  โดยลูกค้าสามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศได้ด้วยเงินสกุลบาท กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 50 บาท ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในตลาด

“การเข้าถึงข้อมูลคือปัญหาสำคัญสำหรับลูกค้ารายย่อยอยากลงทุน เพราะข้อมูลเบื้องลึกที่ใช้สำหรับตัดสินใจลงทุนต้องมีค่าใช้จ่าย แต่แอปพลิเคชัน Dime!  เมื่อดาวน์โหลด ลูกค้าสามารถดูข้อมูลหุ้นต่างประเทศ ดูข้อมูลกองทุนรวมทุกชนิด รวมถึงอ่านบทความที่ให้ความรู้ทางการเงินได้ฟรีทันที”

สำหรับการจัดการและการให้บริการของแอปพลิเคชัน Dime! จะดำเนินการผ่านระบบดิจิทัลทั้งหมด รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยในระยะเริ่มต้น บริการหลักซึ่งลูกค้าจะได้ครบทุกบริการในทันทีที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ประกอบด้วย

1.บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ Dime! Save บัญชีเงินฝากซึ่ง Dime! ร่วมมือกับธนาคารเกียรตินาคินภัทร ให้ดอกเบี้ยสูงสุดถึง 3% ไม่มีขั้นต่ำในการเปิดบัญชี โดยลูกค้าสามารถฝากเงินหรือโอนเงินได้โดยยืดหยุ่น และไม่มีเงื่อนไขมากเหมือนบัญชีฝากประจำ นอกจากนั้น ยังแอปพลิเคชันยังมีลูกเล่นให้ลูกค้าสามารถตกแต่งสลิปยืนยันการโอนเงินได้  ทำให้การใช้งานเป็นเรื่องสนุก และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์

2.บัญชีหลักทรัพย์ต่างประเทศ  ลูกค้าสามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศทำได้อย่างง่ายดาย โดยใช้เงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 50 บาท ก็สามารถเป็นเจ้าของหุ้นชื่อดังในต่างประเทศได้ นอกจากนี้ ยังอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม เช่น ซื้อหุ้นต่างประเทศด้วยเงินบาทได้ หรือถ้าลูกค้าอยากแลกเงินบาทเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐเอง Dime! ก็จะแลกให้ทันที ไม่ต้องรอถึง 2 วันทำการ  อีกทั้งยังได้สิทธิพิเศษยกเว้นค่าคอมมิชชันเดือนละหนึ่งครั้งสำหรับการซื้อหรือขายครั้งแรกของทุกเดือน และรายการซื้อขายต่อไปก็จะเก็บตามจริงที่ 0.15% ของมูลค่าซื้อหรือขาย ไม่มีค่าคอมมิชชันขั้นต่ำ และไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง เช่น ค่าธรรมเนียมโอนเงิน แลกเงิน หรือค่าธรรมเนียมยื่นแบบภาษี W-8BENและที่พิเศษยิ่งกว่า คือ ลูกค้าที่เปิดบัญชีลงทุนภายในปี 2565 นี้ Dime! จะยกเว้นค่าคอมมิชชันให้ถึง 30 มิถุนายน 2566

3.บัญชีกองทุนรวม  ที่สามารถลงทุนได้แบบไม่จำกัดค่าย โดยมีกองทุนรวมในไทยมากกว่า 1,700 กองทุน จาก 21 บลจ. ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุน แต่ไม่มีเวลาติดตามหุ้นรายตัว และผู้ที่ต้องการซื้อกองทุนรวมเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี นอกจากนี้ยังจัดหมวดหมู่รายชื่อกองทุนรวมที่น่าสนใจ ภายใต้ธีมต่าง ๆ ช่วยให้ผู้ลงทุนเห็นภาพรวมและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น  รวมไปถึงมีบริการ Dime! Fast ที่ช่วยให้ผู้ลงทุนจะได้รับเงินคืนภายใน 2 วันทำการ หลังส่งคำสั่งขายหน่วยลงทุน รวดเร็วกว่าแบบปกติที่อาจต้องรอนานถึง 7 วันทำการ

คุณเฉลิมวุฒิ ชมะนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านเทคโนโลยี กล่าวว่า จุดแข็งของ Dime! คือ เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการเงินที่มีวัฒนธรรมองค์กรและกระบวนการทำงานแบบเทคฯ สตาร์ตอัป  โดยรวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจากทั้งในและนอกวงการการเงิน มาร่วมกันออกแบบโครงสร้างเทคโนโลยี โดยใช้สถาปัตยกรรมที่ทันสมัยและเป็นที่นิยม วางโครงสร้างทีมให้ทำงานได้อย่างคล่องตัว ดังนั้นจึงสามารถออกแบบ สร้าง และเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงได้อย่างต่อเนื่องและทันการณ์  รวมทั้งสามารถขยายโครงสร้างพื้นฐานของระบบ เพื่อรองรับปริมาณรายการธุรกรรมของผู้ใช้งานที่จะเติบโตต่อไปได้ตามที่ตั้งเป้าไว้”

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Dime! ได้แล้ววันนี้ที่ App Store และ Play Store และติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแอปพลิเคชัน Dime! ได้ที่ www.dime.co.th หรือ Facebook: @dimeinvest