Kbank Private Banking ชี้ปรากฏการณ์ “The Great Wealth Transfer” กระทบการส่งต่อทรัพย์สินครั้งใหญ่ ชูบริการใหม่ Family Business Transformation ปฏิรูปธุรกิจครอบครัวให้เป็นระบบ สร้างความเติบโต และอยู่รอดอย่างมั่นคงยั่งยืน #KbankPrivateBanking #TheGreatWealthTransfer #บริการFamilyBusinessTransformation #ลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูง
โลกกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงมากมาย หนึ่งในปรากฏการณ์ที่น่าจับตา คือ ‘การส่งต่อความมั่งคั่งระหว่างรุ่นครั้งใหญ่’ (The Great Wealth Transfer) ซึ่งคาดการณ์ว่าในปี 2573 ผู้มีสินทรัพย์สูงทั่วโลกจะส่งต่อความมั่งคั่งมูลค่าสูงถึง 18.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ (662 ล้านล้านบาทไทย) โดยผู้มีสินทรัพย์สูงในภูมิภาคเอเชียจะส่งต่อทรัพย์สินมูลค่า 2.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (90 ล้านล้านบาทไทย)
ธุรกิจครอบครัวคือแหล่งที่มาของทรัพย์สินสำหรับผู้มีสินทรัพย์สูง ซึ่งเส้นทางการส่งต่อธุรกิจมักไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ จึงเป็นที่มาของบริการใหม่ Family Business Transformation เพื่อให้คำปรึกษาในการปรับธุรกิจครอบครัวให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนผ่านและดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น รวมทั้งจับมือพันธมิตรที่ปรึกษาทั้งในและต่างประเทศ ตอบรับความต้องการและปัญหาที่แตกต่างของแต่ละครอบครัว ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการให้บริการบริหารสินทรัพย์ครอบครัวของไทย
นายพีระพัฒน์ เหรียญประยูร Managing Director – Wealth Planning and Non-Capital Market Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า 6 ปีที่ KBank Private Banking ให้บริการบริหารทรัพย์สินครอบครัว พบว่าลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงกว่า 90% เป็นเจ้าของธุรกิจ และหลายครอบครัวกำลังเผชิญความท้าทายในการส่งต่อ ซึ่งจากการศึกษาร่วมกันกับ Lombard Odier พบว่าทายาทจำนวนมากต้องการอิสระในการใช้ชีวิต เลือกอาชีพหรือทำธุรกิจของตัวเองมากกว่า ครอบครัวจึงต้องหาทางออกเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ เช่น การจ้างผู้บริหารมืออาชีพ ในกรณีเช่นนี้ ทายาทจะต้องเรียนรู้ในการเป็นผู้ถือหุ้นที่ดี หรือในกรณีที่ทายาทต้องการรับช่วงต่อ ก็ยังมีเงื่อนไขว่าธุรกิจครอบครัวจะต้องจัดการให้เป็นระบบ และต้องการที่ปรึกษาที่เข้าใจและเชี่ยวชาญมากกว่าครอบครัวตัดสินใจกันเอง รวมไปถึงการจัดการธุรกิจและกงสี ต้องมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า หากไม่ได้เตรียมพร้อมวางแผนในการส่งต่อ จะมีธุรกิจครอบครัวที่สามารถอยู่รอดในรุ่นที่ 2 เพียง 30% ส่งผ่านไปสู่รุ่นที่ 3 ได้เพียง 12% และเหลือเพียง 3% ที่รอดไปสู่รุ่นที่ 4 ยิ่งไปกว่านั้น ความอ่อนไหวของธุรกิจครอบครัวไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยนผ่านจากรุ่นสู่รุ่นเท่านั้น ปัจจัยจากตัวธุรกิจเองก็มีผลทำให้ธุรกิจครอบครัวล่มสลายได้ ไม่ว่าจะเป็น การจัดการที่ไม่เป็นระบบ ปัญหาความโปร่งใส ระบบการตรวจสอบหละหลวม จนเป็นเหตุให้เกิดการฉ้อโกง ผู้บริหารขาดวิสัยทัศน์ ขาดบุคลากรที่มีความสามารถ ขาดการวางแผนสืบทอดธุรกิจและกระบวนการคัดเลือกผู้บริหาร เป็นต้น
ดังนั้น ความจำเป็นในการวางแผนและจัดโครงสร้างเพื่อปรับธุรกิจครอบครัวให้เป็นระบบจึงมีความสำคัญ เพื่อรักษาธุรกิจครอบครัวให้สามารถดำเนินต่อไปได้ และส่งต่อธุรกิจได้อย่างราบรื่น
บริการ Family Business Transformation เป็นบริการใหม่ภายใต้บริการให้คำปรึกษาด้านการบริหารทรัพย์สินครอบครัว (Family Wealth Planning Services) โดย KBank Private Banking บริการให้คำปรึกษาเพื่อการวางแผนธุรกิจครอบครัวที่ดีควบคู่ไปกับการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีของสมาชิกในครอบครัว
โดยให้คำแนะนำลูกค้าตลอดกระบวนการ ดังนี้
1. ช่วยครอบครัวในการกำหนดเป้าหมายร่วมกัน วางนโยบายและกติกาภายในครอบครัว
2. ใช้ผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ธุรกิจครอบครัว และให้ข้อเสนอแนะในการจัดธุรกิจครอบครัวให้เป็นระบบในด้านต่างๆ อาทิ ด้านโครงสร้าง ระบบบัญชี ระบบการตรวจสอบภายใน การจัดการด้านทรัพยากรบุคคล เป็นต้น
3. วางแผนการเตรียมพร้อมทายาท แผนการสืบทอดธุรกิจ
“บริการ Family Wealth Transformation ออกแบบมาจากความเข้าใจความต้องการของลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงแต่ละครอบครัว ซึ่งมีความต้องการและปัญหาแตกต่างกัน โดย KBank Private Banking จับมือที่ปรึกษาทั้งในและต่างประเทศ ร่วมกันปรับปรุงและพัฒนาระบบ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจครอบครัวมีประสิทธิภาพ หากธุรกิจครอบครัวยึดติดกับวิธีการแบบเดิม ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง ก็ยิ่งมีความเสี่ยงและมีแนวโน้มที่จะล้มเหลวสูง และหากไม่มีการวางแผนสืบทอดธุรกิจครอบครัว อาจลุกลามรุนแรงไปจนถึงทำให้ทั้งครอบครัวและธุรกิจล่มสลายได้” นายพีระพัฒน์ กล่าวสรุป
