ด้วยยอดจองซื้อ กลุ่มกองทุนผสม KTWC Series เมื่อวันที่ 2 – 11 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา ทะลุ 3,000 ล้านบาทในช่วง IPO KTAM จึงเตรียมเปิดเสนอขายอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.2566 นี้เป็นต้นไป ผ่านธนาคารกรุงไทย แอปพลิเคชัน Next และ KTAM Smart Trade
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากที่ได้เปิดเสนอขายกลุ่มกองทุนผสม KTWC Series ไปเมื่อวันที่ 2 – 11 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมานี้ มีนักลงทุนให้ความสนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก ด้วยยอดจองซื้อกว่า 3,000 ล้านบาทในช่วง IPO และจะเปิดเสนอขายอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค.2566 นี้เป็นต้นไป
สำหรับกลุ่มกองทุน KTWC Series เป็นกลุ่มกองทุนที่จัดพอร์ตการลงทุนแบบผสม ในสินทรัพย์คุณภาพดีทั่วโลก ทั้งตราสารหนี้ หุ้น และสินทรัพย์ทางเลือก บริหารแบบเชิงรุกโดยทีมผู้จัดการกองทุนจาก FIL Investment (Hong Kong) Limited ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Fidelity International จะทำการคัดเลือกและกำหนดสัดส่วนการลงทุนในแต่ละกองทุน
โดยจะกระจายการลงทุนในกองทุนต่างๆ คัดสรรกองทุน และ ETF ที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวม และ/หรือกองทุนรวม ETF ในต่างประเทศ ที่มีนโยบายลงทุนทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ทรัพย์สินทางเลือก เงินฝากหรือตราสารเทียบเท่า โดยลงทุนอย่างน้อยตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไปโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของ NAV และจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งไม่เกิน 79% ของ NAV โดยกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามความเหมาะสมกับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการลงทุน
ทั้งนี้กลุ่มกองทุน KTWC Series (ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5) ประกอบด้วย 3 กองทุน ได้แก่
1) Krungthai World Class Defensive (KTWC-DEFENSIVE) มีกรอบการลงทุนเฉลี่ยระยะยาวในตราสารหนี้ 85% หุ้น 15%
2) Krungthai World Class Moderate (KTWC-MODERATE) มีกรอบการลงทุนเฉลี่ยระยะยาวในตราสารหนี้ 50% หุ้น 50% 3) Krungthai World Class Growth (KTWC-GROWTH) มีกรอบการลงทุนเฉลี่ยระยะยาวในตราสารหนี้ 20% หุ้น 80% โดยสัดส่วนการลงทุนทั้ง 3 กองทุน สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน (ที่มา: KTAM และ Fidelity International ข้อมูล ณ วันที่ 14 ก.ค. 2566)
“ปัจจัยต่างๆ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันยังคงมีความผันผวน และส่งผลกระทบต่อการลงทุน การลงทุนในกองทุนรวมผสมที่มีรูปแบบกระจายความเสี่ยงทั้งหุ้น ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือก จึงเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในทุกสภาวะตลาดได้” นางชวินดา กล่าว
สำหรับปัจจัยความเสี่ยงของกองทุน KTWC Series ที่สำคัญ : ความเสี่ยงทางตลาด ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงจากความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของหลักทรัพย์ ความเสี่ยงจากการดำเนินงานของผู้ออกตราสาร ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงของประเทศที่ลงทุน ความเสี่ยงจากข้อจำกัดการนำเงินลงทุนกลับประเทศ ความเสี่ยงจากการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยง ความเสี่ยงจากการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ความเสี่ยงในเรื่องคู่สัญญาในการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงของการลงทุนในตราสารที่มีสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง
คำเตือน กองทุนนี้มีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงโดยดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ในกรณีที่กองทุนไม่ได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือจะได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ /ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจถึงลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน