NEW MG VS HEV สร้างประสบการณ์ใหม่ของไฮบริดที่ขับสนุกและเร้าใจ ที่จะสร้างจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในตลาด B-SUV ด้วยแนวคิด “ABSOLUTE” เป็นตัวตนขั้นสุด หลุดจากทุกมิติเดิมๆ ของการขับขี่ด้วยยนตรกรรมไฮบริดจมาตรฐานยุโรป เพื่ออ โฉบเฉี่ยวด้วยดีไซน์สุดล้ำ เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวก ระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป และราคาจับต้องได้ NEW MG VS HEV รุ่น D ราคา 859,000 บาท และ รุ่น X ราคา 919,000 บาท
มร. จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เปิดเผยว่า เอ็มจีเดินหน้าแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของคนไทยทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและรถยนต์พลังงานทางเลือก ยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งวันนี้ เอ็มจีพร้อมแล้วสำหรับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไฮบริด โดยเปิดตัว NEW MG VS HEV จุดเปลี่ยนยนตรกรรมในกลุ่ม B-SUV ที่โดดเด่นด้วยการเป็น Sporty & Stylish SUV ที่ถูกยกระดับทั้งงานดีไซน์ เทคโนโลยี และขุมพลังไฮบริดสู่การเป็นยนตรกรรมระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคดิจิทัลได้อย่างตรงจุด อีกทั้งได้เพิ่มเติมประเภทเครื่องยนต์เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้กับลูกค้ามากที่สุดในประเทศไทย ทั้งเครื่องยนต์ ดีเซล เบนซิน ไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100%
NEW MG VS HEV สร้างสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “ABSOLUTE” เพื่อบ่งบอกถึง “ความสมบูรณ์แบบ” ดังนี้
ด้านดีไซน์ การออกแบบภายนอก ด้วยกระจังหน้า Electrified Matrix Grille Design ที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตและทันสมัย ไฟหน้าแบบ LED Projector เปิด-ปิดได้อัตโนมัติที่มาพร้อมกับไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (DAYTIME RUNNING LIGHT) และไฟท้ายแบบ LED ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว มี AERO WHEEL COVER ที่ช่วยลดแรงต้านลม ห้องโดยสารแนวใหม่แบบ Modern & Stylish และครั้งแรกของยนตรกรรมในกลุ่ม B-SUV ที่มี Dual Widescreen Cockpit หน้าจอคู่ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว 2 จอ ควบคุมการทำงานผ่าน ILLUMINATED TOUCH PANEL และคอนโซลกลางแบบ DOUBLE LAYER ด้านบนตกแต่งด้วยวัสดุ PIANO BLACK พวงมาลัยหุ้มหนังและคันเกียร์ตกแต่งลวดลาย LASER PATTERN ให้ความหรูหรา ด้านล่างมีที่เก็บของ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB ที่รองรับทั้ง TYPE C และ TYPE A
ด้านเทคโนโลยี ระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบใหม่พร้อมคันเกียร์แบบ Electric Shift สามารถเลือกโหมดขับขี่ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Comfort และ Sport ระบบไฮบริดมาพร้อมด้วย KERS MODE ตั้งค่าได้ 3 ระดับ ช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในขณะชะลอรถ จอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ความคมชัดระดับ HD ขนาด 12.3 นิ้ว แสดงผลได้อย่างหลากหลาย และโหมด Navigation แสดงการนำทาง คู่กับหน้าจอแบบ Touch Screen ขนาด 12.3 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMARTพร้อม Apple CarPlay และสามารถเล่นมัลติมีเดียในสมาร์ทโฟนระบบ Android ได้ มอบความบันเทิงตลอดการเดินทางด้วย Music application ของ JOOX
ด้านความสะดวกสบาย สปอร์ตไฮบริดเอสยูวีรุ่นนี้ ให้ความสำคัญกับทั้งคนขับและผู้โดยสารทุกตำแหน่งที่นั่ง ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless charger) อีกทั้งยังมีช่องแอร์ และช่องเชื่อมต่อ USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เบาะที่นั่งด้านหลัง ปรับพับได้ 60:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ
ด้านสมรรถนะและระบบความปลอดภัย NEW MG VS HEV อัปเกรดการขับขี่ให้เร้าใจด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH ผสานขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวมสูงสุดที่ 177 แรงม้า พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT มั่นใจทุกการเคลื่อนไหวด้วยระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM 12 ระบบ เช่น ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution) และ ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist) ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal) ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ระบบป้องกันการไหลของรถ AVH (Auto Vehicle Hold) พร้อมกล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ High Definition จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย
NEW MG VS HEV มีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่น D และรุ่น X
รุ่น D ภายในเป็นสีดำล้วน มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี คือ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีแดง (Scarlet Red) ราคา 859,000 บาท
ส่วนรุ่น X มีสีแบบโมโนโทนและทูโทน แบบโมโนโทนมีสีภายในเป็นสีดำล้วน มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) และสีแดง (Scarlet Red) สำหรับสีทูโทนมีสีภายในเป็นแบบทูโทน สีขาวสลับดำ มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเขียว (Mineral Green) สีเทา (Metal Ash Grey) และสีขาว (Arctic White) ราคา 919,000 บาท
ผู้สนใจทดลองขับและสัมผัสการขับขี่ที่สนุกสนาน เร้าใจกับเทคโนโลยีไฮบริดของ NEW MG VS HEV ได้ตั้งแต่วันนี้ ที่โชว์รูมเอ็มจีกว่า 158 แห่ง ทั่วประเทศ โดยเอ็มจีมีกำหนดทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้าในปลายเดือนสิงหาคมนี้ เป็นต้นไป
เกี่ยวกับเอ็มจี
เอ็มจี ก่อตั้งปี ค.ศ. 1924 โดยชื่อ MG ย่อมาจาก Morris Garages มีศูนย์กลางการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานและด้านเทคนิคที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เอ็มจี เป็นแบรนด์รถยนต์อังกฤษที่ใช้เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมยุโรป ได้รับการสนับสนุนจาก เอสเอไอซี ในเรื่องการจัดหาวัสดุจากทั่วโลก การจัดการด้านซัพพลายเชนเกี่ยวกับส่วนประกอบของรถยนต์ การจัดการด้านการควบคุมคุณภาพ รวมถึงบริการด้านอื่นๆ เอ็มจี เป็นที่รู้จักทั่วโลกจากการเปิดตัวรถยนต์ 2 ที่นั่งรุ่น MGB Roadster ในปี ค.ศ. 1962
เกี่ยวกับเอ็มจี ประเทศไทย
บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งในปี ค.ศ. 2013 เพื่อดูแลการขาย การตลาด และบริการหลังการขายของรถยนต์ เอ็มจี ในประเทศไทย และกำกับดูแลเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายของ เอ็มจี ทั้งที่เป็นบริษัทร่วมทุน และบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และเอสเอไอซี ทั้งนี้ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (เอสเอไอซี มอเตอร์) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด โดยโรงงานผลิตรถยนต์ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) จังหวัดชลบุรีเพื่อผลิตรถยนต์ เอ็มจี จำหน่ายภายในประเทศไทยและส่งไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆในภูมิภาคอาเซียน