บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เดินหน้าส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการวางแผนการเงิน การลงทุน การบริหารจัดการหนี้ และการส่งเสริมความยั่งยืนด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 หวังยกระดับการเรียนรู้ให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดี (Financial Well-Being) ทั้ง บุคลากร ผู้ใช้บริการ และประชาชนทั่วไป คาดองค์ความรู้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรวมกว่า 100,000 คนต่อปี
นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า การลงนาม MOU ในครั้งนี้ เป็นการสานต่อความร่วมมือกับ ตลท.ในระยะที่ 2 (2567-2569) ต่อเนื่องไปอีก 2 ปี หลังจากความร่วมมือในระยะที่ 1 (2565-2567) ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีเป้าหมายร่วมกัน คือยกระดับและส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการเงิน การลงทุน การบริหารจัดการหนี้ รวมถึงส่งเสริมทักษะการเป็นผู้ประกอบการและความรู้ด้านความยั่งยืน ทั้งมิติสังคมและสิ่งแวดล้อม ให้แก่ประชาชนทั่วไป ผู้ใช้บริการ บุคลากร และ ลูกค้าของ SAM ความรู้ทางการเงินด้านต่างๆ ที่ SAM ได้รับมามีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ SAM สามารถขยายการทำงานให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะลูกค้า “โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM” มีความรู้และชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ครอบคลุมถึงทักษะและความรู้ทางการเงิน การลงทุน และการบริหารจัดการหนี้ในระดับพื้นฐานที่จำเป็น ตั้งแต่การหารายได้ การออม การลงทุน การจัดทำงบประมาณรายรับรายจ่าย การวางแผนทางการเงิน การลงทุน และการออม ส่งผลให้การวางแผนและบริหารจัดการทางการเงิน การลงทุนและการจัดการหนี้สิน ในระดับครัวเรือนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่จะช่วยลดปัญหาหนี้ครัวเรือนของประเทศเพื่อความยั่งยืนต่อเศรษฐกิจในระยะยาว
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า SAM เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ได้ร่วมกันพัฒนาเนื้อหาและสื่อความรู้ด้านการบริหารจัดการหนี้ พร้อมทั้งใช้โมเดลการเรียนรู้สำหรับพี่เลี้ยงการเงิน ซึ่งเป็นตัวแทนขององค์กรในการส่งต่อความรู้และสร้างวัฒนธรรมด้านการเงินที่ดี การลงนามต่ออายุ MOU ส่งเสริมความรู้ทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้ในครั้งนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นในการร่วมกันผลักดันภารกิจสร้างความรู้ความเข้าใจและเสริมทักษะทางการเงินที่เข้มแข็งให้แก่คนไทย ให้มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น มีภูมิคุ้มกันทางการเงินได้อย่างยั่งยืน
