ปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไม่เพียงต้องเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวไม่เต็มที่ กระทบต่อยอดขาย แต่ยังต้องคำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ตามพฤติกรรมผู้บริโภค และเทรนด์ธุรกิจโลกที่เปลี่ยนไป เป็นอีกความท้าทายสำคัญ ในการนำพาธุรกิจเอสเอ็มอีให้เติบโตอย่างยั่งยืน ส่งไม้ต่อกิจการไปยังทายาทธุรกิจรุ่นถัดไป
นางพิกุล ศรีมหันต์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า เอสเอ็มอีในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจครอบครัว แต่สามารถดำเนินธุรกิจต่อในรุ่นที่ 2 ได้เพียง 30% และลดลงเหลือเพียง 12% ในรุ่นที่ 3 และ 3% ในรุ่นที่ 4 ธนาคารจึงมุ่งสนับสนุนลูกค้าส่งต่อธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยเริ่มจากกลุ่มธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน ธุรกิจที่กำลังเผชิญความท้าทายจากการเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกับการส่งต่อธุรกิจให้ทายาท
โดยจัดงานสัมมนา Bootcamp “Next-Gen Business Leaders: การต่อยอดธุรกิจสำหรับผู้สืบทอด เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ การแชร์ไอเดียการต่อยอดธุรกิจ รวมถึงแนะนำเครื่องมือทางการตลาดรูปแบบใหม่ ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการสานต่อกิจการจากรุ่นสู่รุ่น โดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันพลังไทย นำผู้ประกอบการและทายาทธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน เข้าร่วมฟังการสัมมนาจำนวน 62 บริษัท
“สถานีบริการน้ำมันเป็นธุรกิจที่ต้องปรับโมเดลธุรกิจสู่ Less Brown เพื่อเพิ่มยอดการเข้าใช้บริการในสถานีบริการ นอกเหนือจากธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์นักเดินทาง เช่น บริการนวด สปา รองรับลูกค้าที่มีระยะเวลารอคอยการชาร์จรถอีวีในสถานีบริการน้ำมัน เป็นต้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการควรบริหารกิจการให้เกิดประสิทธิภาพ ด้วยการนำเครื่องมือทางการเงินมาใช้ปรับปรุงและขยายกิจการสู่ความยั่งยืน”
SCB พร้อมสนับสนุนเงินทุนเพื่อการปรับตัวธุรกิจ
ธนาคารไทยพาณิชย์ได้จัดเตรียม “สินเชื่อเพื่อความยั่งยืน” ด้วยวงเงินกู้ระยะยาว อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3.99% 1 ปีแรก ผ่อนนานสูงสุด 10 ปี เพื่อติดตั้งโซลาร์รูฟ, การเปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงาน, ติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย และมลพิษ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมี สินเชื่อเพื่อเช่าซื้อรถประหยัดพลังงานวงเงินสูงสุด 30 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 5 ปี และวงเงินกู้หมุนเวียนในธุรกิจสูงสุด 50 ล้านบาท
พร้อมการเสริมแกร่งด้วยวงเงินกู้สินเชื่อสำหรับสถานีบริการน้ำมันและร้านแฟรนไชส์ภายในสถานีบริการ อีกทั้งยังแนะนำบริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตเพื่อธุรกิจ (Business Anywhere) เพื่อให้ซื้อง่ายขายคล่อง วงเงินหนังสือค้ำประกัน และช่วยเจ้าของกิจการลดต้นทุนด้วยการจ่ายเงินเดือนพนักงานผ่านบัญชี SCB Payroll ฟรีค่าธรรมเนียม และไม่มีจำนวนพนักงานขั้นต่ำ เป็นต้น
พึ่งไอเดียทายาทรุ่นใหม่สร้างจุดขายไลฟ์สไตล์ในปั๊ม
นายพัฒนา ตั้งกิติกุล นายกสมาคมการค้าผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมันพลังไทย กล่าวว่า ปัจจุบันโครงสร้างกำไรของสถานีบริการน้ำมันเปลี่ยนไป จากเดิมที่มีรายได้จากการจำหน่ายเป็นน้ำมันเป็นหลัก เป็นการสร้างกำไรจากธุรกิจเสริมมากขึ้น ขณะที่โครงสร้างธุรกิจเสริมในปั๊มน้ำมันเปลี่ยนไปเช่นกัน จากปัจจุบันที่คนส่วนใหญ่นิยมซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ ดังนั้นเมื่อปั๊มน้ำมันถูกสานต่อโดยคนอีกรุ่น จึงต้องนำความคิดและไอเดียใหม่ๆของคนรุ่นใหม่ มาดึงดูดผู้ใช้บริการ นำจุดเด่นและความแตกต่างแต่ละพื้นที่มาผสมผสานการให้บริการ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าและนักเดินทางทั้งขาประจำและขาจร งานสัมมนาครั้งนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจในการปรับเปลี่ยนธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน
การปรับโมเดลธุรกิจคือทางรอดธุรกิจครอบครัว
นายเฉลิมเกียรติ เป็นศิริ ผู้ก่อตั้งสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ลุงเท่งชะอำจ. เพชรบุรี กล่าวว่า ทำเลของปั๊มน้ำมัน ปตท. ลุงเท่ง ชะอำ อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว จึงมีคู่แข่งจำนวนมาก เดิมเคยวิธีจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าใช้บริการ แต่พบว่ายิ่งลงทุนมาก กำไรยิ่งน้อยลง จึงทบทวนกลยุทธ์ด้วยการทำธุรกิจเสริมในปั๊ม ดึงร้านค้าในชุมชนเข้ามาร่วมขาย และสร้างสรรค์ให้ทุกพื้นที่เป็นแหล่งสินค้าของฝากสำหรับนักเดินทาง ซึ่งสามารถผลักดันยอดขายให้เพิ่มมากขึ้น
นายการันย์ พฤกษ์รังสี ผู้บริหารรุ่นสอง สถานีบริการน้ำมัน PTT กัลปพฤกษ์ จ. พังงา กล่าวว่า แม้ทำเลจะอยู่ในถนนเส้นหลักและติดแหล่งท่องเที่ยว แต่พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนจากการใช้รถขนาดใหญ่มาเป็นรถขนาดเล็ก และจำนวนรถเข้ามาใช้บริการน้อยลง ทำให้ยอดขายน้ำมันที่ลดลง จึงนำสินค้าแบรนด์ดังเข้ามาเสริม และปรับพื้นที่ส่วนหนึ่งให้เป็น Food Truck จัดทำห้องละหมาดและร้านอาหารภายในปั๊มน้ำมันต้องเป็นฮาลาล เพื่อรองรับลูกค้าหลักที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย
โดยช่วงแรกที่เข้ามาสานต่อกิจการ จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากเพื่อพัฒนาปั๊มน้ำมันให้เป็นมากกว่าการขายน้ำมัน ซึ่งการสื่อสารระหว่างคนในครอบครัวให้เห็นภาพและเข้าใจตรงกันถึงแนวคิดของการบริหารงานยุคนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งปัจจุบันพิสูจน์ให้ครอบครัวเห็นแล้วว่า การปรับโมเดลธุรกิจสู่นอนออยล์มากขึ้น ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว
นายภูเบศร์ สมประสงค์ ผู้บริหารรุ่นสองสมาชิกสถานีบริการน้ำมัน PTT อ. ด่านช้าง จ. สุพรรณบุรี กล่าวว่า ปั๊มน้ำมันอยู่ในถนนเส้นรอง จึงต้องหาจุดเด่นเพื่อผลักดันยอดขาย และพบว่าธุรกิจไก่ย่างส้มตำที่ปั๊มดำเนินการสามารถพัฒนาไปสู่แบรนด์ได้ จึงสร้างแบรนด์ “แซ่บ สเตชั่น” ให้เป็นที่จดจำของนักเดินทาง และลูกค้าใกล้เคียง
อย่างไรก็ดี อุปสรรคของการทำแบรนด์ คือ ค่าใช้จ่าย และความคิดในการทำงานระหว่างรุ่นที่แตกต่างกัน ซึ่งต้องหาจุดกึ่งกลางเพื่อให้ทั้งสองเจนเนเรชั่นทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น รวมไปถึงการรักษาแรงบันดาลใจ ไฟในการทำงาน เพื่อให้กิจการครอบครัวดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคงยั่งยืน