TK จัดตั้งบริษัทใหม่ “TK Broker” เดินหน้าธุรกิจประกันฯ ตามแผน

0
293

TK ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในประเทศไทยของตระกูล “พรประภา” เผยในกิจกรรม Opportunity Day บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการขยายธุรกิจโดยล่าสุดได้จัดตั้ง บริษัท ทีเค โบรคเกอร์ จำกัด หรือ TK Broker ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท เพื่อดำเนินกิจการเป็นตัวแทนขายประกันวินาศภัยตามแผนการขยายธุรกิจในประเทศของบริษัทฯ ด้านการขยายกิจการในต่างประเทศตามแผนการเพิ่มสัดส่วนลูกหนี้ในตลาดต่างประเทศและลูกหนี้ในประเทศเป็น 50:50

ทั้งนี้ภายในปี 2565 TK ได้เตรียมสภาพคล่อง ถือเงินสดและเงินฝากธนาคารรวม 2,335 ล้านบาท รอเวลาลุยขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศทันทีหากสถานการณ์ต่างๆ ปรับตัวไปในทิศทางที่เอื้อต่อการลงทุน ส่วนการดำเนินงานระหว่างที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังคงอยู่ในภาวะวิกฤติ TK จะใช้กลยุทธ์บริหารกิจการที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุดผ่านดิจิทัลเทคโนโลยี ซึ่งล่าสุดมีลูกค้าใช้บริการผ่าน TK PLUS แอปพลิเคชัน เพิ่มขึ้น 3.2 เท่า และมีลูกค้าใช้บริการผ่าน Line@TK PLUS เพิ่มขึ้น 327 เท่าจากปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 จากจำนวนลูกค้าที่มีอยู่กว่า 300,000 ราย

นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยในกิจกรรมOpportunity Day บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุนว่า เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา TK ได้จัดตั้ง บริษัท ทีเค โบรคเกอร์ จำกัด หรือ TK Broker มี TK เป็นผู้ถือหุ้น 99.99% เพื่อเป็นตัวแทนขายประกันวินาศภัย โดยทำหน้าที่เป็นคนกลางในการคัดเลือกบริษัทประกันที่มีผลิตภัณฑ์ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด และนำเสนอผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้กับลูกค้า ตามแผนการขยายธุรกิจในประเทศของบริษัทฯ

“TK Broker เป็นธุรกิจใหม่ล่าสุดด้วยเงินทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท ที่ TK ได้ขยายธุรกิจไปสู่การเป็นตัวแทนขายประกันวินาศภัย เนื่องจากมองเห็นโอกาสที่ผู้บริโภคปัจจุบันเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการปิดความเสี่ยงต่าง ๆ ด้วยการซื้อประกันในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งเป็นการขานรับนโยบายของภาครัฐและสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงการประกันภัย เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ เรากำลังเร่งพัฒนาบุคลากร พร้อมคัดเลือกผลิตภัณฑ์ประกันต่าง ๆ ออกมานำเสนอให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้นี้” นางสาวปฐมา กล่าว

ประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK

นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK กล่าวเสริมว่า ด้านการขยายธุรกิจในต่างประเทศตามแผนการเพิ่มสัดส่วนลูกหนี้ในตลาดต่างประเทศและลูกหนี้ในประเทศเป็น 50:50 ภายในปี 2565 นั้น เนื่องจากสถานการณ์ต่าง ๆ ในปัจจุบันยังไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ดังนั้น TK จึงใช้เลือกถือเงินสดและเงินฝากในธนาคารซึ่งปัจจุบันมีรวม 2,335 ล้านบาท และรอจังหวะเข้าลงทุนขยายกิจการทันทีที่ทุกอย่างคลี่คลายและเอื้อต่อการลงทุน โดยเฉพาะการเข้าปิดดีลการซื้อกิจการ Myanmar Finance International Limited หรือ MFIL ผู้ให้บริการสินเชื่อในเมียนมา รวมถึงการขยายสาขาเพิ่มเติมของธุรกิจในกัมพูชา และ สปป.ลาว รวมทั้งขยายธุรกิจในประเทศ

“สำหรับตลาดต่างประเทศ ใน สปป. ลาว เรากำลังทยอยเปิดสาขาเพิ่มอีก 3 สาขา ในปากเซ เชียงขวาง และอุดมชัย ส่งผลให้เราจะมีจำนวนสาขาใน สปป. ลาว เพิ่มจาก 3 สาขา เป็น 5 – 6 สาขา ภายใน Q1/2565 นี้ สำหรับในกัมพูชา ปัจจุบันมี 12 สาขา” นายประพล อธิบาย

ระหว่างที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังคงมีจำนวนของผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และภาครัฐยังจำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงกับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และกำลังซื้อ TK จึงเลือกบริหารกิจการด้วยกลยุทธ์ที่เน้นไปที่ประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายโดยรวมภายในองค์กร รวมทั้งการบริหารต้นทุนทางการเงิน และการนำดิจิทัลเทคโนโลยีมาใช้ทั้งภายในองค์กรรวมทั้งในการให้บริการลูกค้า โดยหลังจากที่ได้พัฒนา TK PLUS แอปพลิเคชัน ตั้งแต่ปี 2561 และ Line@TK PLUS  เมื่อปี 2562 ล่าสุด ณ เดือนกรกฎาคม 2564 มีลูกค้าใช้บริการผ่าน TK PLUS แอปพลิเคชัน เพิ่มขึ้น 3.2 เท่า และมีลูกค้าใช้บริการผ่าน Line@TK PLUS เพิ่มขึ้น 327 เท่าจากปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวเป็นตัวเร่งให้ผู้บริโภคปรับตัวหันมาทำธุรกรรมผ่านทางดิจิทัลเทคโนโลยีมากขึ้นแบบก้าวกระโดด และเพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ของพฤติกรรมของผู้บริโภคนี้ TK จะเดินหน้าเร่งนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาบริการตลอดเส้นทางการใช้บริการของลูกค้า (Customer Journey) นายประพล กล่าวทิ้งท้าย

อนึ่ง บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ของประเทศ ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 1,800 คน มีสาขาบริการรวม 75 สาขา มีบริษัทลูกในประเทศ 3 บริษัท และต่างประเทศ 3 บริษัท ในกัมพูชา ลาว เมียนมา ให้บริการลูกค้าเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ทั้งในและนอกประเทศ โดยมีลูกค้าประมาณ 300,000 ราย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่